ฟอร์ทูน่า ซิททาร์ด มีช่วงที่มีผู้เล่นในสนามพร้อมกัน 12 คน ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะไล่ตีเสมอ ฮีเรนวีน ทีมของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้ จนทำให้อดีตหัวหอกคนดังฉุนสุดๆ
เกิดความสับสนในช่วงท้ายเกมของศึก เอเรดิวิซี่ เนเธอร์แลนด์ส นัดที่ ฮีเรนวีน เปิดบ้านเจอกับ ฟอร์ทูน่า ซิททาร์ด เมื่อทีมเยือนมีผู้เล่นอยู่ในสนาม 12 คน
ในช่วงนาทีที่ 88 ซึ่งเป็นตอนที่ ฮีเรนวีน นำอยู่ 2-1 นั้น ซิททาร์ด ตัดสินใจเปลี่ยน โอเว่น จอห์นสัน ลงไปแทน ดอนแฟ็ค ฟอสโซ่ และ ดาริโย กรูซิช ลงไปแทน ยาสเปอร์ ดาห์ลเฮ้าส์
อย่างไรก็ตาม มันเหมือนจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อคนที่วิ่งออกจากสนามในตอนที่ กรูซิช ถูกส่งลงไปไม่ใช่ ดาห์ลเฮ้าส์ ทำให้แข้งคนนั้นกลับลงไปเล่นต่อ ขณะที่ ดาห์ลเฮ้าส์ ก็ยังอยู่ในสนามต่อไป ส่งผลให้ช่วงนั้น ซิททาร์ด มีผู้เล่นอยู่ในสนามพร้อมกัน 12 คน
ทั้งนี้ กรรมการก็ปล่อยให้เกมมันเล่นต่อไปพักหนึ่งจน ซิททาร์ด ได้บุกขึ้นไปและได้ลูกทุ่ม ก่อนที่จะมีการสังเกตเห็นว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นจนมีการสั่งให้ ดาห์ลเฮ้าส์ เดินออกจากสนามจากอีกฟากหนึ่งทันที
อย่างไรก็ตาม กรรมการก็ยังให้ ซิททาร์ด ได้เล่นลูกทุ่มเหมือนเดิม ซึ่งตอนนั้น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ อดีตกองหน้าคนดังที่ตอนนี้เป็นกุนซือ ฮีเรนวีน ก็มีท่าทีไม่พอใจในระดับหนึ่ง โดยลูกทุ่มนี้นำไปสู่ลูกเตะมุมที่สุดท้ายแล้วกลายเป็นประตูตีเสมอของ ซิททาร์ด จนทำให้เกมจบลงด้วยการเจ๊ากัน 2-2
หลังจบการแข่งขันนั้น ฟาน เพอร์ซี่ ไม่พอใจมากๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยบอกว่า "มันเป็นเกมที่ฝั่งหนึ่งมี 12 คน ส่วนอีกฝั่งมี 11 คน ผมไม่รู้ว่ามันปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง แต่มันดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นไปแล้ว"
"มันไม่ถูกต้องที่พวกเขามีผู้เล่น 12 คนในสนามเป็นเวลาถึง 1 นาทีก่อนที่จะได้ลูกทุ่มกับลูกเตะมุม ผมถามกรรมการแล้วว่าพวกเขาทำอะไรกันมันไม่ได้เลยเหรอ ยกตัวอย่างเช่นการริบประตู มันไม่ควรจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าขายหน้าสุดๆ"
"พวกเขาได้เล่นโดยที่มีผู้เล่น 12 คนในสนาม ก่อนจะมาได้ลูกทุ่ม ดังนั้นมันจึงเห็นได้ชัดว่าการที่พวกเขามีผู้เล่น 12 คนในสนามมันมีผลอย่างมาก นอกจากนี้ กฎก็ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่ากีฬาฟุตบอลเป็นการดวลกันของผู้เล่น 11 คนต่อ 11 คน ไม่ใช่ 12 คนต่อ 11 คน"