"การแข่งขันรายการนี้จัดการแข่งมามาตลอดทุกปี ยกเว้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ซึ่งที่ผ่านมามีทีมฟุตบอลจากมหาวิทยาลัยของไทยเข้าแข่งขันไม่บ่อย โดยล่าสุดเมื่อปี 2018 ส่วนปีนี้มหาวิทยาลัยฯได้รับการติดต่อเชิญทีมเข้าร่วมการแข่งขันจากสหพันธ์ฯโดยผ่านทาง รศ.ดร.ภาสกร นันทพานิช รองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ แผน และประกันคุณภาพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์กีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน (AUSC) ทางมหาวิทยาลัยฯ เห็นว่า เป็นการแข่งขันที่จะสร้างประสบการณ์ให้นักกีฬาของมหาวิทยาลัยฯ มีประโยชน์ในการต่อยอดการพัฒนาทักษะ ความสามารถของนักฟุตบอลไปสู่การแข่งขันระดับอื่นๆต่อไป จึงได้สนับสนุนและส่งทีมเข้าแข่งขัน ซึ่งนักเตะชุดนี้ถือเป็นทีมดาวรุ่งชุดหลักของมหาวิทยาลัยฯจะเรียกชุดใหญ่เลยก็ว่าได้"

รศ.ธรรมรักษ์ กล่าวอีกว่า ปีนี้มีทีมมหาวิทยาลัยจากประเทศในเอเชียเข้าร่วม 8 ทีม โดยเป็นทีมเจ้าภาพ เกาหลีใต้ 2 ทีม และจาก ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, ไต้หวัน,เวียดนาม, ฟิลิปปินส์ และ ไทย ซึ่งการแข่งขันแบ่งเป็น 2 สาย ไทย อยู่สาย บี ร่วมกับ เกาหลีใต้ บี, ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม ส่วน สาย เอ มี เกาหลีใต้ เอ, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน และ มาเลเซีย โดยจะแข่งรอบแรกพบกันหมดในสาย และ ทีมที่ 1 ของสายจะเข้าไปชิงชนะเลิศ ส่วนที่ 2 ของสาย จะชิงอันดับ 3

สำหรับการแข่งขันนัดแรก เมื่อวันที่ 7 กันยายน ไทย พบกับ ฟิลิปปินส์ ผลปรากฎว่า ทีมนักเตะ มรภ.อุบลฯ จากประเทศไทย เป็นฝ่ายชนะ 3-0 ประตู จาก นายทักษ์ดนัย  ผาจุงกูง, นายรัฐศาสตร์ ไชยรักษ์ และ นายชัยทวี สิงเเดง 

รศ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า การส่งทีมเข้าร่วมครั้งนี้เป้าหมายก็เพื่อให้นักกีฬาได้ไปหาประสบการณ์เพื่อการพัฒนาทัษะความสามารถ ส่วนผลงานก็อยากหวังถึงตำแหน่งแชมป์ แต่มองแล้วน่าจะยาก เพราะการเตรียมตัวค่อนข้างน้อย ได้รับเชิญแบบกระทันหัน 1 สัปดาห์ก่อนเดินทาง อีกทั้งเกาหลีใต้เป็นทีมที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามนักเตะทุกคนก็จะพยายามสู้เต็มที่ เพื่อเก็บรางวัลและผลงานที่ดีที่สุดกลับไทยให้ได้