ไม่ใช่ความลับว่าเอริค เทน ฮากชื่นชมในตัวโคดี้ กัคโปมาตลอดนับแต่สมัยทำงานในบ้านเกิดโดยย้อนไปตอนซัมเมอร์ก็ได้ต่อสายตรงเข้าหาเป็นการส่วนตัวเพื่อโน้มน้าวให้เลือกย้ายมาอยู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่ากันว่าเวลานั้นดีลทุกอย่างเกือบบรรลุแล้วเพียงแต่ต้องระงับเอาไว้ภายหลังเซ็นเอาอันโตนี่มาจากอาแจ็กซ์ในราคา86ล้านปอนด์
โชคดีที่ต่อให้มีหลายสโมสรสนใจเช่นกันแต่ก็ไม่มีใครสมหวัง อย่างในพรีเมียร์ลีกก็มีลีดส์กับเซาธ์แฮมป์ตัน
เทน ฮากจึงหวังเสมอว่าจะคงเป็นเขาที่ได้ทำงานกับดาวรุ่งวัย23ผู้ที่มีสถิติทั้งยิง/แอสซิตส์รวมถึง 35 ลูกให้พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นและทีมชาติเนเธอร์แลนด์ตลอดซีซั่นที่ผ่านมา
หากใจหนึ่งก็สะท้านว่าด้วยผลงานที่ร้อนแรงในบอลโลกฉบับทะเลทรายก็ย่อมทำให้ราคาถีบตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็ย่อมตกเป็นที่หมายปวงจากพวกทีมชั้นนำยุโรปเพิ่มขึ้น หนึ่งในนั้นรวมถึงเรอัล มาดริดของสเปน
การไปของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ได้ทิ้งปัญหาให้เทน ฮากต้องสะกิดไปยังบอร์ดบริหารว่าตลาดมกราฯนี้ต้องหาคนมาแทนให้ได้...คนๆนั้นก็ต้องเป็นตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าไว้ก่อน
คุณสมบัติของกัคโปจึงไม่ตรงตามความต้องการ ณ เวลานี้ซะทีเดียว(ย้ำว่า ณ เวลานี้)เนื่องจากต่อให้บทบาทกับทีมอัศวินสีส้มที่เข้าตาหลายคนช่วงเวิล์ด คัพจะยืนตัวสูงคอยทำสกอร์แต่ตำแหน่งที่ถนัดจริงๆเป็นริมเส้นด้านซ้ายมากกว่า
การที่ถลุงเงินไปไม่ต่ำกว่า220ล้านปอนด์ในหน้าร้อนก็ทำให้งบประมาณที่คงเหลืออยู่มีจำกัด นี่เองเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาชะลอดีลนี้แต่ที่ไม่คาดคิดมาก่อนก็เป็นว่าคู่อริตลอดกาลอย่างลิเวอร์พูลนั้นได้แอบเข้าคุยกับพีเอสวีลับๆนับแต่จบฟุตบอลโลก
ถามว่ากัคโปอยากไปสวมชุดสีแดงโลโก้อสูรไหม?
แน่นอน-เขาเองมีความฝันเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามการที่สโมสรที่ตอนนี้มีความมั่นคงกว่าในหลายด้านโดยเฉพาะมีโค้ชชื่อว่าเจอร์เก้น คล็อปป์ยื่นมือเข้ามาสอดจึงทำให้เจ้าตัวเปลี่ยนใจในทันที นี่ก็ยังเป็นดีลที่แม้แต่สาวกหงส์เองก็ประหลาดใจว่าทำไมหนนี้ทีมรักของพวกเขาถึงออกตัวเร็ว จากที่ปกติต้องรอให้แฟนด่าหรือว่ารอวันท้ายๆของเส้นตายปิดตลาด
วงในของแอนฟิลด์เผย(ส่วนตัว)กับสื่อรายหนึ่งว่าพวกเขาได้ส่งแมวมองตามดูฟอร์มกัคโปมาสม่ำเสมอซึ่งรายงานที่ออกมาก็อยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม เป็นเป้าหมายเพื่อแผนสร้างทีมระยะยาวได้ กระนั้นจูเลี่ยน วอร์ด ผอ.กีฬาของทีมผู้ที่เพิ่งประกาศขอลงจากตำแหน่งในซัมเมอร์นี้มองว่าสำหรับรายนี้จะนิ่งนอนใจไม่ได้ อย่างยิ่งภายในทีมเองก็มีตัวรุกที่บาดเจ็บยาวอยู่
ดังนั้นเวลาเพียงชั่วโมงเศษๆภายหลังคล็อปป์พาทีมเก็บสามแต้มที่วิลล่า พาร์คก็มีข่าวดีซ้อนเข้ามาให้เหล่าเดอะ ค็อปได้ชื่นมื่นกัน มีแถลงการณ์ยืนยันเองจากสโมสรแดนกังหันโดยถึงค่าตัวยังไม่แน่ชัดแต่จะเป็นสถิติใหม่ของพีเอสวีแน่นอน คาดกันตอนนี้ตกราวๆ37ล้านปอนด์(มีออพชั่นเพิ่มถึง50ล้าน)
อีกครั้งกับอีกผู้เล่นที่ยืนยันในแนวทางซื้อตัวของลิเวอร์พูลยุคนี้
1.อายุต่ำกว่า25(นูนเยซ, โชต้า, ดิอาซ, ฟิร์มิโน่, มาเน่และซาล่าห์เป็นต้น)
2.ราคาไม่เวอร์ไป
3.มีคาแรกเตอร์ที่น่าจะเข้ากับบอลสไตล์ของโค้ชผู้นิยมการสวมหมวก
กัคโปมีครบในนั้น จุดเด่นในสนามก็ยังอยู่ตรงทักษะการพาบอลไปกับตัวได้ดี, สปีดความเร็วที่พร้อมฉีกเกมรับคู่แข่งและที่สอนกันไม่ได้ก็อยู่ตรงสัญชาติญาณการไปยืนอยู่ถูกที่ถูกเวลา ทั้งหมดนั้นใครที่ได้ตามดูทีมดัตช์แมนเล่นในบอลโลกที่ผ่านมาก็คงพอเห็นภาพตามได้
จากบทสัมภาษณ์ของอดีตโค้ชที่เคยทำงานด้วยสมัยอยู่ทีมเยาวชนของพีเอสวีก็ยังได้อีกว่า"เขารักที่จะทำประตูหรือแอสซิตส์ เขาจะต้องทำได้อย่างใดอย่างหนึ่งแต่หลังจากจบในแต่ละเกมสิ่งที่เขาต้องการมากกว่าก็เป็นการพัฒนาตัวเอง เขามักจะมาถามว่ามีจุดใดอีกบ้างที่เขาต้องปรับปรุง เขาก็จะซ้อมหนักในจุดนั้นเพื่อยกระดับตัวเอง นี่คือโคดี้"
ความที่ครอบครัวมีสายเลือดนักกีฬาทั้งหมดก็ด้วยทำให้เจ้าตัวยิ่งมีความทะเยอทะยานอยากประสบความสำเร็จให้สูงที่สุด อย่างพ่อที่พื้นเพมาจากประเทศโตโกก็เคยเป็นอดีตนักฟุตบอล ขณะที่แม่นั้นมีดีกรีอดีตนักรักบี้ของเนเธอร์แลนด์โดยที่น้องชายก็เดินตามรอยเข้าสู่อะคาเดมีย์ของพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นเรียบร้อย
"พ่อแม่ของเขาเลี้ยงดูลูกอย่างมืออาชีพ ความที่ต่างเคยเป็นนักกีฬาจึงรู้ว่าควรทำอย่างไรเพื่อให้ลูกชายอยู่ในกรอบของนักกีฬาที่พร้อมเติบโต บางครั้งก็ชมเมื่อทำได้ดี บางครั้งก็มีทำให้ลูกผ่อนคลายหลังการซ้อมหนักและแน่นอนบางทีก็ต้องมีเข้มงวดกันบ้าง"
ก่อนนี้คล็อปป์เองก็มักย้ำว่าทีมไม่เคยปิดประตูเรื่องการใช้เงินหานักเตะใหม่เข้ามา เพียงแต่ก็เหมือนที่ผ่านมาว่ามันจะต้องเป็นนักเตะที่มีคาแรกเตอร์ที่เข้าได้กับทีมรวมถึงราคาต้องรับได้ การที่กัคโปเตรียมมาตรวจร่างกายในเมอร์ซี่ย์ไซด์ในไม่กี่ชั่วโมงจากนี้ก็เหมือนการตีโจทย์ให้แตกละเอียดอีกครั้งว่าตราบใดที่คล็อปป์ยังอยู่ นโยบายนี้ก็จะคงศักดิ์สิทธิ
ถ้าจำกันได้ตลาดหน้าหนาวปีที่แล้วก็ปาดหน้าท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์สไปเอาหลุยส์ ดิอาซมาซึ่งก็มาจุดประกายให้ทีมได้อยู่บนเส้นทางคั่วสี่แชมป์
ความต่างอยู่ตรงดิอาซมาในในวันสุดท้าย
ส่วนกัคโปนั้นมาแบบสายฟ้าแล่บ ไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงชูเสื้อทางการในวันขึ้นศักราชใหม่นี้
ถึงโม ซาล่าห์จะยังคงผลิตประตูให้ทีมได้และถึงดาร์วิน นูนเยซก็จะคงมีทีเด็ดคุกคามแผงหลังคู่แข่งได้แต่คล็อปป์ต้องการใครอีกสักคนมาเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตีภายหลังที่ทั้งดิอาซกับดีโอโก้ โชต้าต้องพักยาว
ฤดูกาลนี้สโมสรสีแดงข้างสวนทำไปแล้ว 31 ลูกก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างใด รองแค่แมนฯซิตี้, อาร์เซน่อล, นิวคาสเซิ่ลและสเปอร์ส เพียงแต่แค่อานิสงส์ถึง 9 ลูกหรือเกือบ30%มาจากเกมๆเดียวกับบอร์นมัธตอนปลายสิงหาคม
คล็อปป์ไม่ได้ตาบอดว่าอะไรคือปัญหาหลัก
การโอนถ่ายทีมเป็นเรื่องจำเป็นที่ใครก็อ่านออก กระนั้นมันไม่ง่ายและยิ่งไม่ง่ายเลยสำหรับสโมสรที่มีอาจมีการเปลี่ยนมือเจ้าของ ทว่าที่ทุกคนในสโมสรเข้าใจตรงกันก็คือทีมต้องรักษาพื้นที่ท็อปโฟร์ให้ได้เพราะการได้กับไม่ได้ไปแข่งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเป็นช่องว่างที่คล็อปป์ได้กรอกใส่หูทีมงานทุกชีวิตว่าถ้าลิเวอร์พูลจะมีโอกาสกลับไปแย่งแชมป์กับแมนฯซิตี้ก็ต้องห้ามตกจากสี่อันดับแรกเด็ดขาด
นอกจากกัคโปแล้วก็ยังมีชื่อของจู๊ด เบลลิ่งแฮม สตาร์ทีมชาติอังกฤษอีกรายที่พวกเขาจะทำทุกทางเพื่อดึงมาสู่แอนฟิลด์ให้ได้ นี่ก็ชัดเจนถึงแผนระยะยาว
ลิเวอร์พูลอาจต้องเสียบุคลากรสำคัญไปสักกี่คนแต่ก็ยังอุ่นใจได้ตราบเท่าที่'บอส'ของชาวหงส์ยังอยู่
สำหรับกองเชียร์อสูรทั้งหลายแล้วมันจะมีแค่กองหน้าเจ๋งๆเข้ามาสู่ทีมในเดือนมกราคมนี้เท่านั้นที่จะลบล้างความผิดหวังกับการโดนคู่อริฉกผู้เล่นที่เคยถูกจับใส่กล่องผูกโบว์แทบมาประเคนให้ถึงตัก...
"ไก่ป่า"