หลังจากตกเป็นข่าวลือระหว่างกันมาพักหนึ่ง ล่าสุด อัล-นาสเซอร์ สโมสรในศึก ซาอุดิ โปร ลีก หรือลีกสูงสุดของประเทศซาอุดิอาระเบียก็ประกาศเซ็นสัญญากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีสอย่างเป็นทางการ ซึ่งว่ากันว่าโดยรวมแล้ว โรนัลโด้ จะได้เงินจากที่นี่ปีละเกือบ 200 ล้านยูโรด้วยกัน
มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยถ้าหลายคนจะไม่รู้จัก อัล-นาสเซอร์ มากนัก เพราะพวกเขาไม่ได้เล่นอยู่ในลีกใหญ่ของโลก แต่หลังจากนี้คนคงจะหันมาสนใจพวกเขามากกว่าเดิม ดังนั้นวันนี้เราเลยจะมาทำความรู้จักกับ อัล-นาสเซอร์ สักหน่อย
- ช่วงตั้งไข่
อัล-นาสเซอร์ ก่อตั้งสโมสรโดย ซีด บิน มุตแล็ก อัล-จาบา อัล-เดวิช อัล-มูไตรี่ เมื่อปี 1955 โดยสมัยนั้นพวกเขายังเป็นสโมสรระดับสมัครเล่น ทำให้ต้องซ้อมในสนามเล็กๆ และมีห้องเก็บลูกบอลกับเสื้อที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร
หลังจากถือกำเนิดได้ราว 5 ปี อัล-นาสเซอร์ ก็ได้ยกระดับตัวเองเป็นสโมสรรอาชีพ โดยที่เจ้าชายอับดุล ราห์มาน บิน ซาอุด อัล ซาอุด ได้ทรงรับตำแหน่งเป็นประธานของสโมสรในช่วงที่ว่านี้ด้วย โดยพวกเขาเริ่มจากการเล่นในลีกระดับ 2 ก่อนจะขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้ในปี 1963
- ความสำเร็จเยอะพอตัว
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา อัล-นาสเซอร์ สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศไปได้ 9 ครั้ง ส่งผลให้พวกเขาเป็นทีมที่ได้แชมป์ ซาอุดิ โปร ลีก มากที่สุดเป็นอันดับ 2 เป็นรอง อัล-ฮิลัล แค่ทีมเดียว โดยอีกฝ่ายซิวแชมป์ไป 18 สมัย
ขณะที่ในรายการ คิง คัพ หรือฟุตบอลถ้วยรายการใหญ่ของ ซาอุดิอาระเบีย อัล นาสเซอร์ ก็ได้แชมป์ไปครอง 6 สมัย มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศ แต่พวกเขาก็ห่างเหินจากแชมป์รายการนี้พอตัว เพราะครั้งล่าสุดที่ได้แชมป์รายการนี้ต้องย้อนไปถึงปี 1990 เลยทีเดียว
ส่วนในระดับทวีปนั้น อัล-นาสเซอร์ เคยก้าวไปแตะแชมป์ เอเชี่ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ กับ เอเชี่ยน ซูเปอร์ คัพ มาแล้วอย่างละ 1 สมัย ขณะที่ในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาเคยมีผลงานที่ยอดเยี่ยมในปี 1995 จากการไปถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยในรอบรองชนะเลิศพวกเขาเอาชนะสโมสรฟุตบอลธนาคารกสิกรไทย ได้ 1-0 ด้วย แต่ในนัดชิงดำพวกเขาไปแพ้ อิลห์วา ชุนมา ทีมจากเกาหลีใต้ 0-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษด้วยกฎโกลเด้นโกล (กฎที่ว่าทีมไหนทำประตูชัยได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษก็ถือว่าชนะไปเลย)
- เคยผ่านศึกชิงแชมป์สโมสรโลก
สมัยที่ศึกชิงแชมป์สโมสรโลกเตะกันเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2000 อัล-นาสเซอร์ ก็ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันรายการนั้น จากโควตาการเป็นแชมป์ เอเชี่ยน ซูเปอร์ คัพ เมื่อปี 1998 โดยพวกเขาได้อยู่กลุ่ม เอ ร่วมกับ เรอัล มาดริด ทีมดังจาก สเปน, โครินเธียนส์ สโมสรของ บราซิล และ ราช่า คาซาบลังก้า สโมสรของ โมร็อกโก
ท้ายที่สุดแล้ว อัล-นาสเซอร์ ก็ต้องตกรอบแบ่งกลุ่ม โดยพวกเขาเปิดหัวด้วยการแพ้ เรอัล มาดริด 0-2 และถึงแม้นัดต่อมาจากชนะ คาซาบลังก้า 4-3 แต่ในนัดสุดท้ายไปพ่าย โครินเธียนส์ 0-2 แต่พวกเขาก็ได้รางวัล แฟร์ เพลย์ ปลอบใจมาจากการเล่นที่ บราซิล
- กุนซือ
ปัจจุบัน อัล-นาสเซอร์ คุมทัพโดย รูดี้ การ์เซีย กุนซือชาวฝรั่งเศสที่เคยกุมบังเหียน ลีลล์, อาแอส โรม่า, โอลิมปิก มาร์กเซย และ โอลิมปิก ลียง มาแล้ว ขณะที่ในอดีตพวกเขาก็เคยมีคนดังมากุมบังเหียนเหมือนกัน อย่างเช่น วอลเตอร์ เซงก้า อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติอิตาลี, เรเน่ ฮิกิต้า อดีตนายทวารชาวโคลอมเบีย, ฟาบิโอ คันนาวาโร่ อดีตกองหลังชาวอิตาเลียน และ มาโน่ เมเนเซส อดีตนายใหญ่ทีมชาติบราซิล เป็นต้น
- เพื่อนร่วมทีมมีชื่อ
ในขุมกำลัง อัล-นาสเซอร์ ชุดปัจจุบันนั้น มีชื่อที่หลายคนอาจจะคุ้นหูกันบ้างอยู่แล้ว อย่างเช่น ดาวิด ออสปิน่า ผู้รักษาประตูชาวโคลอมเบียที่เคยอยู่กับ อาร์เซน่อล, ลุยซ์ กุสตาโว่ กองกลางที่เคยผ่านการเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค และ วินเซนต์ อาบูบาการ์ ที่เพิ่งทำ 2 ประตูให้กับทีมชาติแคเมอรูนในศึก ฟุตบอลโลก 2022 เป็นต้น และนั่นก็มีส่วนทำให้พวกเขาเป็นรองจ่าฝูงของลีกในตอนนี้ โดยที่ตามหลัง อัล-ชาบับ อยู่ 2 แต้ม
- เด็กเกร็ดบอล -