ชาวซาอุดีอาระเบีย ได้เฮลั่นเมื่อ ฟีฟ่า ประกาศยืนยันให้ทำหน้าที่จัดเวิลด์ คัพ 2034 อย่างเป็นทางการ ขณะที่ฟุตบอลโลก 2030 จะมีทั้งหมด 6 ชาติจาก 3 ทวีปรับหน้าเสื่อจัดงาน
จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ประกาศยืนยันเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2030 และ 2034 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันพุธที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา
สำหรับเวิลด์ คัพ 2030 ซึ่งเป็นการฉลองฟุตบอลโลกครบ 100 ปีจะมีเจ้าภาพร่วมถึง 6 ประเทศจาก 3 ทวีปเป็นครั้งแรก โดยโปรแกรมส่วนใหญ่จะจัดที่ประเทศสเปน, โมร็อกโก และ โปรตุเกส ขณะเดียวกันบางแมตช์จะจัดขึ้นที่อุรุกวัย, อาร์เจนติน่า และ ปารากวัย
การแข่งขันในปีดังกล่าวจะมีทั้งหมด 48 ชาติที่จะได้ร่วมเข้าไปโม่เกือกและแข่งกันทั้งหมด 104 แมตช์ โดย อินฟานติโน่ กล่าวว่า "นี่คือแนวทางที่ดีที่สุดในการจัดเฉลิมฉลองครบ 100 ปีของฟุตบอลโลก ซึ่งเจ้าภาพมีทังหมด 6 ประเทศ, 3 ทวีปพร้อมกับ 48 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน"
ในกรณีของ อุรุกวัย, อาร์เจนติน่า และ ปารากวัย จะได้รับหน้าที่จัดการแข่งขัน 3 เกมแรก นั่นก็คือนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก 2030 ส่วนโปรแกรมที่เหลือจะจัดอีก 3 ประเทศที่เหลือ
ขณะเดียวกัน ฟีฟ่า ยังได้เลือกประเทศซาอุดีอาระเบีย รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพในการจัดมหกรรมลูกหนังแห่งมวลมนุษยชาติปี 2034 โดย อินฟานติโน่ เปิดใจในเรื่องนี้ว่า "มันจะเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกในประเทศใหม่ (ที่เคยจัดฟุตบอลโลก) และแน่นอนว่ามันจะเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นที่สุด"
ทั้งนี้ ศึก ฟุตบอลโลก 2026 จะจัดขึ้นโดยมีสามชาติเจ้าภาพซึ่งประกอบไปด้วย แคนาดา , เม็กซิโก และ สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 11 มิ.ย.-19 ก.ค.2026 โดย ฟีฟ่า จะใช้สนามฟุตบอลทั้งหมดใน 16 เมืองจากสามชาติ