"ราชันชุดขาว" ทำผลงานได้ตามเป้าได้ วินิซิอุส, บัลเบร์เด้ จัดกันคนละสองตุงพาทีมแลกหมัดเชือด อัล ฮิลาล สุดมันส์ 5-3 ผงาดซิวแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ 2022 ไปครองโดยเป็นสมัยที่ 5 ของสโมสร
สนาม : สต๊าด พรินซ์ มูลัย อับดัลลาห์, กรุงราบัต
คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลียน นำทัพ ราชันชุดขาว ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ มาได้แบบไม่ยากเย็นนักหลังอัด อัล อาห์ลี 4-1 ในเกมรอบรองฯ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ทางด้าน รามอน ดิอาซ นายใหญ่อัล ฮิลาล พาทีมสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศรายการนี้เป็นหนแรกหลังทุบเอาชนะ ฟลาเมงโก ที่เหลือ 10 คนมาได้หวุดหวิด 3-2 เมื่อกลางสัปดาห์
เปิดฉากครึ่งแรก 10 นาที "ราชันชุดขาว" ทักทายก่อน ดานี่ การ์บาฆาล เติมเกมเข้าเขตโทษฝั่งขวาปาดเข้ากรอบ 6 หลาถึง คาริม เบนเซม่า ไขว้ยิงไปติดขาตัวเองก่อนโดนจับ ล้ำหน้า
นาทีที่ 13 เรอัล มาดริด ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะประสานงานสุดสวย คาริม เบนเซม่า ถอยลงมาเชื่อมบอลแทงเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดเข้าไปซัดผ่าน อับดุลลาห์ อัล มายุฟ ไม่พลาด
5 นาทีต่อมา "ราชันชุดขาว" ขยับหนีเป็น 2-0 จากลูกครอสทางขวาของ ลูก้า โมดริช บอลมาเข้าทาง จาง ฮุน-ซู โขกสกัดไม่ดีกลายเป็นย้อนตั้งให้ เฟเด บัลเบร์เด้ หวดสวนตูมเดียวแหวกบล็อค ตุงตาข่าย
ต่อมานาทีที่ 26 อัล ฮิลาล ตีไข่แตกไล่มา 1-2 จากจังหวะสวนกลับ โมฮาเหม็ด คานโน แทงบอลออกขวาให้ มุสซ่า มาเรก้า หลุดเดี่ยวขึ้นมาจากครึ่งสนามจี้เข้าเขตโทษซัดแฉลบมือ อังเดร ลูนิน แต่ยังดีพอไหลเข้าประตู
ท้ายครึ่งแรก เรอัล มาดริด ทำได้ดีกว่า คาริม เบนเซม่า โฉบมาดีดเปลี่ยนทางหน้ากรอบ 6 หลาบอลติดไซค์หลุดออกหลังนิดเดียว ก่อนจังหวะต่อเนื่อง ลูก้า โมดริช ลองยิงไกลก็ยังไม่ผ่านมือ อับดุลลาห์ อัล มายุฟ
หมดครึ่งเวลาแรก เรอัล มาดริด 2 อัล ฮิลาล 1
นาทีที่ 54 "ราชันชุดขาว" บวกสกอร์เพิ่ม 3-1 เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า ทำชิ่งเร็วคืนให้ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดขึ้นมาทางซ้ายดีดไซค์ก้อยเข้าเขตโทษโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาถึง คาริม เบนเซม่า สอดมาชาร์จตุงตาข่าย
4 นาทีต่อมาเหมือนฉายหนังม้วนเดิมแต่เปลี่ยนฝั่ง เรอัล มาดริด ทิ้งห่าง 4-1 ดานี่ การ์บาฆาล สอดขึ้นมาทางขวาปาดเข้าเขตโทษโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาให้ เฟเด บัลเบร์เด้ ยกข้าม อับดุลลาห์ อัล มายุฟ ตุงตาข่ายเหนือชั้น
นาทีที่ 63 อัล ฮิลาล ไม่ยอมแพ้ไล่มา 2-4 ซาอุด อับดุลฮามิด จ่ายถวายพานให้ ลูเซียโน่ เวียตโต้ หลุดเดี่ยวขึ้นมาทางขวาจี้เข้าเขตโทษเลือกยกข้ามตัว อังเดร ลูนิน อย่างเยือกเย็น
ต่อมานาทีที่ 69 "ราชันชุดขาว" มาได้ประตู 5-2 ดานี่ เซบายอส เก็บตกในเขตโทษฝั่งซ้ายพยายามเกี่ยวหาช่องซัดกลายเป็นไหลเข้าทาง วินิซิอุส จูเนียร์ ล่อเป้าด้วยขวาโค้งซุกหน้าต่างเสาไกลงามหยด
10 นาทีต่อมา อัล ฮิลาล ขยับไล่มา 3-5 เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า เสียบอลทางฝั่งซ้ายโดน มิเชล ตัวสำรองฉกพาแหวกเข้าเขตโทษก่อนหักข้อให้ ลูเซียโน่ เวียตโต้ โชว์สกิลหมุนมายิงสุดสวย
ท้ายเกมทั้งสองทีมเปิดหน้าแลก อัล ฮิลาล ได้เสียวก่อนจากจังหวะชาร์จของ มุสซ่า มาเรก้า ซัดแบบไร้ตัวประกบหลุดออกหลัง จากนั้น "ราชันชุดขาว" มาส่งท้ายจากลูกยิงไกล มาร์โก อเซนซิโอ หวดไปติดเซฟ อับดุลลาห์ อัล มายุฟ
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เรอัล มาดริด 5 อัล ฮิลาล 3
รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม
เรอัล มาดริด (4-3-3) : อังเดร ลูนิน - ดานี่ การ์บาฆาล (เฆซุส บาเยโฆ่ น.79), อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาบิด อลาบา, เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า - โทนี่ โครส (มาร์โก อเซนซิโอ น.74), อูเรเลียง ชูอาเมนี่ (ดานี่ เซบายอส น.62), ลูก้า โมดริช (นาโช่ เฟร์นันเดซ น.74) - เฟเด บัลเบร์เด้, คาริม เบนเซม่า (โรดริโก้ โกเอส น.62), วินิซิอุส จูเนียร์
อัล ฮิลาล (4-2-3-1) : อับดุลลาห์ อัล มายุฟ - ซาอุด อับดุลฮามิด, จาง ฮุน-ซู, อาลี อัลเบเลฮี, นาสเซอร์ อัล ดอว์ซารี่ - โมฮาเหม็ด คานโน, กุสตาโว่ คูเอลลาร์ - อังเดร การ์ริโญ่, ลูเซียโน่ เวียตโต้, ซาเลม อัล-ดอว์ซารี่ - มุสซ่า มาเรก้า