เกมรับห่วยกว่า เอฟเวอร์ตัน,โกนาเต้ ฝันร้าย! 5 ข้อ ลิเวอร์พูล บุกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด

เกมรับห่วยกว่า เอฟเวอร์ตัน,โกนาเต้ ฝันร้าย! 5 ข้อ ลิเวอร์พูล บุกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด
ไม่ธรรมดาจริงๆสำหรับ "ผึ้งพิฆาต" เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล และต่อกรกับทีมยักษ์ใหญ่ได้อย่างสนุกสะใจพระเดชพระคุณจากการทำศึก พรีเมียร์ลีก ที่สนาม จีเทค คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ม.ค.

แม้ในแง่ของการทำเกมรุก หงส์แดง อาจเหนือกว่าชัดเจน แต่เมื่อฟุตบอลตัดสินกันที่ความเด็ดขาดในการสอยตาข่าย "เดอะ บีส์" ซึ่งโชว์พิษสงได้อย่างร้ายกาจจึงกำชัยไปได้อย่างยอดเยี่ยม 3-1 ทั้งๆที่ไม่มี ไอแวน โทนีย์ ศูนย์หน้าคนสำคัญลงสนาม

1.เจ้าบ้านระส่ำไร้ โทนีย์


เบรนท์ฟอร์ด หนีไม่พ้นได้รับข่าวร้ายเนื่องจาก โทนีย์ กองหน้าตัวอันตรายมีอาการบาดเจ็บรบกวนจนไม่สามารถลงเล่นได้

ต่อปัญหาดังกล่าว โธมัส แฟรงค์ กุนซือชาว เดนมาร์ค ตัดสินใจส่ง โยอัน วิสซ่า ลงเล่นแทนศูนย์หน้าอิงลิช ขณะที่การปรับทัพอีกจุดจากเกมบุกทุบ เวสต์แฮม 2-0 คือการใช้งาน วิทาลีย์ ฌาเนลต์ แทน จอช ดาซิลวา

กับการปราศจาก โทนีย์ ที่เจ็บเข่าเล็กน้อยถือเป็นข่าวดีที่ทำให้ ลิเวอร์พูล เบาใจไปได้เยอะเนื่องจากถึงขณะนี้สตาร์ผิวสีซัดประตูในลีกซีซั่นนี้ได้ 12 ลูกแล้วเท่ากับสถิติตลอดซีซั่นก่อนของเขาจึงต้องถือว่าเจ้าตัวกำลังเล่นได้อย่างท็อปฟอร์มโดยแท้

2.หงส์แดง เปลี่ยนทีมสามตำแหน่ง


สำหรับ ลิเวอร์พูล หากเทียบจากเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดที่เฝ้าบ้านชนะ เลสเตอร์ 2-1 เมื่อวันศุกร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ โรเตชั่นทีมสามจุดเพื่อรักษาความสดจากการลงเล่นในช่วงโปรแกรมหฤโหด

ในจำนวนนี้ คอสตาส ซิมิคาส , อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ ฟาบินโญ่ ที่เกมชนะ เดอะ ฟ็อกซ์ หายหน้าไปเนื่องจากลูกชายคลอดได้ลงเล่นเป็น 11 คนแรกก่อนหน้า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ไม่ฟิตเต็มร้อย ,  โฌแอล มาติป และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โดยในรายของกัปตัน เฮนโด้ มีปัญหาได้รับความกระทบกระเทือนที่ศีรษะ

ขณะเดียวกัน โกนาเต้ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติ ฝรั่งเศส ชุดรองแชมป์โลก 2022 ได้ลงสนามให้ต้นสังกัดเป็นนัดแรกด้วยนับตั้งแต่กลับมาจากทัวร์นาเมนต์สำคัญที่ กาตาร์

3.อ็อกซ์ 100

จากการประกาศรายชื่อทีมของ เร้ด แมชีน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ยังอยู่ในโผตัวจริงต่อจึงทำให้อดีตขุนพล อาร์เซน่อล ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ให้กับ เร้ด แมชีน เป็นเกมที่ 100 พอดี

ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นการลงเล่นเกมลีกให้ต้นสังกัดในฐานะตัวจริงติดต่อกันของเขาสามนัดรวดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2020 ซึ่งคราวนั้น อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกหกเกมติดต่อกัน

4.ครึ่งแรกสุดมัน แต่เจ้าบ้านเฮฝ่ายเดียว


ว่ากันตามจริง ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ตได้น่ากลัวตามเคยโดยเฉพาะ ดาร์วิน นูนเญซ สบโอกาสคลำเป้าตั้งแต่ต้นเกม ทว่า ดาบิด รายา โชว์ฟอร์มเซฟได้อย่างยอดเยี่ยมหลายหน

และทำไปทำมาหลังจากต่างก็แลกเกมรุกกันอย่างสนุกกลับกลายเป็นว่า เบรนท์ฟอร์ด ออกนำ 2-0 โดยที่กว่าพวกเขาจะได้สองประตูก็ต้องมีการเช็ค วีเออาร์ และริบสกอร์ไปเหมือนกัน

จากสถิติใน 45 นาทีแรก หงส์แดง ครองบอลได้เหนือกว่าลิบลับถึง 75:25% แต่เป็นเจ้าบ้านที่ได้ส่องยิง 9 ครั้ง และเข้ากรอบ 6 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนได้ยิง 8 ครั้ง และเข้ากรอบ 4 ครั้ง

ฉะนั้นแล้ว มันจึงเรื่องประสิทธิภาพในการยิงประตูของ ลิเวอร์พูล ที่มีปัญหา แต่ที่น่าหนักใจกว่าคือเกมรับซึ่งถึงตอนนี้เป็นเรื่องน่าช็อกอย่างยิ่งที่ เร้ด แมชีน เสียประตูในเกมลีกมากกว่า เอฟเวอร์ตัน ทีมร่วมเมืองไปซะแล้ว

พร้อมกันนี้ มีสถิติบ่งชี้ว่า เดอะ บีส์ ไม่เคยแพ้เกมลีกซีซั่นนี้ด้วยหากพวกเขาลงเล่นในรังตัวเอง และได้ประตูขึ้นนำทีมเยือนก่อน

และด้วยสกอร์นำ 2-0 ของ เบรนท์ฟอร์ด อ็อปต้า ได้คำนวณสถิติความน่าจะเป็นของผลลัพธ์นัดนี้หลังจบ 45 นาทีแรกออกมาดังนี้

เบรนท์ฟอร์ด ชนะ  75.6% 

เสมอ16.6% 

ลิเวอร์พูล ชนะ 7.8% 

5.คล็อปป์ แก้เกมดีแต่ไม่ได้ผลลัพธ์

พลันที่เกมกลับสู่ครึ่งหลัง คล็อปป์ แก้เกมทันทีด้วยการเปลี่ยนตัวสำรองพร้อมกันสามรายทั้ง มาติป ,โรเบิร์ตสัน และ นาบี้ เกอิต้า ที่ได้เสียบแทน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ , ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และ ซิมิคาส

และแค่ห้านาที อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ก็โขกลูกโยนจากกราบขวาของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เข้าประตูตีไข่แตกให้ทีมเยือนได้อย่างรวดเร็วซึ่งเป็นนิมิตรหมายว่า หงส์แดง มีโอกาสคัมแบ็คสูง

อย่างไรก็ดี เบรนท์ฟอร์ด ไม่ได้เสียขวัญแต่อย่างใด และช่วยกันเล่นได้อย่างแข็งแกร่งต้านทานเกมบุกที่บ้าคลั่งของ เครื่องจักรสีแดง ได้โดยตลอดจนกระทั่งมาสบโอกาสได้เม็ดสามในช่วงท้ายเกมจาก บริย็อง เอ็มเบวโม

จึงเท่ากับว่าการคืนสนามเกมแรกของ โกนาเต้ ปราการหลัง ลิเวอร์พูล จัดเป็นฝันร้ายของเขาอย่างแท้จริงเนื่องจากเจ้าตัวสกัดบอลเข้าประตูตัวเองให้เจ้าบ้านนำหน้า แถมยังทำลายความหวังที่จะแบ่งแต้มของทีมด้วยการเสียเหลี่ยมจนทำให้ เดอะ บีส์ ได้เม็ดสามอีกต่างหาก

ขณะเดียวกัน เบรนท์ฟอร์ด พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาประคับประคองสถานการณ์ได้อย่างไร้ที่ติจากสถิติไม่แพ้เลยในเกมลีกหากได้ประตูนำก่อน (ชนะ 15 เสมอ 4)

สำหรับ นูนเญซ กองหน้าค่าตัวแพงจอมทื่อของ หงส์แดง ยังเป็นพวกท่าดีทีเหลวอีกตามเคยเนื่องจากมีโอกาสทำสกอร์แต่ละเกมไม่ใช่น้อยๆ แต่ส่งบอลเข้าประตูไม่ค่อยได้เรื่องโดยถึงตอนนี้ดาวยิง อุรุกวัย ได้ชื่อว่าทิ้งโอกาสทองในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้มากกว่าพ่อค้าแข้งทุกรายไปแล้วรวม 15 ครั้งด้วยกัน

นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล เองก็มีสถิติที่ อ็อปต้า ระบุว่าทิ้งโอกาสทองในซีซั่นนี้ไปอย่างมากมายมหาศาล 51 ครั้ง

ในทางกลับกัน ราย่า มือกาวเจ้าบ้านเซฟลูกอันตรายใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้มากกว่านายทวารทุกราย 15 ครั้งแล้วรวมถึงเกมชนะ ลิเวอร์พูล 4 ครั้งด้วย

สรุปสถิติ 90 นาที ลิเวอร์พูล ครองบอลเหนือกว่า 73:27% และพลิกกลับมาได้ลุ้นยิงประตูมากกว่า 16:10 ครั้ง แต่ส่งบอลเข้ากรอบน้อยกว่า 7:6 ครั้งก่อนพ่ายไปแบบดูไม่จืด 3-1


ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport