เวมบลีย์ถูกเผา, เด็ก 17 สร้างสถิติ! 5 ประเด็นเกม อังกฤษ อุ่นแข้ง บราซิล

1. สิงโต ส่ง กอร์ดอน ประเดิมตัวจริง

แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติ อังกฤษ ใส่ชื่อ แอนโธนี่ กอร์ดอน ปีกซ้ายทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทันทีแม้จะเรียกเขามาติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก

ขณะเดียวกัน ไคล์ วอล์คเกอร์ ได้รับภาระกัปตันเนื่องจาก แฮร์รี่ เคน บาดเจ็บลงเล่นไม่ได้ และส่งผลให้ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ศูนย์หน้าทีม แอสตัน วิลล่า ได้ลงสนาม

สำหรับ ค็อบบี้ เมนู และ จาร์ราด แบรนธ์เวท ซึ่งถูกดึงมาติดทีมชาติชุดใหญ่หนแรกเช่นกันมีชื่อเป็นตัวสำรองเช่นเดียวกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด

2. แซมบ้า ใช้แรงงานเด็กอื้อซ่า

ด้าน บราซิล ลงเล่นเกมนี้โดยส่งนักเตะใหม่เปิดซิงกับทีมชาติชุดใหญ่พร้อมกันมากถึงห้ารายทั้งนายทวาร เบนโต้ , ฟาบริซิโอ บรูโน่ , เบรัลโด้ , เวนเดลล์ และ ชูเอา โกเมส

อย่างไรก็ดี ทีมเมืองกาแฟยังมีแผงรุกที่น่าเกรงขามเนื่องจาก วินิซิอุ จูเนียร์ กับ โรดรีโก้ สองดาวเตะจาก เรอัล มาดริด ได้ประสานงานกับ ราฟินญ่า ขุนพลทีม บาร์เซโลน่า

นอกจากนี้ ทีม เซเลเซา ใช้งานพ่อค้าแข้งที่หากินใน พรีเมียร์ลีก ลงเล่นเป็นตัวจริงสามรายทั้ง โกเมส , ลูกัส ปาเกต้า และ บรูโน่ กีมาไรส์

สำหรับเกมนี้ถือเป็นการคุมทีมเกมแรกของ โดริวัล จูเนียร์ นายใหญ่ เซเลเซา คนใหม่ด้วยหลังโค้ชวัย 61 ปีอำลาทีม เซา เปาโล มารับงานใหญ่กับทีมชาติเมื่อเดือนม.ค. แถมเขาเรียกนักเตะหน้าใหม่มาติดโผทีมชาติงวดนี้มากถึง 11 ราย

3. เป็นมากกว่าเกมอุ่นเครื่อง

ขึ้นชื่อว่า บราซิล ไม่ว่าทีมไหนก็ย่อมอยากล้มพวกเขาด้วยกันทั้งนั้นอันรวมถึง อังกฤษ ด้วย

ด้านทีม แซมบ้า เองก็แน่นอนว่าไม่ต้องการเสียศักด์ศรียักษ์ใหญ่แห่งอเมริกาใต้จึงทำให้เกมในครึ่งแรกที่ เวมบลีย์ เป็นไปด้วยความจริงจังมากกว่านัดกระชับมิตรธรรมดาโดยทั่วไป

ด้วยเหตุนี้ มันจึงส่งผลดีต่อแฟนบอลที่ได้เห็นนักเตะของทั้งสองทีมวิ่งสู้ฟัดใส่กันอย่างเต็มที่ตั้งแต่นาทีแรก และมีจังหวะเข้าปะทะกันตลอดเวลาเพื่อตัดเกมโดยต่างก็ไม่ต้องการให้ฝ่ายตรงข้ามล่วงล้ำเข้าสู่พื้นที่อันตรายได้ง่ายๆ

แน่นอนว่าแม้เกมใน 45 นาทีแรกจะจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แต่อัตราความจริงจังของเกมมีอยู่เต็มเปี่ยม และสูสีกันสุดขีดเนื่องจากเจ้าบ้านครองบอลได้มากกว่าทีมเยือนแค่สองเปอร์เซนต์เท่านั้นจากตัวเลข 51:49% แถมทั้งคู่ได้ยิงประตู 8 ครั้งเท่ากัน และส่งบอลเข้ากรอบ 2 หนเท่ากันอีกต่างหาก แต่เป็น อังกฤษ ที่ได้เตะมุมข้างเดียว 5 ครั้งโดย บราซิล ไม่ได้เตะมุมเลย

4. เอ็นดริค แสบเกินวัย

ว่ากันตามจริง ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเกมที่ เวมบลีย์ จะลงเอยด้วยผลเสมอ 0-0 เนื่องจาก อังกฤษ กับ บราซิล โม่แข้งกันได้อย่างทัดเทียมในแทบทุกด้านจนยากแก่การชี้ขาดหาผู้ชนะ

กระทั่งสิบนาทีสุดท้าย เอ็นดริค ที่ได้ลงเล่นแทน โรดรีโก้ ในนาทีที่ 70 ก็สร้างชื่อได้สำเร็จด้วยการยิงประตูชัยให้ทีมเมืองกาแฟเอาชนะเจ้าบ้านไปในที่สุดโดยเป็นประตูแรกของเขากับทีมชาติชุดใหญ่ด้วยในการลงสนามเป็นนัดที่สาม

แม้จะมีวัยแค่ 17 ปี แต่ เอ็นดริค ถูก เรอัล มาดริด ทีมดังของ ลา ลีกา จองตัวเอาไว้ลงเล่นให้สโมสรในซีซั่นหน้าเรียบร้อยแล้ว และยิ่งเขายิงประตูสำคัญที่ เวมบลีย์ ได้ มันจึงเป็นการสร้างชื่อได้อย่างยอดเยี่ยมมากขึ้นไปอีก

จากประตูดังกล่าว มีการยืนยันว่า เอ็นดริค ถือเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด (17 ปี 246 วัน) ที่สอยตาข่ายในทีมชุดใหญ่ได้ที่ เวมบลีย์ ไม่ว่าจะเป็นเกมระดับสโมสรหรือว่าทีมชาติ

ขณะเดียวกัน อังกฤษ เสียท่าปราชัยเป็นเกมแรกที่ เวมบลีย์ ด้วยในรอบ 21 นัดโดยเกมล่าสุดเป็นการแพ้ เดนมาร์ค ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อเดือนต.ค.2020 แต่หากจะนับเฉพาะเกมอุ่นเกือก ทรี ไลอ้อนส์ แพ้คารังเกมแรกในรอบ 18 นัดต่อจากเกมพ่าย ฮอลแลนด์ 2-1 เมื่อเดือนมี.ค.2016

อย่างไรก็ดี เป็นอย่างที่บอกเอาไว้ก่อนแล้วว่าเกมคู่นี้เป็นไปอย่างสูสีอย่างยิ่งแม้สุดท้าย สิงโตคำราม จะเพลี่ยงพล้ำคารังก็ตามเนื่องจากสถิติหลังเกม 90 นาทีบ่งชี้ว่าเจ้าถิ่นครองบอลได้เหนือกว่า 53:47%  แถมทั้งสองทีมมีโอกาสส่องยิง 14 ครั้งเท่ากันพอดี แต่เป็น เซเลเซา ที่ส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 5-3 ครั้ง

5. เรือใบส่องานเข้า?

เป็นธรรมดาที่เกมทีมชาติกับสโมสรเลี่ยงไม่พ้นที่ต้องส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน อย่างเกมนี้มีแววว่า แมนฯ ซิตี้ อาจเดือดร้อนเนื่องจาก วอล์คเกอร์ ส่อเดี้ยงตั้งแต่ต้นเกมจากจังหวะสปีดไปเคลียร์บอลหน้าปากประตู

และหลังฝืนเล่นต่ออีกพักเดียว ท้ายที่สุดแบ็คขวาทีม แมนฯ ซิตี้ ก็ต้องผละออกจากสนามเดินเข้าอุโมงค์ทันทีในนาทีที่ 20 โดยมี เอซรี่ คอนซ่า ได้ลงเล่นแทนเป็นการรับใช้ชาตินัดแรกของสตาร์ทีม แอสตัน วิลล่า ด้วย

สำหรับดาวเตะคนสำคัญของ เรือใบสีฟ้า หากมันเป็นปัญหาที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังอย่างที่สื่อตั้งข้อสังเกตก็เชื่อแน่ว่าเขาจะพลาดเกมอุ่นเกือกนัดหน้ากับ เบลเยี่ยม เนื่องจากปัญหาในจุดดังกล่าวต้องใช้เวลาพักฟื้นนานพอสมควร แถมไม่แน่ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะไร้ฟูลแบ็คจอมเก๋าในเกม พรีเมียร์ลีก ต้อนรับ อาร์เซน่อล ทีมจ่าฝูงในวันอาทิตย์นี้หรือเปล่า

ในกรณีที่ วอล์คเกอร์ เจ็บหนักกว่าที่คาด ไม่แน่ว่ามันอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อการชี้ชะตาตัดสินแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ก็เป็นได้ เว้นก็แต่ว่าดาวเตะของถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม จะตัดสินใจเดินออกจากสนามอย่างรวดเร็วเพื่อเซฟตัวเองเอาไว้ก่อน