ไม่มีทีมไหนใหญ่เกินกว่าจะตกชั้น! ย้อนรอย 5 ยักษ์ล้มร่วงลีกสูงสุด

ไม่มีทีมไหนใหญ่เกินกว่าจะตกชั้น! ย้อนรอย 5 ยักษ์ล้มร่วงลีกสูงสุด
โอลิมปิก ลียง จะตกชั้น!? ดูไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอีกต่อไปหลังจากผ่าน 10 แมตช์แรกยังคงไร้ชัย อมบ๊วยเหนียวแน่น ดีกรีอดีตแชมป์ลีก เอิง 7 ปีซ้อนก็ไม่ช่วยอะไร

ย้อนไปเพียงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ยังมี อาแจ็กซ์ จมปลักก้นตารางลีกดัตช์ ก่อนเปลี่ยนโค้ชใหม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น เก็บชัย 2 นัดรวดทะยานขึ้นปริ่มๆ กลางตาราง

ที่สุดแล้วทั้ง 2 ยักษ์หลับไม่ควรนิ่งนอนใจ ในอดีตเคยมีหลายต่อหลายเรื่องราวแสดงให้เห็นว่า "ไม่มีทีมไหนใหญ่เกินกว่าจะตกชั้น" ดั่งตัวอย่างคัดมาครบถ้วนทั้ง 5 ลีกใหญ่ตามต่อไปนี้...

เวสต์แฮม 2002/03


ว่ากันว่าเคสนี้คือการตกชั้นที่พลิกล็อกที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ยิ่งกว่า แบล็คเบิร์น 1997/98, ลีดส์ ยูไนเต็ด 2003/04 หรือกระทั่งสดๆ ร้อนๆ เลสเตอร์ 2022/23 เนื่องด้วยหลากหลายปัจจัยมาประกอบกัน

ก่อนอื่นเลยไม่ใช่แค่ เวสต์แฮม ได้อันดับที่ 7 ซีซั่นก่อนหน้า หากยังมีขุมกำลังดีกรีไม่ธรรมดาทั้ง เดวิด เจมส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, โจ โคล, เจอร์เมน เดโฟ, เปาโล ดิ คานิโอ, เทรเวอร์ ซินแคลร์ แต่ทีมชุดนี้ก็กล้าๆ แพ้ถึง 4 จาก 5 นัดแรก มีช่วงเข้าเบรกไร้ชัย 14 เกมรวด ก่อนตกชั้นทั้งๆ ที่เก็บได้ 42 แต้ม เป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลสำหรับทีมตกชั้นพรีเมียร์ลีกจนทุกวันนี้!

โมนาโก 2010/11


การตกชั้นชวนช็อกแห่งเวทีลีก เอิง จากสถานะรองแชมป์ซีซั่น 2002/03 เข้าชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก ปีถัดมา และในฤดูกาล 2009/10 ก็ยังดูดีกับอันดับ 8 และได้รองแชมป์เฟร้นช์ คัพ

ปัญหาหลักๆ ส่งผลให้ โมนาโก ตกชั้นก็คือเก็บผลเสมอมากเกินไปถึง 17 นัดเกือบครึ่งหนึ่งของฤดูกาล ที่เหลือชนะ 9 แพ้ 12 และก็คล้ายกับ เวสต์แฮม ตรงที่ตกชั้นแม้เก็บไปได้ถึง 44 คะแน น้อยกว่า นีซ อันดับ 17 แค่ 2 แต้ม ทั้งยังทำสถิติร่วงด้วยแต้มสูงสุดในระบบแข่งขัน 20 ทีม ยุติช่วงเวลา 34 ปีในลีกสูงสุด ที่สำคัญยังไม่สามารถเลื่อนชั้นกลับมาได้ในปีเดียว

ซามพ์โดเรีย 2010/11


"ลา ซามพ์" เคยเชยชมสคูเด็ตโต้ 1 สมัยฤดูกาล 1990/91 ตามด้วยเข้าชิงแชมป์ยุโรปในปีต่อมา โดยที่จริงพวกเขาตกชั้นมาแล้วรอบนึงเมื่อ 1998/99 ก่อนตีตั๋วกลับมาใน 2003/04 จบอันดับไม่เคยต่ำกว่าเลข 13 ตลอดทั้ง 7 ซีซั่นถัดจากนั้น

ฤดูกาลนั้น 2010/11 ซามพ์โดเรีย ยังได้ไปเพลย์ออฟยูซีแอลหลังจากคว้าอันดับท็อปโฟร์ แต่เหมือนมีกรรมบังดันจับติ้วเจอของแข็งอย่าง แวร์เดอร์ เบรเมน เลยแพ้หล่นไปลุยยูโรปา ลีก แทน โชคร้ายยิ่งกว่าในซีซั่นเดียวกันต้องตกชั้นโดยชนะแค่ 3 แพ้ 15 จาก 22 เกมนับจากขึ้นปี 2011 และตามหลัง เลชเช่ อันดับ 17 ถึง 5 แต้มด้วยกัน

บียาร์เรอัล 2011/12


ทีมเรือดำน้ำเปิดฉากซีซั่น 2011/12 ในฐานะตัวแทนแชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากที่ได้อันดับ 4 พร้อมด้วยขุมกำลังชั้นเลิศทั้ง มาร์กอส เซนน่า, นีลมาร์, ดีเอโก้ โลเปซ, จูเซ็ปเป้ รอสซี่ และ บอร์ฆา บาเลโร่ แต่การปล่อย ซานติ กาซอร์ล่า กับ โจน กัปเดบีล่า ออกไปกลับส่งผลเสียหายกว่าที่คาดคิดเอาไว้

ลางร้ายเริ่มฉายให้เห็นบนเส้นทางชปล. เป็นบ๊วยไร้แต้มในกลุ่มเดียวกับ บาเยิร์น มิวนิค, นาโปลี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่พอฟอร์มแย่ต่อยอดไปยังเกมลีก แพ้ถึง 15 ชนะแค่ 9 มากกว่า ราโย บาเยกาโน่ ทีมเดียวเท่านั้น เก็บได้ 41 แต้มก็ไม่พออยู่รอด พีคได้อีกเมื่อ บียาร์เรอัล ตาม กรานาด้า ที่ 17 แค่แต้มเดียวจากประตูตีเสมอของ ราดาเมล ฟัลเกา หัวหอก แอตเลติโก มาดริด ในนาทีที่ 88 นัดส่งท้ายซีซั่นพอดี!

ชาลเก้ 2020/21


ย้อนกาลเมื่อฤดู 17/18 ชาลเก้ ได้รองแชมป์บุนเดสลีกา ตามด้วยเข้ารอบน็อกเอาต์แชมเปี้ยนส์ ลีก ผ่านมาเพียงไม่กี่ปีในซีซั่น 2021/22 กลับต้องลงเล่นลีกา สอง ครั้งแรกในรอบกว่า 3 ทศวรรษ แม้มีสัญญาณเตือนภัยกับอันดับ 14 และ 12 ในฤดูกาลก่อนหน้าแต่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนแน่ๆ ว่าพวกเขาจะตกชั้น

ในประสบการณ์ร่วลีกสูงสุดครั้งที่ 4 ของสโมสร พวกเขาใช้กุนซือสิ้นเปลืองถึง 5 รายไล่ตั้งแต่ ดิมิทริออส กรัมโมซิส, เดวิด ว้ากเนอร์, มานูเอล บาวม์, ฮู้บ สตีเฟ่นส์ และ คริสเตียน กรอสส์ ทั้งยังเสริมตัวดีๆ อย่าง คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์, เซอัด โคลาชินัช และ ชโคดราน มุสตาฟี่ สุดท้ายไม่ช่วยอะไร ชนะแค่ 3 เก็บรวมเพียง 16 แต้มจาก 34 นัด


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport