เซลติก ทีมแกร่งของลีกวิสกี้ประกาศแต่งตั้ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อดีตนายใหญ่กลับมารับบทบาทเดิมเป็นคำรอบสองแล้วเมื่อ 19 มิ.ย. โดยมีการเซ็นสัญญากันสามปี
เซลติก ตกเป็นข่าวกับ ร็อดเจอร์ส ตั้งแต่แรกเนื่องจากกุนซือชาว ไอร์แลนด์เหนือ ถูก เลสเตอร์ ซิตี้ ปลดโทษฐานคุมทีมตกจาก พรีเมียร์ลีก ขณะที่ ม้าลายเขียวขาว ต้องการนายใหญ่คนใหม่พอดีเพื่อให้ทำหน้าที่แทน อังเก้ ปอสเตโคกลู ที่ย้ายไปเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ สเปอร์ส
กระทั่งล่าสุด มีการยืนยันว่า บีร็อด หวนกลับไปรับงานกับสังเวียนแข้ง เซลติก พาร์ค เรียบร้อยแล้วโดย จอห์น เคนเนดี้ ที่มีข่าวว่าจะถูก ปอสเตโคกลู ดึงไปช่วยงานในทีม ไก่เดือยทอง จะยังอยู่กับสโมสรต่อเพื่อทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้จัดการทีมเช่นเดิมเช่นเดียวกับ สตีฟ วู้ดส์ , เกวิน สตรั๊คคั่น และ แฮร์รี่ คีลล์ สามสตาฟฟ์โค้ชทีมชุดใหญ่
พร้อมกันนี้ สกาย สปอร์ตส์ เชื่อว่า ร็อดเจอร์ส กลายเป็นกุนซือที่ได้ค่าแรงสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วย มากกว่าช่วงแรกที่เขาได้รับจากสโมสรดังในลีกเมืองน้ำเมา
"ผมดีใจที่ได้กลับมาที่สโมสรอีกครั้ง ผมตื่นเต้นกับโอกาสที่ยิ่งใหญ่นี้ ตอนที่ผมได้รับเกียรติให้กลับมาที่สโมสร ผมตัดสินใจร่วมกับครอบครัว เรามีช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ด้วยกัน และมันเป็นเป้าหมายของผมอีกครั้ง" ร็อดเจอร์ส เปิดใจหลังคืนสู่เหย้า
ทั้งนี้ ก่อนจะบอกลา เซลติก ไปคุมทีม จิ้งจอกสยาม ร็อดเจอร์ส วัย 50 ปีประสบความสำเร็จกับ ม้าลายเขียวขาว อย่างยิ่งใหญ่โดยเขาพาทีมคว้าแชมป์ได้เจ็ดรายการตลอดระยะเวลาสองปีครึ่งก่อนผละไปรับงานกับสังเวียแข้ง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ช่วงกลางซีซั่น 2018/19
รวมแล้ว บีร็อด คุมทีม เซลติก ลงสนามในคราวแรก 169 นัด และมีผลงานชนะ 118 นัด เสมอ 25 นัด แพ้ 16 นัด คิดเป็นเรตชนะได้ 70%