อาร์แซน เวนเกอร์ ยืนยัน รูปแบบใหม่ของศึกชิงแชมป์สโมสรโลกจะเป็นเรื่องดีต่อวงการฟุตบอลโดยรวม พร้อมบอกว่าทุกวันนี้สวัสดิภาพของนักเตะดีขึ้นเยอะแล้ว
อาร์แซน เวนเกอร์ ประธานหน่วยงานพัฒนากีฬาฟุตบอลทั่วโลกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) กล่าวปกป้องรูปแบบใหม่ของศึกชิงแชมป์สโมสรโลก โดยบอกว่ามันจะช่วยส่งผลดีต่อพัฒนาการของวงการฟุตบอลทั่วโลกได้
ฟีฟ่า เพิ่งประกาศว่าศึกชิงแชมป์สโมสรโลกแบบใหม่นั้นจะแข่งกันทุกๆ 4 ปี เริ่มจากปี 2025 และมันจะมีการเพิ่มทีมเป็น 32 ทีมด้วย โดยจะเริ่มจากรอบแบ่งกลุ่ม จำนวน 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แล้วต่อด้วยรอบน็อกเอาท์ หรือก็คือจะเหมือนกับศึก ฟุตบอลโลก ในช่วงผ่านๆ มา แต่หลายคนมองว่ามันทำให้นักเตะต้องเหนื่อยเกินไป
เวนเกอร์ เผยว่า "หลายสโมสรจะได้รับผลกระทบที่ดีมากๆ เพราะมันจะช่วยเพิ่มทรัพยากรให้กับสโมสรต่างๆ ทั่วโลก เพื่อที่พวกเขาจะได้พัฒนาและลงเล่นอย่างสูสีได้ ในยุโรปน่ะเราโชคดี (ที่มีทรัพยากรเยอะตั้งแต่แรก) แต่มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องทำให้ฟุตบอลมันมีสภาพที่ดีทั่วทั้งโลก และนี่จะเป็นการสร้างโอกาสให้ทีมในทวีปอื่นๆ มีความก้าวหน้าได้ มันจะทำให้นักเตะหลายคนทั่วโลกมีโอกาสลงเล่นในระดับสูงสุดมากขึ้น"
"ผมยอมรับว่าปฏิทินการแข่งขันมันยุ่งเหยิงพอตัว แต่นี่เป็นรายการที่จะจัดกันในทุกๆ 4 ปี และแน่นอนว่ามันต้องเคารพต่อช่วงเวลาพักระหว่างทัวร์นาเมนท์กับหลังจากนั้นด้วย สวัสดิภาพของนักเตะในช่วง 20 ปีมานี้มันดีขึ้นอย่างมากเช่นกัน เมื่อคุณพิจารณาถึงการป้องกันอาการบาดเจ็บ, การทำงานเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย, โภชนาการ และความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ มันไม่แย่เหมือนกับแต่ก่อน"
"นอกจากนี้ วีเออาร์ ก็ช่วยปกป้องนักเตะมากขึ้นด้วย บรรดานักเตะรู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถรอดจากการเข้าสกัดที่แย่ๆ ที่จะทำให้คนอื่นเกิดอาการบาดเจ็บได้อีกต่อไป ดังนั้นโดยรวมแล้วในเรื่องสวัสดิภาพมันถือว่ามีพัฒนาการอย่างมาก และเราก็อยากให้มันมีความก้าวหน้าแบบนั้นต่อไป"