ก่อนเปิดฤดูกาลผมเขียนไปแล้วว่า "ทีมม้ามืด" ที่สอดแทรกการลุ้นแชมป์ระหว่าง แมนฯซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล สองทีมซึ่งถูกมองว่าจะร่วมลุ้นแชมป์กันในฤดูกาลนี้ คือทอตแน่มฮอตสเปอร์
นอกจากอ้างอิงโดยอัตราต่อรองในฐานะเต็งสามแล้ว ส่วนตัวก็มองอย่างเชื่อมืออันโตนีโอ คอนเต้ ว่าน่าจะพาทีมมาร่วมลุ้นและกดดันสองทีมเต็งได้
ผ่านไปเกือบครึ่งฤดูกาลกับ 17 นัด ปราฏว่า....
ทีมไก่เดือยทองหล่นจากอันดับสี่ลงมาที่ห้าโดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นเต็ง 6 แซงขึ้นอันดับสี่ไปแล้ว
ทีมคอนเต้ ทำได้ 30 แต้มแพ้ไปแล้ว 5 นัด
ว่ากันตามทฤษฏีการแพ้ 5 นัดใน 17 เกมซึ่งตีว่าครึ่งซีซั่นแบบนี้ โอกาสคว้าแชมป์ "ยาก" ถึง "ยากเหลือเกิน" ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาตามหลัง "จ่าฝูง" อย่างอาร์เซนอล "คู่ปรับ" ตลอดกาลถึง 17 แต้ม
คิดง่ายๆ ก็คือ "หมดลุ้นแชมป์" (แฟนไก่บอก ไม่ได้ลุ้นแต่แรก ผู้สันทัดกรณีเลือกกันเอง 555)
โอเค เมื่อ"ม้ามืด" ตามสายตาผู้สันทัดกรณี แปลงร่างกลับคืนมาเป็นไก่...เพียงแต่ว่า จะเป็นไก่แช่เหล้า, ไก่ดำบอนแบค,ไก่บ้านต้มใบมะขามก็แล้วแต่จะเรียกหากันในยามนี้ เพราะผลงานที่เริ่มตกต่ำลง
โดยเฉพาะ คอนเต้ กุนซือใหญ่ ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเกมรับอันต่อเนื่องจากซีซั่นก่อนได้ กลายเป็นวิกฤตเกมรับอย่างน่าตกใจ
เกมล่าสุดชัดเลย...แพ้ แอสตัน วิลลา "คาบ้าน"
มันเกิดอะไรขึ้นที่ทอตแน่ม สเตเดี้ยม.....
แล้วควรแก้ปัญหาอะไร...ยังไงดี
วิกฤตเกมรับไก่แช่เหล้า
เรื่องการเล่นเกมรับ เรื่องการป้องกันของพวกเขา มันผิดวิสัยของ อันโตนีโอ คอนเต้ โค้ชที่เชี่ยวชาญเรื่องความรัดกุมคนหนึ่งของวงการ
ตัวเลขบอกว่า....นี่คือการเสียประตูอย่างน้อย 2 ลูกติดต่อกัน 7 นัดครั้งแรกนับจาก พ.ย. 1988 สมัยที่ เทอร์รี เวนาเบิลส์ เป็นผ.จ.ก. ไก่เดือยทอง ชุดนั้นมีขุนพลระดับชาติหลายคน พอล แกสคอยน์, แกรี แมบบัตต์, คริส ฮิวจ์ตัน, คริส วอดเดิล, พอล วอลช์, พอล สจวร์ต, นาอิม, วินนี แซมเวย์
ชุดนี้โดนสองลูกไป 8 เกมติดต่อกัน
ส่วนชุดปัจจุบันจะทำตัวเลขเท่ากันหรือไม่รอลุ้นเกมหน้านะครับ เพียงแต่เวลานี้ มันมีหลายตัวเลขที่ทำแฟนไก่เซ็ง.... อย่างเช่น
โดนคู่แข่งยิงขึ้นนำก่อน 7 จาก 8 นัดล่าสุดรวมทุกรายการนะครับ ไม่ใช่แค่พรีเมียร์ลีก หลายเกมก่อนหน้านี้โดนคู่แข่งนำครึ่งแรก ส่วนเกมล่าสุดโดนนำในครึ่งหลัง
และเสียอย่างน้อยสองลูก 7 นัดติดต่อกัน....
ตัวเลขนี้น่าตกใจอย่างยิ่ง
ผลของการเสียประตูแรกให้คู่แข่งใน 7 นัดล่าสุดแล้วต้องมาไล่ยิงคืนยังผลให้ต้องเล่นเพื่อแบ่งแต้ม ส่วนการแซงชนะนั้นมีเพียงแค่ 2 เกม มีโดนบอร์นมัธ นำ 2-0 ไล่ยิงจนชนะ 3-2 และ ชนะลีดส์ สุดมัน 4-3 เกมพลิกไปพลิกมา อีกเกมคือผลเสมอ เมื่อคิดเป็นจำนวนแต้มที่หายไปจากการโดนยิงนำก่อนแล้วมีผลต่อเกมคือ 14 จาก 21 แต้ม
ถ้าดูจากคุณภาพในการเล่นเกมรับของพวกเขาพบว่า การเสียประตูนั้นมาจาก "ส่วนบุคคล" 5 ลูกจาก 25 ลูกที่เสียไป เฉพาะ อูโก ยอริส คนเดียวก็ 3 ลูก เกมล่าสุดเป็นจุดเริ่มให้วิลล่า ชนะ เพราะรับบอลกระฉอกออกมาอย่างไม่น่าผิดพลาดเลย ก็งงๆกันอยู่เหมือนกันว่า ลูกยิงระยะ 35 หลาของ ดักลาส ลุยส์ ดูไม่รุนแรงเกินกว่าที่จะรับให้เข้าซอง
ปรากฏว่าซองแตก....เฉย ก่อนโดน โอลี วัตกินส์ ฉกบอลไปได้แล้วจ่ายย้อนให้ บุนเดีย แปนิ่มๆ 1-0 หรือนัดก่อนหน้านี้ทางด้าน เอริก ดายเออร์ส ก็ทำพลาด จนเป็นผลให้ คอนเต้ ดรอป ออกจากตัวจริงในเกมนี้ ทั้งที่เขาคือหัวใจในเกมรับมาต่อเนื่องจนกลับไปติดทีมชาติอังกฤษช่วงบอลโลก2022
ส่วนประตู 2-0 มาจากการเสียบอลในแดนตัวเองของ แฮร์รี เคน โดนฉกไปได้ ก่อน ดักลาส ลุยส์ ฝากบอลให้ จอห์น แมกกินน์ จากนั้น ดักลาส พาตัวเองทะลุเข้าเขตโทษในพื้นที่ว่างระหว่างเซนเตอร์แบ๊ก แล้วจังหวะเป๊ะที่ แมกกินส์ ปล่อยบอลให้เขาจับบอลเนี้ยบมากแล้วดีดส่วน ยอริส ในระยะ 10 หลาเข้าไป
ทั้งเคน พลาด แล้วตัวรับมีช่องโหว่ เปิดพื้นที่ในเขตให้ วิลล่า เข้าไปลงโทษ
หนักเลย........
เมื่อกวาดตาดูรายชื่อแผงหลังสเปอร์ส
โรเมโร แชมป์โลก ,ดายเออร์, ลองเลต์, เบน เดวิส , ซานเชส ไม่ว่า คอนเต้ จัดสูตรไหน ก็ไม่เป็นสามประสานผู้ฝากความไว้วางใจได้เลย มีเพียงแค่ 4 นัดเท่านั้นที่ "คลีน ชีต" ในพรีเมียร์ลีก
ล่าสุดย้อนไป 15 ต.ค. นัดชนะเอฟเวอร์ตัน 2-0
เท่ากับลงแข่ง 17 นัด ไม่เสียประตู 4 ที่เหลือ 13 นัดเสียประตู โดยมี 9 เกมที่เสียประตูอย่างน้อย 2 ลูก แบบนี้มันคือวิกฤตเกมรับชัดๆ หากไม่เร่งแก้ไข อาจหลุดพื้นที่ช.ป.ล อย่างแน่นอน
นั่นสิ...แล้วจะแก้ไขอย่างไรดี
1 แก้ด้วยการเพรสซิง
เกมล่าสุดใน 45 นาทีแรก คอนเต้ ใช้การเพรสแดนบนและแดนสอง สลับกันในช่วง 20-40นาที ส่งผลให้ แอสตัน วิลล่า ต้องโดนบีบให้ตั้งรับโดยปริยาย ซึ่งจะว่าไป เอเมรี เองก็วางเกมแพลนมารับแล้วรอสวน เพียงแต่การ "รอสวน" ไม่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง
รับอย่างเดียว....มีโอกาสโดนยิงในท้ายครึ่งแรกอีกต่างหาก
จังหวะเช็คล้ำหน้าพลาดของ แอชลีย์ ยัง แล้ว ลองเลต์ วางบอลหลังไลน์ ให้ เปริสิช หลอก โรบิน โอลเซน นายประตู วิลล่า ก่อนตวัดเข้ามาให้ เคน แย่งโหม่งกับ คอนซ่า ได้ แต่จังหวะนั้น อ.ยัง ถอยไปคุมเส้นแล้ว...จึงโหม่งสกัดออกมา ถือว่าแก้ตัวได้
การเล่นเพรสแดนบนและแดนสอง ทำให้วิลล่า ห่างไกลจากกรอบโทษสเปอร์ส และทำให้ภาระของกองหลังลดลง จะว่าไปมันคือวิธีการที่ดีแต่เมื่อลงไปเล่นแล้ว จะเพรสตลอดเวลาก็ใช่ที่ พลังจะหมดไป หากเพรสแล้วทำได้แค่ปลดเปลื้องความกดดันในเกมรับ แต่กลับยิงวิลล่าไม่ได้
มุมแทกติกมันได้ผลแค่ครึ่งเดียวคือ เกมรับไม่โดนเล่นงาน แต่รูปเกมมันออกสูสี อึดอัด เพราะทำอะไรคู่แข่งไม่ได้ ซึ่งวิลล่าเองก็พอใจ รับแล้วไม่เสียหายอะไรในรูปเกม
ถ้ายึดวิธีนี้ต้องชัวร์ว่าเกมรุก พร้อมเจาะแดนสามแล้วยิงได้
2 ปรับระบบมั้ย
หลัง 3 ลองเปลี่ยนมาเล่นแบ๊กโฟร์ ดู ซึ่งคงเป็นเรื่องยากสำหรับการเปลี่ยน ระบบ หลังสามของ คอนเต้ แต่..เจอร์เก้น คลอปป์ ที่ว่าแน่วแน่ในระบบ 4-3-3 ก่อนบอลโลกแก้ปัญหาในทีมด้วยระบบ 4-4-2 ถือว่าพอใช้ได้อยู่ (ตอนนี้กลับมาเล่น 4-3-3 ละ)
ตรงนี้วัดใจ คอนเต้ ว่าจะกล้าปรับระบบการเล่นมั้ย
4 เน้นเกมรับให้มากขึ้น
อันนี้มีความเป็นไปได้มากสุด เชื่อว่า คอนเต้ น่าจะเน้นแทกติกที่เขาใช้อยู่แล้วให้มันเข้มข้นขึ้น นั่นคือรับแดนสองและตั้งรับลึกหน้าเขตโทษ เพื่อให้เกมรับนิ่ง ทำให้ยากในการเจาะ ส่วนที่ต้องเติมคือ "สมาธิ" ของลูกทีมในการป้องกัน ที่ คอนเต้ ต้องเคี่ยวอย่างหนักนับจากนี้
จากนั้นค่อยรอสวนกลับในแบบที่คุ้นเคย
3 ซื้อกองหลังเสริม
หากดูนักเตะกองหลังของแอสตัน วิลล่า ทั้งคู่เซนเตอร์อย่าง ไทรอน มิงส์และ เอริ คอนซา ซึ่งจะว่าไปไม่ได้ดีไปกว่า เซนเตอร์ของสเปอร์ส แต่พวกเขากลับ "คลีน ชีต" ในแบบที่ไม่ระคายเคืองอะไรเลยนัดนี้
กระนั้นถ้าตกใจกับปัญหานี้ คอนเต้ น่าจะบอก แดเนียล เลวี ประธานสโมสรจากกลุ่มทุน ENIC ของบซื้อเซนเตอร์หรือกองหลังมาเสริม ดูแล้วค่อนข้างยาก เพราะมีตั้ง 5 คนแต่กลับเล่นได้ไม่ดีเลย บวกกับวิงแบ๊กอีก 4 คนสลับกันได้
4 ซื้อตัวรุกเสริม
ขณะเดียวกันจะโทษเกมรับเสียทีเดียวก็ไม่ได้ หากมองเกมล่าสุดปัญหาที่เกิดขึ้นนัดแพ้ แอสตัน วิลล่า นั่นคือ "เกมรุก" รุกไม่ได้ แฮร์รี เคน ได้บอลน้อยและมีส่วนไม่มาก แตกต่างจากหลายๆเกมที่แม้เสียประตูยังยิงคืนได้
ซน ฮึง มิน นี่เล่นไม่ออกเลย ทำบอลเสียบ่อย ส่วนทางด้าน ไบรอัน กิล ก็ยังอ่อนประสบการณ์ ช่วยอะไรไม่ได้ แล้วเมื่อมีการบาดเจ็บของตัวรุกทั้ง คูลูเซฟสกี้, ริชารลิซอน ขนาด ลูคัม มูร่า ยังเจ็บ
บางที การซื้อตัวรุกมาเสริมด่วน...อาจเป็นอีกวิธีหนึ่งในการแก้ปัญหาเกมรับ
ปิดเกมรับด้วยการรุก ได้ตัวรุกมาใหม่ แบบใช้งานได้เลยจะช่วย เคน, ซน และเมื่อตัวบาดเจ็บหายกลับมา "ศักยภาพ" แนวรุกของทีมจะแกร่งขึ้น
กระนั้น...ช่วงตลาดใหญ่ ซัมเมอร์ที่ผ่านมา เลวี ประธานสโมสรใช้งบประมาณจัดหานักเตะเสริมทีมประมาณ £ 230 ล้าน กล่าวคือใช้ไปไม่น้อยแล้ว คอนเต้ เองก็บอกหลังแพ้แอสตัน วิลล่าล่าสุด เมื่อถูกนักข่าวถามเรื่องซื้อนักเตะเสริมทีม เขาบอกว่าทีมลงทุนใช้ไปพอสมควร
การเสริมตัวรับและรุกอาจเป็นข้อจำกัด
กระนั้น...บางทีการแก้ปัญหามันคือเรื่องเร่งด่วน แค่ว่าจะเลือกแบบไหน
เมื่อมองตารางคะแนน ตอนนี้แมนฯยูฯแซงไปแล้ว แต่ช่องว่างยังอยู่ในระยะเอื้อมถึง กลับมาเล่นให้ดีในช่วงนับจากนี้ มันยังมีโอกาสครับ อีกตั้ง 21 นัด ยังมีอะไรให้พลิกผันตลอดเวลาสำหรับพรีเมียร์ลีกปีนี้
ดังนั้น....บางทีมองมุมกลับ เมื่อเกมรับมีปัญหา แก้ไขยาก
ซื้อตัวรุกเสริมศักยภาพของดีที่มีอยู่ เพื่อมาลุ้นยิงประตูช่วยทีมให้ชนะ
แบบเสีย 1 ยิง 2 เสีย 2 ยิง 3 จบเกมรับสามแต้ม
บอลชนะไปเรื่อยๆ ความมั่นใจจะเกิดขึ้นเอง
สอบถาม "ทรรศนะ" แฟนๆ สักหน่อยครับ
ถ้าให้เลือกแก้ปัญหาวิกฤตเกมรับของสเปอร์ส ที่ถูกมองว่าเป็นไก่แช่เหล้าแมงกะพรุนน้ำมันงานในเวลานี้ จาก 3-4 ข้อที่ผมลองวิเคราะห์มา
เลือกข้อไหนดี...หรือมีไอเดียอย่างอื่น
JACKIE