การประกาศ 'แขวนสตั๊ด' ของ เอแด็น อาซาร์ ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติเบลเยียม ของ เรอัล มาดริด ที่อำลาฟลอร์หญ้าในวัยเพียง 32 ปี ซึ่งถือว่ายังอายุไม่มากนัก บนเส้นทางลูกหนัง ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอนำคุณย้อนเวลาไปดูว่าก่อนหน้านี้มีแข้งดังคนใดในปฐพีที่เลิกเล่นก่อนวัยอันควร!?
[ 1 ] เอริก คันโตน่า (Eric Cantona)
เชื้อชาติ: ฝรั่งเศส
รีไทร์อายุ: 30
ตำนานนักเตะผู้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งยวดกับก้าวแรกของความยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในทศวรรษที่ 90' หลังพาทีมคว้าแชมป์มากมายทั้งในและนอกประเทศ ส่วนตัวเองก็ได้รับการยกย่องอย่างสูง แถมแฟนๆ ปีศาจแดงยังยกคำว่า 'คิง' ให้กับนักเตะหมายเลข 7 คนนี้
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็น 'ศิลปินลูกหนัง' คันโตน่า ทำในสิ่งที่ผู้คนไม่คาดคิด เพราะดันประกาศ 'เลิกเล่น' ดื้อๆ เมื่อปี 1997 ด้วยเหตุผลที่ว่า 'หมดแพสชั่นกับฟุตบอล' ก่อนจะไปโลดโผนในวงการมายา รวมทั้งผันตัวเองไปเตะฟุตบอลชายหาดอยู่ช่วงหนึ่ง
________
[ 2 ] มาร์โก แวน บาสเท่น (Marco Van Basten)
เชื้อชาติ: เนเธอร์แลนด์ส
รีไทร์อายุ: 28
ศูนย์หน้าผู้ยิ่งยงแห่งยุคปลาย 80' กับการได้รางวัล บัลลง ดอร์ 3 หน รวมทั้งนำ เอซี มิลาน ฟาดแชมป์กระจุย แถมยังครองความเป็นเบอร์หนึ่งในยุโรป อยู่หลายปี ส่วนในทีมชาติ ก็พาเนเธอร์แลนด์ส ไปถึงดวงดาวกับ ยูโร 1988
แวน บาสเท่น ได้รับการยกย่องให้เป็นหัวหอกที่เก่งที่สุดในโลกในยุคของเขา อย่างไรก็ตาม ด้วยปัญหาบาดเจ็บหน้าแข้งเรื้อรัง เขาต่อสู้กับมันมาแสนนาน จนในที่สุด เจ้าตัวประกาศรีไทร์ในปี 1995 โดยเกมสุดท้ายในชีวิตนักเตะ - ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือผู้แข็งกร้าวถึงกับต้องเสียน้ำตาให้กับลูกทีมของตนเอง
__________
[ 3 ] เซบาสเตียน ไดส์เลอร์ (Sebastian Deisler)
เชื้อชาติ: เยอรมัน
รีไทร์อายุ: 27
ไดส์เลอร์ ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นอนาคตของวงการลูกหนังเยอรมัน ในยุค 2000' กับพรสวรรค์อันเปี่ยมล้นที่ซุกซ่อนอยู่ในตัว เขาเป็นกำลังหลักให้ บาเยิร์น มิวนิค และรวมถึงทัพอินทรีเหล็กในวัยเพียง 20 ต้นๆ เท่านั้น
ทว่าปัญหาบาดเจ็บหลายแห่งที่รุมเร้า ไล่ตั้งแต่โคนขาหนีบไปจนถึงเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าที่เข้ารับการผ่าตัดเกินกว่า 7 ครั้ง ทำให้เขาต้องต่อสู้กับมันอย่างทรมาน นานวันเข้าก็กลายเป็น 'โรคซึมเศร้า' กระทั่งที่สุดจึงประกาศรีไทร์ไปทั้งๆ ที่เพิ่งจะอายุเพียง 27 ปี เท่านั้น
__________
[ 4 ] ฮิเดโตชิ นากาตะ (Hidetoshi Nakata)
เชื้อชาติ: ญี่ปุ่น
รีไทร์อายุ: 29
'ไอดอล' ผู้มีส่วนสำคัญมากๆ ที่ทำให้นักเตะญี่ปุ่น รุ่นหลังๆ ตื่นตัว เพราะได้รับแรงบันดาลใจจาก นากาตะ มิดฟิลด์เลือดบูชิโดที่มาประสบความสำเร็จในยุโรป จนทำให้เด็กๆ อยากเจริญรอยตาม กระทั่งปัจจุบันที่ เดอะ บลู ซามูไร ก้าวมาทัดเทียมชาติใหญ่ๆ ได้แบบไม่เกรงกลัว
ก่อนการแขวนสตั๊ด เขาครุ่นคิดมาเป็นปี โดยให้เหตุผลว่าฟุตบอลเริ่มเป็นธุรกิจขึ้นเรื่อยๆ บวกกับตนเองมีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์เหมือนแต่ก่อน กระทั่งตัดสินใจหันหลังให้วงการลูกหนังเมื่อปี 2006
__________
[ 5 ] มิเชล พลาตินี่ (Michel Platini)
เชื้อชาติ: ฝรั่งเศส
รีไทร์อายุ: 32
'นโปเลียนลูกหนัง' คือชื่อที่แฟนๆ ขนานนาม พลาตินี่ ด้วยท่วงท่าอันสง่างามบนฟลอร์หญ้า มั้งยังพาต้นสังกัดอย่าง ยูเวนตุส คว้าถ้วยมากมาย โดยที่ตนเองได้รับเลือกให้คว้ารางวัล บัลลง ดอร์ 3 สมัย ติดต่อกัน แถมในระดับนานาชาติก็คือการพาฝรั่งเศส เป็นแชมป์ ยูโร 1984
พลาตินี่ ตัดสินใจรีไทร์แบบช็อกโลกเมื่อปี 1987 ซึ่งตอนนั้นตนเองเพิ่งจะ 32 เท่านั้น แต่เหตุผลที่ต้องอำลาสนาม ก็เพราะอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า รวมไปถึงสภาพจิตใจที่ย่ำแย่นั่นเอง
__________
[ 6 ] พาทริก ไคลเวิร์ต (Patrick Kluivert)
เชื้อชาติ: เนเธอร์แลนด์ส
รีไทร์อายุ: 32
ไคลเวิร์ต โด่งดังมาตั้งแต่อายุเพียง 18 กับการสวมบทฮีโร่ซัลโวประตูชัยพา อาแจ็กซ์ เฉือนชนะ เอซี มิลาน ในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 1995 จนต่อมาได้ย้ายไปเล่นให้ปีศาจแดง-ดำ และ บาร์เซโล่น่า
เขาครองตำแหน่งดาวซัลโวทีมชาติเนเธอร์แลนด์ส (40 ประตู) อยู่นาน ก่อนจะมาถูก โรบิน ฟาน เพอร์ซี แซงหน้าในปี 2013 ส่วนตนเองก็ฟอร์มดร็อปลงเรื่อยๆ ด้วยปัญหาบาดเจ็บเรื้อรัง กระทั่งตัดสินใจยุติเส้นทางการนักเตะหลังจบฤดูกาล 2007-08 ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวอยู่กับ ลีลล์
__________
[ 7 ] แจ็ค วิลเชียร์ (Jack Wilshere)
เชื้อชาติ: อังกฤษ
รีไทร์อายุ: 30
สุดยอดดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการฟุตบอลอังกฤษ กับทักษะอันเอกอุและเซ้นส์ลูกหนังที่เหลือร้าย ซึ่งหาได้ยากยิ่งในหมู่นักเตะเชื้อสายอิงลิช ด้วยเหตุนี้เองทำให้เขาถูกคาดหวังว่าจะเป็นผู้นำทัพสิงโตคำรามกลับมาผงาดอีกครั้ง
ทว่าการบาดเจ็บอย่างรุนแรงในช่วงปรี-ซีซั่นก่อนเปิดฤดูกาล 2011-12 ที่ทำให้เขาพักยาวทั้งปีคือจุดเปลี่ยนอย่างแท้จริง เพราะนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วิลเชียร์ ก็ไม่สามารถกลับมาเป็นคนเดิมได้อีกเลย จนหมดสัญญากับ อาร์เซน่อล แล้วไปต่อที่ เวสต์แฮม, เวสต์บรอมวิช และ เอจีเอฟ อาร์ฮุส สโมสรในลีกสูงสุดเดนมาร์ก แต่สุดท้ายก็ไม่รอด กระทั่งประกาศเลิกเล่นอย่างเป็นทางการในวัย 30 เท่านั้น
__________
[ 8 ] ไบรอัน เลาดรู๊ป (Brian Laudrup)
เชื้อชาติ: เดนมาร์ก
รีไทร์อายุ: 31
เลาดรู๊ป คนน้อง ผู้ได้รับการยกย่องจากทั่วทั้งยุโรป ว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ แม้ว่าถ้วยรางวัลในระดับสโมสรจะไม่มากเท่าพี่ชาย แต่การพาเดนมาร์ก สร้างเทพนิยายใน ยูโร 1992 ก็ทำให้ชื่อของเขาขจรขจายไปทั่วทั้งทวีป
ทว่าชีวิตบนเส้นทางลูกหนังของ ไบรอัน นั้นสั้นนัก เพราะต้องเผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บอยู่เป็นระยะ ซึ่งมันส่งผลต่อฟอร์มในสนามอย่างแท้จริง จนครั้งหนึ่งตอนที่เล่นให้ เชลซี เขาบอกว่า "ผมเล่นได้แค่ 70 เปอร์เซ็นต์" จนสุดท้ายเจ้าตัวไปแขวนสตั๊ดกับ อาแจ็กซ์ ในวัย 31 ปี เท่านั้น
__________
[ 9 ] อันเดร เชือร์เล่ (Andre Schurrle))
เชื้อชาติ: เยอรมัน
รีไทร์อายุ: 30
แนวรุกทีมชาติเยอรมัน ชุดแชมป์ เวิร์ล คัพ 2014 ที่ถูกคาดหวังว่าจะสามารถพาทัพอินทรีเหล็กพุ่งชนความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในอนาคต เพราะตอนนั้นเขาเพิ่งจะอายุเพียง 24 ปี เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผลงานของ เชือร์เล่ ค่อยๆ ตกลงเรื่อยๆ จนในที่สุดเจ้าตัวประกาศเลิกเล่นผ่านทางอินสตาแกรมจองตนเอง ซึ่งภายหลังสื่อในยุโรปได้ออกมาเผยว่าเหตุผลที่เขาหันหลังให้วงการลูกหนัง ก็เพราะหมดไฟทะยานอยากกับฟุตบอล
__________
[ 10 ] คาร์ลอส โรอา (Carlos Roa)
เชื้อชาติ: อาร์เจนติน่า
รีไทร์อายุ: 29
นายทวารมือหนึ่งของทีมชาติอาร์เจนติน่า ชุด เวิร์ล คัพ 1998 และเป็นผู้เซฟ 2 จุดโทษให้ทัพฟ้า-ขาวเอาชนะอังกฤษ ได้สำเร็จในปีนั้น ซึ่งเส้นทางอาชีพของเขากำลังไปได้สวยมากๆ เพราะว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมทุ่มเงินเป็นสถิติโลก (ในตำแหน่งผู้รักษาประตู) เพื่อให้ไปเฝ้าเสาในรั้ว โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ทว่าทุกอย่างต้องจบลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพี่แกประกาศ 'แขวนถุงมือ' แบบเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่อายุเพิ่งจะ 29 ปี เท่านั้น พร้อมกับหอบหิ้วครอบครัวย้ายจากสเปน แล้วบินตรงสู่บ้านเกิด เพราะดันเชื่อว่า 'โลกกำลังจะถึงกาลอวสาน' ซึ่งเป็นเหตุผลที่แตกต่างจากนักเตะอาชีพคนอื่นๆ ที่รีไทร์ก่อนวัยอันควรด้วยอาการบาดเจ็บเป็นส่วนใหญ่
__________