บอร์ดกสทช.มีมติเอกฉันท์ 7-0 เสียง ถอดการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย พ้นกฎมัสต์แฮฟ (Must Have) เหตุที่ผ่านมาเกิดปัญหาและความหยุ่งเหยิงมากมาย จนต้องเอาเงินกทปส.ไปอุดหนุน ชี้ควรปล่อยเป็นไปตามกลไกของตลาด และให้เอกชนเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ ส่วนอีก 6 รายการกีฬา อาทิ ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชียนเกมส์, เอเชียนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์ ที่มีนักกีฬาไทยร่วมแข่งขัน แฟนๆกีฬาจะได้ชมและเชียร์ฟรีเช่นเดิม
เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2567 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ บอร์ด กสทช. มีมติเอกฉันท์ 7-0 ให้ยกเลิกกฎมัสต์แฮฟ (Must Have) สนับสนุนฟุตบอลโลก หรือให้ถอนการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ออกจากประกาศมัสต์แฮฟ ที่กำหนดให้ทัวร์นาเมนตน์นี้เป็น 1 ใน 7 รายการกีฬาที่ต้องมีถ่ายทอดสดให้ประชาชนรับชมฟรีทั่วประเทศ
นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กสทช. มีมติเอกฉันท์ยกเลิกกฎ Must Have สนับสนุนฟุตบอลโลก เหตุผลเป็นกีฬาที่มูลค่าเชิงการตลาดสูง หลังที่ผ่านมา คณะกรรมการ กสทช. อนุมัติเงินสนับสนุนจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. ให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือกกท. เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ภายในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท จากจำนวนเต็ม 1,600 ล้านบาท จากที่ รัฐบาล คสช. ต้องการคืนความสุขให้กับประชาชนเพื่อได้ดูฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งเกิดเป็นกระแสวิจารณ์เป็นวงกว้างและประเด็นถกเถียงอย่างหนักถึงความคุ้มค่า ทั้งที่ทีมชาติไทยไม่เคยได้เข้าไปแข่งขันในรอบสุดท้าย
ด้าน ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ เผยว่าอีกว่า สำหรับ 6 ประเภทกีฬา คือ กีฬาซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชียนเกมส์, เอเชียนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์ ที่มีนักกีฬาตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขัน ไปสู่ในรอบลึก อีกทั้งรายการไลฟ์สปอร์ตโปรแกรมมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ขณะที่รายการภาคพื้นดินออกอากาศตามเวลาจริงไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ และ ปฏิเสธไม่ได้ในตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปแล้วเพราะกฎ มัสต์แฮฟ ประกาศใช้เมื่อปี 2555 แต่ตอนนี้เข้าปี 2567 หรือผ่านมาแล้ว 10 ปี ระบบบริบทได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ดังนั้นบอร์ด กสทช.จึงมีมติเอกฉันท์ในเรื่องยกเลิกสนับสนุนฟุตบอลโลก ซึ่งก็จะเริ่มตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2026 ที่ แคนาดา แม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกา