หลังจากตกเป็นข่าวกับเก้าอี้ผู้จัดการทีมของ เชลซี ได้ไม่นาน แกรม พ็อตเตอร์ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกุนซือคนใหม่ของ เชลซี อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา โดยสัญญาระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายมีระยะเวลานาน 5 ปีด้วยกัน
พ็อตเตอร์ ถือเป็นกุนซือที่คนในวงการฟุตบอลอังกฤษจับตามองมาพักหนึ่งแล้ว หลังจากที่เขาเคยไปสร้างชื่อได้ในลีกสวีเดน ก่อนจะมาทำผลงานได้น่าประทับใจกับ ไบรท์ตันฯ เพียงแต่หลายคนก็คงคิดไม่ถึงว่าเขาจะได้รับงานใหญ่รวดเร็วแบบนี้ ซึ่งช่วงชีวิตของเขาในโลกลูกหนังมันมีเรื่องที่น่าสนใจหลายเรื่องด้วยกัน
- เคยผ่านเกมระดับ พรีเมียร์ลีก
พ็อตเตอร์ เป็นคนหนึ่งที่ก่อนจะมาเป็นกุนซือนั้นเคยผ่านช่วงเวลาการเป็นนักเตะมาก่อน โดยสมัยที่ยังสวมสตั๊ดเขาเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็ก ซึ่งเขาก็ไม่ใช่นักเตะที่โด่งดังมากนัก โดยทีมที่เคยเล่นให้มากที่สุดคือ ยอร์ค ซิตี้ ที่ลงเล่นไปรวมแล้ว 131 นัดจากทุกรายการ และเขาก็ไม่เคยได้แชมป์รายการระดับเมเจอร์เลย
อย่างไรก็ตาม เห็นอย่างนี้ พ็อตเตอร์ เคยลงสนามในเกมระดับ พรีเมียร์ลีก มาแล้ว นั่นคือตอนอยู่กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ในฤดูกาล 1996-97 โดยซีซั่นนั้นเขาได้ลงเล่นในลีกไป 8 เกม แต่สุดท้ายในฤดูกาลเดียวกันเขาก็ถูกขายไปให้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ซึ่งตอนนั้นเล่นอยู่ใน ดิวิชั่น 1 และเขาก็ไม่เคยได้สัมผัสกับพื้นสนามของเกมระดับ พรีเมียร์ลีก อีกเลย
- แฟนบอลรักจนอยากทำรูปปั้นให้
ออสเตอร์ซุนด์ ซึ่งเป็นสโมสรในประเทศสวีเดน ถือเป็นทีมฟุตบอลอาชีพทีมแรกที่ พ็อตเตอร์ รับงานกุนซือให้ หลังจากก่อนหน้านั้นเขาคุมทีมในระดับมหาวิทยาลัยของ ลีดส์ โดยเขาอยู่กับที่นั่นตั้่งแต่เดือนมกราคม ปี 2011 จนถึงเดือนมิถุนายนปี 2018 พร้อมกับทำผลงานได้โดดเด่น อย่างเช่นการพาทีมเลื่อนชั้นจากลีกระดับ 4 ไปถึงลีกสูงสุดได้ภายในระยะเวลาแค่ 6 ปี, นำทีมได้แชมป์ สเวนสก้า คูเพน (เทียบเท่า เอฟเอ คัพ ของ อังกฤษ) 1 ครั้ง รวมถึงพาทีมไปลุย ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เป็นต้น
แน่นอนว่าผลงานระดับนี้ทำให้ พ็อตเตอร์ ถือเป็นที่รักของแฟนบอล ออสเตอร์ซุนด์ หลายคน และความรู้สึกที่คนท้องถิ่นมีให้กับเขาก็มากจนถึงขนาดที่ว่าเคยมีการเขียนจดหมายไปยังสภาเมืองเพื่อขอให้มีการทำรูปปั้นของเขาด้วยซ้ำ แม้ว่า พ็อตเตอร์ จะเป็นคนจากต่างแดนก็ตาม
ถึงกระนั้น พ็อตเตอร์ เคยให้สัมภาษณ์เมื่อราว 5 ปีก่อนเองว่าส่วนตัวแล้วไม่อยากให้มีการทำรูปปั้นของตัวเองเท่าไหร่นัก "ผมหวังว่าพวกเขาจะเอาเงินของพวกเขาไปใช้กับเรื่องอื่นน่ะ นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากๆ"
- เฮฮากับลูกทีมเต็มที่
หนึ่งในสิ่งที่ ออสเตอร์ซุนด์ ต่างจากสโมสรอื่นๆ ก็คือการที่พวกเขามี "คัลเจอร์ อะคาเดมี่" หรือแปลเป็นไทยประมาณว่า "อะคาเดมี่ด้านวัฒนธรรม" โดยมันเป็นกิจกรรมที่จะให้นักเตะมาโชว์ความสามารถด้านอื่นๆ ด้วยเป้าหมายที่ว่าต้องการให้เหล่าพ่อค้าแข้งมีความกล้าในการทำเรื่องอื่นๆ หรือที่คนชอบเรียกกันว่า "ออกจากคอมฟอร์ทโซน", ทำให้นักเตะมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ฯลฯ ซึ่งจะสามารถส่งผลดีกับผลงานในสนามได้ไปด้วย
เรื่องดังกล่าวเป็นไอเดียของ แดเนี่ยล คินด์เบิร์ก ประธานของ ออสเตอร์ซุนด์ ที่รับตำแหน่งดังกล่าวในช่วงที่ พ็อตเตอร์ คุมทีมในสวีเดน ซึ่งกิจกรรมที่พวกเขาทำกันมีทั้งการเล่นละคร, จัดคอนเสิร์ตร็อค, ทำคอนเสิร์ตเพลงแร็พ, เต้นบัลเล่ต์ สวอน เลค อันโด่งดัง ฯลฯ
ที่มันน่าสนใจก็คือ พ็อตเตอร์ เองก็ลงมาร่วมกิจกรรมกับบรรดานักเตะด้วย ทั้งที่จริงๆ เขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย ซึ่งมันก็กลายเป็นการซื้อใจลูกทีมของเขาได้ไปในตัว โดย เจมี่ ฮ็อปคัตต์ หนึ่งในอดีตลูกทีมของเขาที่ ออสเตอร์ซุนด์ เคยเล่าว่า "เขาเต้นบัลเล่ต์คนเดียวต่อหน้าคนหลายพันคน ที่จริงจากการที่เขาเป็นกุนซือน่ะเขาจะสามารถนั่งดูแล้วหัวเราะไปกับมันเฉยๆ ก็ได้ แต่เขาลงมาร่วมกิจกรรมแบบจริงจัง และแสดงให้นักเตะเห็นว่า -ฉันล่มหัวจมท้ายไปกับพวกนายนะ-"
- เด็กเกร็ดบอล -