ดุดันไม่เกรงใจใคร! 7 ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกโดน ฮาลันด์ ลูบคมอย่างไว

ดุดันไม่เกรงใจใคร! 7 ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกโดน ฮาลันด์ ลูบคมอย่างไว
ด้วยอายุเพียง 22 ปี และค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก เป็นซีซั่นแรก แถมลงเล่นไปได้แค่ 14 นัดเท่านั้น

ทว่า ณ บัดนี้ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กองหน้าทีม แมนฯ ซิตี้ ยิงประตูเอาชนะดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก ไปได้แล้วถึงเจ็ดรายด้วยกัน

จากเกมล่าสุดที่ เรือใบสีฟ้า บุกไปกำราบ ลีดส์ 3-1 ศูนย์หน้าร่างยักษ์ตะบันได้สองเม็ด เพิ่มสถิติล่าตาข่ายในลีกเมืองผู้ดีของตัวเองเป็น 20 ประตูแล้ว

สำหรับผลงานที่ยอดเยี่ยมดังกล่าว ฮาลันด์ จึงสร้างสถิติใหม่ให้กับ พรีเมียร์ลีก ได้เรียบร้อยแล้วด้วยการเป็นพ่อค้าแข้งที่ซัดประตูได้ถึงหลัก 20 เม็ดในเวลาที่เร็วที่สุดแค่ 14 นัดเท่านั้น

ฉะนั้นแล้ว คิดหรือว่ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2022/23 จะตกอยู่กับใครหากไม่ใช่ลูกชายของ อัลฟ์ อิงเก้ ฮาลันด์ ซึ่งนำเป็นดาวซัลโวของลีกอิงลิชในเวลานี้ ขณะที่ แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีม สเปอร์ส ตามมาในอันดับสองที่จำนวน 13 ประตู

ว่ากันตามจริง ถึงตอนนี้ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ยังผ่านมาไม่ถึงครึ่งทางดีเลย แต่สตาร์ทีมชาติ นอรเวย์ ทุบสถิติยิงได้ครบ 20 ลูกเร็วที่สุดของ เควิน ฟิลลิปส์ ลงได้เรียบร้อยแล้ว

หลังคลำเป้าได้ 20 ประตู ฮาลันด์ ก็เทียบชั้นได้กับดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก หลายรายไม่ว่าจะเป็น ดิดิเยร์ ดร็อกบา เจ้าของรางวัลรองเท้าทองคำซีซั่น 2006/07 และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กับ คาร์ลอส เตเวซ ซึ่งครองรางวัลร่วมกันในซีซั่น 2010/11 ซึ่งทั้งหมดพังประตูได้ 20 ลูกเช่นกัน

และที่สำคัญ หากไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน อดีตกองหน้าทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็มีสิทธิ์ยิงประตูทำลายสถิติสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก 34 ประตูที่ แอนดี้ โคล (1993/94) และ อลัน เชียเรอร์ (1994/95)  ถือครองได้ไม่น้อย 

หากจะมองให้ต่ำลงไป ฮาลันด์ ก็มีแววทำลายสถิติของ โม ซาลาห์ ในซีซั่น 2017/18 ได้โดยดาวยิงทีม ลิเวอร์พูล สร้างผลงานกระทุ้งได้ 32 เม็ดซึ่งในตอนนั้นลีก อังกฤษ เปลี่ยนมาเล่นกันซีซั่นละ 38 นัดแทนที่จะเป็น 42 นัดเหมือนในอดีต

แต่ก่อนจะถึงวันนั้นซึ่งยังไม่แน่ว่าสตาร์จากถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ถึงขณะนี้เขาทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดใน พรีเมียร์ลีก ของเจ็ดดาวดังได้ตั้งแต่ไก่โห่แล้วดังนี้

-ดิออน ดับลิน ,ไมเคิ่ล โอเว่น และ คริส ซัตตัน - 18 ประตู ซีซั่น 1997/98

โอเว่น หัวหอกหนุ่มแสดงให้เห็นว่าอยู่ในช่วงที่พีกสุดขีดจากการสร้างชื่อได้เช่นกันในศึก ฟุตบอลโลก ปี 1998

ก่อนจะบินไปรับใช้ชาติที่เมืองน้ำหอม หัวหอก ลิเวอร์พูล สอยตาข่ายได้ 18 ประตูแชร์ตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก ร่วมกับ ดับลิน ซึ่งลงเล่นให้ โคเวนทรี เป็นซีซั่นสุดท้ายก่อนย้ายไปร่วมทีม แอสตัน วิลล่า และ ซัตตัน สตาร์ทีม แบล็คเบิร์น ซึ่งรับใช้ กุหลาบไฟ ได้อย่างยอดเยี่ยมหลังจาก เชียเรอร์ ย้ายไปเป็นขุนพลทีม นิวคาสเซิ่ล แล้ว

อย่างไรก็ดี ในซีซั่นนั้นทีมที่คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปครองได้แก่ อาร์เซน่อล โดยหัวหอกของพวกเขาคือ เดนนิส เบิร์กแคมป์ จบซีซั่นในฐานะดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรจากผลงาน 16 ประตู

- จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ , ไมเคิ่ล โอเว่น และ ดไวท์ ยอร์ค - 18 ประตู ซีซั่น 1998/99

ในซีซั่นนี้ คุณพ่อของ ฮาลันด์ ค้าแข้งอยู่กับ ลีดส์ เช่นเดียวกับ ฮัสเซลเบงค์ โดยหัวหอกดัตช์คว้ารางวัลรองเท้าทองคำไปครองจากการตะบันได้ 18 ประตู

อย่างไรก็ดี ดาวยิงผิวสีครองตำแหน่งร่วมกับ โอเว่น ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นปีที่สองติดต่อกันจากจำนวนประตูเท่ากับซีซั่นก่อน ขณะที่ ยอร์ค อดีตกองหน้าทีมชาติ ตรินิแดด แอนด์ โทเบโก ร่วมแชร์ตำแหน่งนี้ด้วยอีกรายหลังกระซวกตาข่ายในลีกได้ 18 เม็ด รวมทุกรายการ 29 เม็ดพา แมนฯ ยูไนเต็ด ผงาดคว้าทริปเปิ้ลแชมป์

- นิโกล่าส์ อเนลก้า - 19 ประตู ซีซั่น 2008/09

ถือเป็นซีซั่นที่สองคู่แค้นเกมแดงเดือด แมนฯ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ ลิเวอร์พูล ของ ราฟาเอล เบนิเตซ ขับเคี่ยวแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก กันอย่างสนุก

ในซีซั่นนี้ หงส์แดง มี เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นตัวอันตรายในแดนหน้า ขณะที่ ผีแดง มีสามหัวหอกอย่าง คาร์ลอส เตเวซ , เวย์น รูนีย์ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นตัวชูโรง

ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครเลยในกลุ่มนี้ที่คว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดซึ่งตกเป็นของ อเนลก้า ที่ลงบู๊ให้ เชลซี เป็นซีซั่นแรกแบบเต็มตัวหลังย้ายมาจาก โบลตัน เมื่อเดือนม.ค.2008

จากการครองตำแหน่งดังกล่าว ต้องถือว่ากองหน้าเฟรนช์แมนโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจหลังจากซีซั่นก่อน เขาทำหน้าที่พลาดในการดวลลูกโทษจนทำให้ สิงห์บลูส์ พ่าย แมนฯ ยูไนเต็ด ในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก


ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport