ผมเขียนไปเมื่อช่วงเม.ย. 2021 เกี่ยวกับข่าวการแยกตัวไปจากยูฟ่า ไปจัดตั้งลีกยุโรปใหม่ที่ชื่อ European Super League หรือ ESL เราจะเรียกสั้นๆว่า ซูเปอร์ลีก ก็ได้
ย้อนไปเมื่อสองปีก่อนสักนิดพอเข้าใจว่า...
12 สโมสรร่วมลงนามจัดตั้งซูเปอร์ลีกขึ้นมา นำโดย เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, ยูเวนตุส, แมนฯยูไนเต็ด, แมนฯซิตี้, อาร์เซนอล,เชลซี, ลิเวอร์พูล, สเปอร์ส, แอต.มาดริด, มิลาน, อินเตอร์
ปรากฏว่าทั้งแฟนบอล, องค์กร กระทั่งรัฐบาลอังกฤษออกมาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยให้ทีมจากพรีเมียร์ลีกแยกตัวออกไปเล่นซูเปอร์ลีก ที่มันร้อนแรงกดดันสุดๆคือแฟนบอลทีมตัวแทนจากอังกฤษชุมนุมหน้าสนาม พร้อมใจกันประท้วง เป็นภาพที่ดูออกมาแล้วสมัครสมานสามัคคีกันอย่างยิ่ง
72 ช.ม. เท่านั้นทีมพรีเมียร์ลีกทยอยถอนตัวจากการลงนามครั้งนั้น เหลือไว้แค่ เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนาและยูเวนตุส ที่ยังคงยืนยันว่าจะต้องจัดตั้งให้ได้
ตามมาด้วยการยื่นเรื่องฟ้องศาลสถิตยุติธรรมของยุโรป European Court of Justice หรือECJ ที่ดูแลเรื่องกฏหมายของชาติสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมด
ผ่านไปสองปีจนถึงเมื่อ 21 ธ.ค. 2023 ที่ผ่านมาECJ ตัดสินให้ฟีฟาและยูฟ่า มิชอบด้วยกฏหมาย ไม่สามารถขัดขวางการจัดตั้ง ซูเปอร์ลีก ได้ ตามกฏหมายที่การจัดแข่งขันกีฬาสามารถทำได้อย่างเป็นอิสระ
นั่นหมายความว่าซูเปอร์ลีก สามารถจัดขึ้นได้แล้ว
นี่แหละครับ....ข่าวใหญ่ของวงการฟุตบอลระดับสโมสรโลกจึงเกิดขึ้นอย่างท้าทายอำนาจในการบริหารจัดการของ ฟีฟา และยูฟ่าเอง
อย่างไรก็ตาม....คำสั่งศาลคือการจัดตั้งลีกขึ้นมาแข่งได้ เพียงแต่การจัด ซูเปอร์ลีกนั้น จะต้องไม่กระทบกับยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในแง่กฏหมายด้วยเช่นกัน ข้อนี้ก็ต้องดูกันต่อไปนะครับ
แต่เอาเป็นว่า ซูเปอร์ลีก โดยเรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนา โต้โผใหญ่สองทีมนั้นจัดขึ้นได้แล้วไม่ผิดกฏหมาย (อาจไม่ชอบด้วยกฏ กติกา ยูฟ่า)
ประเด็นที่น่าสนใจจากเรื่อง ซูเปอร์ลีก ที่ผมสังเคราะห์มาให้แฟนๆ ได้เข้าใจง่ายๆ และลองเทียบกับยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกที่ผมเขียนไปวันก่อนดูนะครับ
1 กำเนิดSuper League
จริงแล้วแนวคิดนี้มีมาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่90 โดย ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตเจ้าของทีมเอซี มิลาน และประธานาธิบดีอิตาลี ผู้ล่วงลับไปแล้ว มีการประชุมหารือ จัดโครงร่างรายการนี้ ในช่วงเวลาที่ยังมีฟุตบอลยูโรเปี้ยน คัพ จนกระทั่งยูฟ่า ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบสโมสรยุโรปถ้วยใหญ่ยักษ์นี้ขึ้นมา
จากยูโรเปี้ยน คัพ เป็น ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 1992
นอกจากทีมแชมป์ลีกภายในแล้ว อันดับในลีกตามแรงกิ้งแต่ละสมาคมที่ยูฟ่า ตังเป็นเกณฑ์เพื่อหาทีมวาง มีการแบ่งสายเตะเหย้าเยือนแบบ "มินิ ลีก" ก่อนรอบนอคเอาต์ จนถึงชิงชนะเลิศ (นัดเดียว)
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเริ่มปี 1992 กำลังจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน (ผมเขียนในเพจไปวันก่อน) เป็นแบบใหม่ เริ่มแข่งขันซีซั่น 2024-25 เพิ่มจำนวนทีมเป็น 36 ยึดตามแรงกิ้งเหมือนเดิม มีโคต้าพิเศษเฉพาะชาติที่ผลงานดีระดับสโมสรในซีซั้นนี้อีกสองทีม
หลายคนงงๆ กับรูปแบบใหม่ "สวิส โมเดล" ที่ผมเขียนไป
ย่อยให้เข้าใจง่ายๆ คือ 36 ทีม แบ่งเป็น 4 กลุ่มๆละ9 ทีมตามเส้นทางในลีกของแต่ละชาติที่ผ่านเข้ามา แล้วเรียงลำดับแรงกิ้ง เพื่อแบ่งเข้ากลุ่มทั้ง 4
รูปแบบคือแต่ละกลุ่มจะแข่งกับทีมในกลุ่มตัวเองทีมละ 2 แมตช์ ตามการจับสลาก ไม่ใช่พบกันหมดในกลุ่ม จากนั้นจะแข่งกับทีมในกลุ่ม 2-3-4 จับสลากอีกกลุ่มละ 2 แมตช์ เหย้าหรือเยือนขึ้นกับการจับสลาก มันจะได้ 4 เหย้าและ 4 เยือน ทั้งหมด 8 แมตช์ จากนั้นนับคะแนน เพื่อหา 1-8 ทีมแรกเข้ารอบน้อคเอาต์ ส่วนอีก 8 จะได้จากการเตะเพลย์ออฟ ระหว่างทีมอันดับ 9-24 (ตามตารางคะแนนที่แข่งจบไป) ก็จะได้ 8 ทีมไปเตะกับอันดับ 1-8 อันเป็นรอบ16 ทีมสุดท้ายต่อไป....
2 A22 Sports Management
นี่คือบริษัทตัวแทนของเรอัล มาดริด, บาร์เซโลนาและยูเวนตุสในการจัดตั้ง ซูเปอร์ลีกขึ้นมา ก่อตั้งเมื่อปี2022 โดยอดีตผู้บริหารทีวีเยอรมนีชื่อ แบรนด์ ไรชาร์ต , อนาส ลาการี และ จอห์น ฮาห์น
หน้าที่ของบริษัท มันก็ไม่ต่างอะไรกับยูฟ่า คือจัดการแข่งขัน, หาเงินทุน, ผู้สนับสนุน,ทำเรื่องถ่ายทอดสด.....นั่นแหละ
โดย A22 มั่นใจว่าได้งบประมาณสนับสนุนจาก JP MORGAN บริษัทเงินทุนรายใหญ่ของอเมริกาก้อนโต ระดับ 4-5 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
เรื่องนี้ต้องติดตามครับ
ที่แน่ๆ ผลประโยชน์นั้นจะส่งเข้าสโมสรแบบเต็มๆ ไม่มีหักเบี้ยใบ้รายทางเหมือนยูฟ่า
3 แนวทาง Super League ถ้าเกิดขึ้นได้
- 64 ทีมร่วมแข่งขัน ใน3 ระดับของลีก
- ลีกสูงสุดคือสตาร์(16ทีม)
ลีกรอง คือ ทอง (16ทีม)
ลีกน้ำเงิน (32ทีม)
มีการเลื่อนชั้น ตกชั้นจาก star-gold-blue
- แข่งขันกลางสัปดาห์
- ชมฟรีผ่านแอพ unify
- ไม่มีสมาชิกถาวร (ตอนแรกจะให้มี) ใช้เกณฑ์วัดจากผลงานภายในลีกของแต่ละชาติเพื่อคัดเลือกมาแข่งขันซูเปอร์ลีก
- บริษัทผู้จัดแข่งชื่อ A22 sports management
- ตอนนี้มีทีมพร้อมแข่ง2 ทีม เรอัล มาดริด และบาร์เซโลนา
ส่วนกลุ่มPL ยืนยันแล้วจะอยู่ในการแข่งขันของยูฟ่า
- รอบน็อคเอาต์ จะเป็นการหาแชมป์แต่ละลีก รวมทั้งทีมเลื่อนชั้นจากลีกรองขึ้นมา ในท้ายฤดูกาล
4 พรีเมียร์ลีกไม่ร่วมแข่ง
ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจจาก super league นั่นคืออังกฤษ ออกจากสหภาพยุโรปมาสสองปีแล้วการที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษ สั่งห้ามทีมฟุตบอลจากอังกฤษนั้น ไม่ขัดกฏหมายสหภาพยุโรปแน่นอน และกฏหมายสหภาพยุโรปไม่สามารถใช้ได้กับที่ประเทศอังกฤษ ดังนั้นทีมจากพรีเมียร์ลีกแถลงการณ์แสดงจุดยืนว่าไม่ร่วมแข่งขันซูเปอร์ลีกพวกเขาจะแข่งขันทัวร์นาเม้นต์ของยูฟ่า เท่านั้น
อีกทั้งพรีเมียร์ลีกจะตัดแต้ม 30 แต้มถ้าทีมไหนแยกไปแข่ง และรัฐบาลมี แนวทางป้องกัน ผ่าน football regulator (ยังอยู่ในร่างกฏหมาย)
เช่นเดียวกันกับบาเยิร์น มิวนิค ยืนยันแล้วว่าจะไม่ร่วมแข่งขันซูเปอร์ลีก
ทั้งหมดนั้นคือภาพคร่าวๆของประเด็นข่าวเรื่องซูเปอร์ลีกล่าสุด
ถึงวันนี้สามารถพูดได้เต็มปากแล้วว่า ซูเปอร์ลีก "ไม่แท้ง" สามารถจัดการแข่งขันได้ และเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่จะมาแข่งกับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพียงแต่...มันจะเวิร์คหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง
ถ้า super league ไม่มีทีมจากพรีเมียร์ลีก แม่เหล็กของแฟนบอลทั่วโลกนั้น ความสนุก ความสนใจจากแฟนบอลทั่วโลกจะเป็นอย่างไร เพราะจะว่าไป แฟนบอลหลายภูมิภาคไม่ใช่จะดูบอลพรีเมียร์ลีกอย่างเดียว
แฟนละตินทั้งทวีปดูลา ลีกาและกัลโช เป็นหลัก
แฟนบอลจีน, ญี่ปุ่น ดูหลายลีกและก็เป็นแฟนบอลสเปนและอิตาลี ไม่น้อยเลย
A22 และกลุ่มผู้บริหารเรอัล มาดริด, บาร์ซ่าและยูเวนตุส น่าจะมีข้อมูลเรื่องฐานแฟนบอลอยู่แล้ว....
เพียงแต่...การจัดตั้งซูเปอร์ลีกแบบชมฟรีผ่านแอพ
แหล่งรายได้, เงินสนับสนุน มุมธุรกิจนั้น เราคงต้องรอดูการเปิดเผยจาก A22 ว่าพวกเขามีแนวทางอย่างไรเรื่องนี้
ถึงจุดนี้รอดูการเปิดเผย Business Model ของ A22 อย่างชัดเจน รวมทั้งการเชิญสโมสรที่จะมาร่วมแข่งขันซูเปอร์ลีก
ภาพมันยังไม่ชัดมากนักสำหรับพวกเราในเวลานี้ แต่ที่มั่นใจได้เลยก็คือว่า....ซูเปอร์ลีก....ก่อกำเนิดขึ้นมาแล้วจริงๆ
JACKIE