"คาร์สบอล" อังกฤษ ยุคใหม่เน้นเกมรุก

"คาร์สบอล" อังกฤษ ยุคใหม่เน้นเกมรุก
แค่เกมแรก...ก็มีเสียงฮือฮากันใหญ่โตจากดับลินแล้ว

ลี คาร์สลีย์ รักษาการผจก.ทีมชาติอังกฤษยกพลสิงโตบุกไปอัดไอร์แลนด์ 2-0

พร้อมเสียงชื่นชมจาก "แนวทาง" การเล่นที่พลิกโฉมจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต 

นั่นคือ "เน้นเกมรุก" มากขึ้นกว่าเดิม

เกมแรกยูฟา เนชั่นส์ ลีกของ คาร์สลีย์ ที่เหมือนกำลังทดลองงานว่าจะผ่านโปร หรือไม่ ได้รับคำชมพอตัว แต่ยังมีอีก 5 นัดจนถึงเดือนพ.ย. ก็จะทราบว่าเอฟเอ จะแต่งตั้งแบบถาวรหรือไม่ 

จะเริ่มต้นดีมีชัยหรือไม่.....รอติดตาม

1 โน ดรามา ไม่ร้องเพลงชาติอังกฤษ

ลี คาร์สลีย์ พูดเอาไว้ในงานแถลงข่าวก่อนเกมแล้วว่า เขาจะไม่ร้องเพลงชาติอังกฤษ นั่นคือ God Save The King ซึ่งก่อนเกมเริ่มต้นที่ อาวีวา สนามแห่งดับลิน เขาก็ยืนหลับตาสงบนิ่ง

ก่อนเกมมีเสียงวิจารณ์กันพอตัวละครับ...แต่เขายืนยันแล้วว่าสมัยเป็นนักเตะทีมชาติไอร์แลนด์ เขาก็ไม่เคยร้องเพลงชาติไอร์แลนด์เช่นกัน

คาร์สลีย์ เกิดและเติบโตที่อังกฤษ เป็นลูกเสี้ยวไอริช ทางคุณยาย เขาเล่นบอลในอังกฤษทั้งชีวิต แต่เลือกเล่นทีมชาติไอร์แลนด์ เพราะทีมสิงโต ชุดนั้นมีทั้ง พอล สโกลส์ , พอล อินส์ ที่ยังเล่นช่วงปลาย ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ คาร์สลีย์ คงแทรกลำบาก  อีกทั้งช่วงนั้นเขาเลือกติดไอริชชุด21 ปี ไปก่อนแล้ว ก็เลยเลือกทีมชุดใหญ่ไอร์แลนด์ ยุคที่ มิค แมคคาร์ธีย์ เป็นผจก.

บังเอิญ เนชั่นส์ลีก เกมแรกดันจัดโปรแกรมที่ดับลิน พอดี....เลยมีเรื่อง "ดรามา" ฟุตบอลให้พูดถึงกัน เหมือน เดแคลน ไรซ์ ที่ตอนชุดเล็กเลือกไอร์แลนด์ พอชุดใหญ่ก็เลือกทีมชาติอังกฤษ 

ด้วยเพราะสายโลหิตฝั่ง ปู่ตา มาจากเมือง คอร์ก ในไอร์แลนด์ ก่อนตั้งรกรากที่ "เลิ้นเดิ้น" (ลอนดอนนั่นแหละ) พอตอนเด็กก็เลือกเล่นให้ไอร์แลนด์ชุดเด็กจนถึงชุด 21 ปี 

เช่นเดียวกันกับ.... แจ็ค กรีลิช ที่เริ่มต้นเล่นทีมชุดเล็กไอร์แลนด์ ด้วยเพราะบรรพบุรุษดั้งเดิมอพยพจากไอร์แลนด์ มาอยู่เบอร์มิงแฮม แต่พอชุดยู21 และชุดใหญ่ กรีลิช เปลี่ยนใจมาเลือก อังกฤษแทน.....

สายสัมพันธ์ในละแวก Great Britian เดิม (เมื่อก่อนรวมไอร์แลนด์ด้วย) ก็ผูกพันกันในบรรพบุรุษ ทั้งไอริช , สกอตติช และ เวลช์ ดังนั้นถ้าสืบสันดาน เอ้ย สืบเชื้อสายกันไล่ แฟมิลี ทรี ก็คงเห็นว่าไม่ฝั่ง ปู่ตา, ย่ายาย อาจเป็นฝั่งใดฝั่งหนึ่งนั่นหละครับ

2 ไร้ พาลเมอร์, โฟเดน....แต่มี กรีลิช

หนึ่งในการปฏิรูปทีมอันแตกต่างจาก แกเร็ธ เซาธ์เกตนั้นคือการมอบเบอร์ 10 ให้ แจ็ค กรีลิช ที่หลุดทีมชาติช่วงยูโร เพราะไม่ฟิตมากและฟอร์มหลุดกับเรือใบ อันนี้เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ถ้าทั้ง พาลเมอร์ และ โฟเดน ไม่ถอนตัวไปก่อน คาร์สลีย์ จะวางแทกติกอย่างไร

แต่...เอาหน้างานละกันเมื่อเขาเลือก กรีลิช เบอร์สิบ ยืนหลัง แฮร์รี่ เคน เล่นบอลหน้าไลน์กับ แอนโธนี กอร์ดอน และ บูกาโย ซาก้า ในแบบ 4-2-3-1 ที่ คู่กลางคือ คอบบี้ เมนู และ ไรซ์

ส่วนแบ๊กโฟร์นี่.....หยิบ เลวี โคลวิลล์ ไปยืนแบ๊กซ้ายก่อนเลย (สโมสรกลับมายืนเซนเตอร์แล้ว) เพราะขาดแคลนอยู่ ขณะที่คู่เซนเตอร์ แม็คไกวร์ - เกฮี เนื้อหอม และแบ๊กขวาที่ คาร์สลีย์ ประกาศชัด...

เทรนต์ อเลกซานเดอร์-อาร์โนลด์ ของเขาคือ "แบ๊กขวา" ธรรมชาติ

ยิ่ง คีแรน ทริพเพียร์ ประกาศเลิกเล่นทีมชาติ ไม่มี ไคล์ วอล์คเกอร์ โอกาสยืนตำแหน่งนี้ยาวๆของ เทร้นต์ ในยุค คาร์สลีย์ มีค่อนข้างสูง

3 รุกลืมเซาธ์เกต

จากเกมที่ปรากฏออกมา ทั้งวิธีการเล่น และเชิงสถิติ มันสะท้อนตรงกันครับ

การเล่นเกมรุกของอังกฤษ ย่อมเปิดโอกาสให้พวกเขาโดน ไอร์แลนด์ เล่นงานด้วยเหมือนกัน พื้นที่มันมีให้โดนโจมตี อันนี้ไม่แปลก

แต่สิ่งที่ทีม คาร์สลีย์ เดินหน้าลุยนั้นนำมาซึ่งสถิติการโจมตีแดนสามมากกว่าเมื่อเทียบนัดต่อนัดในยูโร 2024 

"โอกาสทอง" หรือ big chances 6 ครั้งในเกมนี้ก็มากกว่าชุดเซาธ์เกต

ลูกยิง 2-0 จากการเข้าทำทางขวา ทั้งสองลูก 

แม้ประตูแรก ไรซ์ เก็บตกจังหวะ เคน เล่นกับตัวประกบระยะ 12-13 หลา บอลหลุดเข้าเท้า ไรซ์ ซึ่งเลือกมุมแปสวยงาม (ไม่ดีใจหลังยิงได้)

ลูก2 กรีลิช วิ่งเข้าแปเสียบโคนเสามุมซ้ายมือตัวเองสุดคม จากการแอสซิสต์ของ ไรซ์ ในเขตโทษ ตวัดให้สวยๆ

โอเคแหละ...เรามองว่ามันคือบอล เนชั่นส์ ลีก แต่การเริ่มต้นแบบนี้นับว่าน่าพอใจกว่า 

4 สื่อพร้อมใจเชียร์

อันนี้เรื่องปกติของสื่อสายบอลผู้ดี ที่เมื่อเล่นแย่ก็รุมสับ เล่นดีก็รุมอวย เรื่องธรรมดามนุษยชาติ ชาวโลก ส่วนใหญ่เขียนวิจารณ์ในทำนองบวก กันทั้งนั้น

อย่างเช่น.... 

บีบีซี welcome to "Carsball" as handbrake comes off for England

ยินดีต้อนรับสู่ "คาร์สบอล" เมื่ออังกฤษไม่เตะเบรก

เดอะ ไทมส์  ฉบับ "ซันเดย์ ไทมส์"  brave passing, quick tempo-England's new era off to bright start 

กล้าผ่านบอล, จังหวะเร็วขึ้น อังกฤษยุคใหม่เริ่มต้นอย่างสดใส

เดอะ การ์เดี้ยน new era gets off to flying start in Dublin

ยุคใหม่ออกตัวเริ่มต้นอย่างสดใสในดับลิน

เดอะ เทเลกราฟ new era off to winning start as England's snake bite back

ยุคใหม่ออกตัวด้วยชัยชนะหลังโดนงูอังกฤษแว้งกัด

"งูอังกฤษ"....คือ ไรซ์ และ กรีลิช ที่แฟนบอลไอร์แลนด์ ทั้งก่อนแข่งและระหว่างเกมตะโกนร้องด่าในเกม เนื่องจากสองคนนี้มีเชื้อสายไอริช เคยเล่นชุดเยาวชน ก่อนเลือกอังกฤษในท้ายที่สุด

ผมไม่อยากเปรียบเทียบว่า ไรซ์ และ กรีลิช คือ "งูเห่า" แบบสแลงการเมืองบ้านเรานะ

มันดูลบเกินไป เพราะจะว่าไป ทั้งไรซ์ และ กรีลิช มีสิทธิ์เลือกเล่นได้ตามสายเลือดฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ไม่แปลก

แต่ "งูเห่า" ทางการเมืองบ้านเรานั้น.....รู้ๆกันอยู่ครับ วิจารณ์ไปก็เท่านั้น

5555555 (ขำกลบเกลื่อน)

บทสรุปนัดแรกของ ลี คาร์สลีย์ มีเสียงชื่นชมพอตัว แต่มันคือนัดแรกและมันคือเนชั่นส์ ลีก ไม่ใช่ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ชาวโลกจับตามองมากมาย กระนั้น "แนวทาง" การทำงานสำคัญกว่าผล

เมื่อ คาร์สลีย์ จะนำ "คาร์สบอล" มาใช้กับทีมชุดนี้แทน เซาธ์เกต "อนุรักษ์นิยม"

ผมคิดว่าสื่อและแฟนๆคงถูกใจไม่น้อย รอดูเกมต่อๆไป เพราะ คาร์สลีย์ ไม่ได้แข่งกับทีมชาติอื่นๆอย่างเดียว

หากแต่เขาจะต้องแข่งกับตัวเองเพื่อเลื่อนตำแหน่งจาก รักษาการผจก. เป็น ผจก.ทีมชาติอังกฤษอย่างเต็มตัว

สิ้นเดือนพ.ย. น่าจะทราบว่าออกมาแบบไหน มีงานได้ทดสอบเนชั่นส์ ลีก

ก่อนบอลโลก 2026 โซนยุโรปจะเริ่มต้นปลายเดือนมีนาคม 2025 นั่นเอง

-JACKIE-


ที่มาของภาพ : Gettyimage
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport