หลายคนอาจจะยังไม่ทราบหรือไม่ได้ติดตาม ฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้ายจะมีการจับสลากแบ่งสายกันในวันนี้ (ศุกร์ 5 ธ.ค.) แล้วนะครับ
ถึงเวลานี้เราได้ 42 จากทั้งหมด 48 ชาติในศึกเวิลด์คัพที่ทวีปอเมริกาเหนือกันแล้ว อีก 6 ทีมสุดท้ายจะไปรู้กันในเกมเพลย์ออฟเดือนมีนาคมปีหน้า
4 ทีมจากยุโรป และอีก 2 ทีมจากการเพลย์ออฟนานาชาติ เอเชีย แอฟริกา โอเชียเนีย อเมริกาใต้ และคอนคาเคฟ
กับโควต้า 4 ที่สุดท้ายของยุโรป แบ่งออกเป็น 4 สาย ๆ ละ 4 ทีมมีตั๋วให้สายละใบ
แต่ละสายเตะกันแบบน็อกเอ๊าต์เข้าชิงแย่งตั๋วไปบอลโลกโดยที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับสายอื่น
สาย A เวลส์ พบ บอสเนียแอนด์เฮอร์เซโกวีน่า และ อิตาลี พบ ไอร์แลนด์เหนือ ใครชนะเข้าชิงแย่งตั๋วเวิลด์คัพกัน
สาย B ยูเครน พบ สวีเดน ขณะที่ โปแลนด์ พบ แอลเบเนีย
สาย C สโลวาเกีย พบ โคโซโว และ ตุรกี พบ โรมาเนีย
สาย D สาธารณรัฐเช็ก พบ ไอร์แลนด์ ส่วนอีกคู่ เดนมาร์ก พบ นอร์ธมาซิโดเนีย
แต่ละสายมีตั๋วไปบอลโลกมอบให้แยกจากกันไปเลย เพราะฉะนั้น เวลส์-บอสเนียฯ-อิตาลี-ไอร์แลนด์เหนือ ในสาย A ก็จะมีแค่ทีมเดียวที่เป็นผู้ชนะได้ไปลุย สหรัฐฯ-แคนาดา-เม็กซิโก 2026
ยูเครน-สวีเดน-โปแลนด์-แอลเบเนีย ในสาย B
สโลวาเกีย-โคโซโว-ตุรกี-โรมาเนีย ในสาย C
สาธารณรัฐเช็ก-ไอร์แลนด์-เดนมาร์ก-นอร์ธมาซิโดเนีย ในสาย D
แต่ละสายจะมีผู้สมหวังแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น อีก 3 ชาติไปว่ากันต่ออีก 4 ปีข้างหน้า
ขณะที่การเพลย์ออฟนานาชาติอีก 2 ที่ มีทีมทั้งหมด 6 ทีมคือ ดีอาร์ คองโกจากแอฟริกา อิรักจากเอเชีย สุรินัม กับ จาเมกา จากคอนคาเคฟ (อเมริกาเหนือ อเมริกากลางและแคริบเบียน) โบลิเวียจากอเมริกาใต้ และ นิว คาเลโดเนีย จากโอเชียเนีย
ดีอาร์ คองโก กับ อิรัก ได้เป็นทีมวางตามอันดับโลกฟีฟ่าที่มากกว่าอีก 4 ชาติ โดย ดีอาร์ คองโก เป็นทีมวางในสายบน อิรัก เป็นทีมวางในสายล่าง
สายบน นิว คาเลโดเนีย กับ จาเมกา จะฟาดแข้งกันนัดเดียวจบ ใครชนะเข้าไปชิงตั๋วบอลโลกกับ ดีอาร์ คองโก
สายล่าง โบลิเวีย กับ สุรินัม ก็จะหวดกันนัดเดียวรู้ผลเช่นกัน ทีมชนะเข้าไปชิงตั๋วกับ อิรัก
ทุกเกมเตะกันที่ประเทศเม็กซิโก วันที่ 26 กับ 31 มีนาคม ปีหน้า
ถึงวันนั้นเราจะได้ 6 ทีมสุดท้ายเข้าไปสมทบรวมเป็น 48 ชาติครบถ้วนสำหรับฟุตบอลโลก 2026
แต่ในการจับสลากแบ่งสายคืนนี้ (ศุกร์ที่ 5 ธ.ค.) ทั้ง 6 ทีมที่ว่าจะถูกส่งไปยังกลุ่มต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้เท่านั้นเพราะยังไม่รู้ทีม เพียงแต่รู้กลุ่มที่ตัวเองจะต้องไปอยู่
เช่น ผู้ชนะจากสาย C เพลย์ออฟโซนยุโรปจะไปอยู่กลุ่ม F ร่วมกับ บราซิล โมร็อกโก และ นอร์เวย์ อะไรทำนองนี้
ทั้ง 6 ทีมที่ว่านี้จะไปอยู่ในโถ 4 ของการจับสลาก ร่วมกับ จอร์แดน เคปเวิร์ด กานา คูราเซา เฮติ และ นิวซีแลนด์
การจับสลากจะมีขึ้นที่กรุงวอชิงตันดีซีในสหรัฐอเมริกาครับ พิธีการเริ่มต้นตอนเที่ยงคืนตามเวลาในประเทศไทย (คืนวันศุกร์ที่ 5 เข้าวันเสาร์ที่ 6 ธ.ค.)
รูปแบบการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 12 กลุ่ม ๆ ละ 4 ทีม คัดเอาอันดับ 1 กับ 2 ของแต่ละกลุ่มรวม 24 ทีมเข้ารอบน็อกเอ๊าต์ สมทบกับทีมอันดับสามที่มีคะแนนดีที่สุดอีก 8 ทีมเป็น 32 ทีม
รอบน็อกเอ๊าต์ฟุตบอลโลกจากที่เริ่มต้นด้วยรอบ 16 ทีมสุดท้าย เวิลด์คัพที่อเมริกาปีหน้าจึงเป็นครั้งแรกที่รอบน๊อกเอ๊าต์เริ่มต้นที่รอบ 32 ทีมสุดท้าย
จะว่าไปมันก็มีความสุ่มเสี่ยงมากขึ้นสำหรับทีมใหญ่นะครับ เพราะจะมีเกมน็อกเอ๊าต์นัดเดียวรู้ผลเพิ่มขึ้นมาหนึ่งรอบ จับพลัดจับผลูพลาดทีเดียวเก็บกระเป๋ากลับบ้านได้เหมือนกัน
สำหรับโถทั้ง 4 ในการจับสลากคืนนี้มีตามนี้ครับ
โถ 1: แคนาดา เม็กซิโก สหรัฐฯ สเปน อาร์เจนติน่า ฝรั่งเศส อังกฤษ บราซิล โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ส เบลเยียม และ เยอรมัน
โถ 2: โครเอเชีย โมร็อกโก โคลอมเบีย อุรุกวัย สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เซเนกัล อิหร่าน เกาหลีใต้ เอกวาดอร์ ออสเตรีย และ ออสเตรเลีย
โถ 3: นอร์เวย์ ปานามา อียิปต์ แอลจีเรีย สกอตแลนด์ ปารากวัย ตูนิเซีย ไอวอรี่โคสต์ อุซเบกิสถาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และ แอฟริกาใต้
โถ 4: จอร์แดน เคปเวิร์ด กานา คูราเซา เฮติ นิวซีแลนด์ เพลย์ออฟยุโรป 1 เพลย์ออฟยุโรป 2 เพลย์ออฟยุโรป 3 เพลย์ออฟยุโรป 4 เพลย์ออฟนานาชาติ 1 เพลย์ออฟนานาชาติ 2
การจับสลากจะเริ่มจับจากทีมโถ 1 ก่อน ทั้ง 12 ทีมจะถูกจับไปอยู่ประจำกลุ่มของตัวเอง (เจ้าภาพทั้ง 3 ล็อกกลุ่มไว้แล้วคือ เม็กซิโกกลุ่ม A แคนาดากลุ่ม B และสหรัฐฯ กลุ่ม D)
จับโถ 1 ครบก็จับโถ 2 ต่อ ไล่เรียงกันไปอย่างนี้จนครบโถ 3 และโถ 4 เป็นโถสุดท้าย
เงื่อนไขเล็ก ๆ ที่เข้าใจได้ก็คือ จะไม่มีตัวแทนจากทวีปใดอยู่ในกลุ่มเดียวกันเกินหนึ่งทีม หรือพูดง่าย ๆ ว่าในแต่ละกลุ่มจะไม่มีทีมจากทวีปซ้ำกัน ยกเว้นทีมจากทวีปยุโรปที่มี 16 ชาติ
แต่ทีมจากยุโรปก็จะไม่แจ๊กพ็อตอยู่ในกลุ่มเดียวกันมากกว่า 2 ทีม
กฎเกณฑ์ตรงนี้เข้าใจได้ไม่ยาก มันมีขึ้นเพื่อความสมดุลและกระจายการแข่งขัน เป็นหลักเกณฑ์พื้นฐานในหลาย ๆ รายการอยู่แล้ว อย่างฟุตบอลสโมสรยุโรปที่แต่ก่อนเป็นรอบแบ่งกลุ่มก็จะมีเงื่อนไขลักษณะนี้ หรือกระทั่งที่ใช้อยู่ในปัจจุบันที่เป็นแบบลีกก็ยังมีกฎว่าจะไม่เจอกับคู่แข่งจากชาติเดิมเกิน 2 ทีม
มารอลุ้นกันครับว่าโฉมหน้าของแต่ละกลุ่มจะออกมาเป็นอย่างไร
การเพิ่มจำนวนทีมในรอบสุดท้ายเป็น 48 ทีม และเลือกรูปแบบการแข่งขันเป็น 12 กลุ่ม ๆ ละ 4 ทีม คัด 32 ชาติเข้ารอบน็อกเอ๊าต์ ยังจะทำให้ฟุตบอลโลก 2026 มีเกมเตะพุ่งทะยานมากกว่าที่ผ่านมาถึง 40 เกม หรือราว ๆ 66 เปอร์เซนต์อีกด้วยนะครับ
จาก 64 เกม พุ่งเป็น 104 เกม
ในระบบเดิมที่รอบสุดท้ายมี 32 ชาติ จะมีเกมในรอบแรก 48 เกม (8 กลุ่ม ๆ ละ 6 เกม) รอบ 16 ทีมสุดท้าย 8 เกม รอบก่อนรองชนะเลิศ 4 เกม รอบรองชนะเลิศ 2 เกม และ นัดชิงอันดับสาม กับ นัดชิงชนะเลิศ
กับระบบใหม่ 48 ทีม เราจะได้ดูกันตาแฉะ แค่รอบแรกก็ปาเข้าไป 72 เกม (12 กลุ่ม ๆ ละ 6 เกม).. รอบ 32 ทีมสุดท้าย 16 เกม.. รอบ 16 ทีมสุดท้าย 8 เกม.. รอบก่อนรองชนะเลิศ 4 เกม รอบรองชนะเลิศ 2 เกม และ นัดชิงอันดับสาม กับ นัดชิงชนะเลิศ
ขยายเวลาของทัวร์นาเม้นต์จากปกติ 1 เดือนหรือ 4 สัปดาห์ ออกไปเป็น 5 สัปดาห์ครึ่ง (11 มิถุนายน ถึง 19 กรกฎาคม 2026)
หลายคนกังวลว่าฟุตบอลโลกที่เตะกันมากมายเกินร้อยเกมอย่างนี้ จะทำให้เกิดภาวะโอเวอร์โหลดหรือล้นเกินความต้องการไหม
แต่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาจริง ๆ เทศกาลดูบอลวันละ 3-4 คู่ต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์ก็น่าจะทำให้คอบอลเพลิดเพลินไปกับมันตามเคยล่ะครับ และเมื่อดูจากโปรแกรมเตะที่วางเอาไว้ เวิลด์คัพครั้งนี้จะมีช่วงที่เราได้ดูบอลต่อเนื่องนานที่สุดถึง 27 วันติดต่อกัน!
เพราะตั้งแต่นัดเปิดสนามไปจนจบรอบแรก ต่อด้วยรอบ 32 ทีมสุดท้าย และรอบ 16 ทีมสุดท้าย เตะต่อเนื่องกันทุกวันโดยไม่มีช่วงเว้นวรรคหยุดพักเลย
ไม่เพียงเท่านั้นช่องว่างระหว่างรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับรอบ 8 ทีมสุดท้ายก็ยังแคบนิดเดียว ได้พักสายตากันแค่ 1 วันก็กลับมาดูกันต่อแล้ว แตกต่างจากฟุตบอลโลกก่อนหน้านี้ที่พอจบรอบ 16 ทีมสุดท้าย เราจะได้พักกัน 2 วัน
รอบแรก เตะ 11-27 มิถุนายน
รอบ 32 ทีมสุดท้าย เตะ 28 มิถุนายน ถึง 3 กรกฎาคม
รอบ 16 ทีมสุดท้าย เตะ 4-7 กรกฎาคม
พัก 1 วัน (8 กรกฎาคม)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย เตะ 9-11 กรกฎาคม
พัก 2 วัน (12-13 กรกฎาคม)
รอบรองชนะเลิศ เตะ 14-15 กรกฎาคม
พัก 2 วัน (16-17 กรกฎาคม)
นัดชิงที่สาม เตะ 18 กรกฎาคม
นัดชิงชนะเลิศ เตะ 19 กรกฎาคม
ไม่ใช่แค่นักเตะที่เหนื่อย เราคนดูก็เหนื่อย แถมเวลาเตะยังไล่ยาวตั้งแต่เช้ามืดบ้านเราไปยันสาย ๆ อีกต่างหาก
มันคงจะเป็น 5 สัปดาห์ครึ่งที่เราใช้ร่างกายกันอย่างทรหดจริง ๆ
ดูบอล-ทำงาน-กลับบ้าน-งีบ-ตื่น-ดูบอล-ทำงาน-กลับบ้าน-งีบ-ตื่น-ดูบอล-ทำงาน-กลับบ้าน-งีบ-ตื่น-ดูบอล..
วงจรชีวิตในช่วงนั้นจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้ 39 วันเต็ม ๆ
เอาน่าครับ 4 ปีมีครั้งทั้งที ไว้ถึงเวลาค่อยมาว่ากัน ยังไงคืนนี้เที่ยงคืนมาลุ้นจับสลากแบ่งสายกันก่อน อยากเห็นว่าจะมีกลุ่มแห่งความตายเกิดขึ้นไหม
ตังกุย