"ดร.ก้อง"แจงลิขสิทธิ์บอลโลกอาจไม่ถึงพันล้านยันเร่งทำข้อมูล

เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์ ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพก็จะเริ่มเปิดฉากชิงชัยแล้ว โดยจะแข่งขันกันระหว่าง 20 พ.ย. - 18 ธ.ค.65 สำหรับความคืบหน้าล่าสุดของประเทศไทยในการเจรจาคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันมหกรรมกีฬานี้ ล่าสุด  ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)ได้เผยว่า เมื่อ 29 ต.ค.65 ตนได้ร่วมประชุมเป็นการภายในกับทีมรองผู้ว่าการกกท. เพื่อหารือเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งก็เป็นการหารือเพื่อเตรียมข้อมูลและเอกสารเข้าไปพูดคุยชี้แจงกับกสทช. และเอเยนต์ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดจากสิงคโปร์

ผู้ว่าการกกท. เผยอีกว่า ตัวเลขในข่าวที่ออกมากำลังอยู่ในช่วงการทำรายละเอียด ยังไม่นิ่ง แต่การติดต่อซื้อครั้งนี้เป็นการซื้อเพื่อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกครั้งเดียว คือปี 2022 ที่ประเทศกาตาร์ แต่ตัวเลขยังไม่นิ่งและกำลังอยู่ในการเจรจาพูดคุยกัน และดูแหล่งเงินที่จะนำมาใช้" ผู้ว่าการกกท. กล่าว

"ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยบอกว่าค่าลิขสิทธิ์มันอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ แค่ให้ลองเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในละแวกอาเซียน เช่นมาเลเซีย, อินโดนีเซีย ที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย ก็พยายามดูตัวเลขให้มันเหมาะสมที่สุด กำลังรอตัวเลขที่ชัดเจนแต่อาจจะไม่ถึง 1,000 ล้านบาทอย่างที่เป็นข่าว อย่างไรก็ตามจะต้องมาดูแหล่งเงินว่าจะมีช่องทางใดบ้าง เพราะทางภาครัฐจะรับผิดชอบฝ่ายเดียวไม่ได้" ดร.ก้องศักด กล่าว

ดร.ก้องศักด เผยว่า การมี "กฎมัสต์แฮฟ" แค่ทำให้แน่ใจว่าประชาชนชาวไทยจะได้ดูทางฟรีทีวีแน่นอน แต่ก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไป เพราะถ้าหากสุดท้ายแล้วการเจรจาไม่ลงตัว ไม่สามารถซื้อลิขสิทธิ์มาได้ ไม่มีการถ่ายทอดใดๆ เลย รัฐบาลก็ไม่ได้ผิด โดย "กฎมัสต์แฮฟ" เป็นกรณีที่ว่าถ้ามีคนซื้อลิขสิทธิ์คนไทยจะต้องได้ดูทางฟรีทีวีเท่านั้น ซึ่งเราจะพยายามให้มากที่สุด คงไม่อยากพูดว่าจะไม่มีถ่ายทอดสด แต่จะต้องหาวิธีการ คงต้องให้เอกชนเข้ามาร่วมมือจึงจะทำเรื่องนี้สำเร็จได้

ดร.ก้องศักด กล่าวเสริมว่า กฎมัสต์แฮฟนั้นถือว่ามีเจตนาที่ดี ที่อยากให้คนได้ดูกีฬาสำหรับมวลมนุษยชาติ แต่ก็ต้องวิเคราะห์ว่ามีผลดีผลเสียอย่างไรบ้าง กกท. คงไม่ขอก้าวล่วงเรื่องนี้ เราทำงานในข้อจำกัดต่างๆ ที่มี แต่ตอนนี้ก็มุ่งเป้าทำให้ทุกอย่างเรียบร้อยโดยเร็วที่สุด ส่วนที่ประชุมกสทช. ไม่ทราบว่าเคยมีการพูดคุยเพื่อยกเลิกกฎนี้หรือไม่แต่อย่างใด ซึ่งเรา จะทำเอกสารต่างๆ คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 วัน เพื่อส่งให้กสทช. นำไปพิจารณาเบื้องต้น ก่อนจะเข้าไปชี้แจงต่อไป

อนึ่งประเทศมาเลเซีย ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ในราคา 32.5 ล้านริงกิต หรือราวๆ 261.50 ล้านบาท  ทว่าเป็นแพ็คเกจถ่ายทอดสด 27 แมตช์ ซึ่งรวมไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และถ่ายทอดเทปบันทึกการแข่งขัน 14 แมตช์ จากการแข่งขันทั้งหมด 64 แมตช์ โดยมาเลเซียไม่ขอถ่ายทอดสดครบทุกแมตช์ แต่จะเลือกถ่ายทอดสดแมตช์ของทีมใหญ่หรือแมตช์สำคัญที่แฟนบอลมาเลเซียสนใจ โดยถ่ายทอดสดโดยองค์กรวิทยุและโทรทัศน์แห่งมาเลเซีย ด้านเวียดนามซื้อลิขสิทธิ์ด้วยเงิน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 569 ล้านบาท โดยถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์วีทีวี ซึ่งเป็นสถานีของรัฐ ครบทุกแมตช์