หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าอ่อนอกอ่อนใจในซีซั่นนี้ แฟนบอล โปรตุเกส ก็พากันส่งเสียงว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่สมควรได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับแผ่นดินเกิดอีกต่อไป
ซ้ำร้าย บางรายชี้ว่า แฟร์นานโด ซานโต้ส กุนซือทีม ฝอยทอง ต้องเลิกให้ความสำคัญกับดาวยิงวัย 37 ปีเสียทีโดยไม่จำเป็นต้องใส่ชื่อเขาในทีมชุด ฟุตบอลโลก เลยด้วยซ้ำเนื่องจาก "ซีอาร์เซเว่น" กำลังอยู่ในช่วงโรยราอย่างเห็นได้ชัด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากเกมล่าสุดที่ โปรตุเกส พ่ายต่อ สเปน คารัง 1-0 ในศึก เนชั่นส์ลีก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กองหน้าทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกจวกยับว่าไม่หลงเหลือความอันตรายอีกต่อไปแล้วทั้งๆที่ได้รับโอกาสให้อยู่ในสนามตลอด 90 นาที
ไม่มีใครปฏิเสธว่า โรนัลโด้ สมควรได้รางวัล บัลลงดอร์ ห้าสมัย แต่สำหรับเวลานี้เขาไม่ใช่ยอดกองหน้าคนเดิมอีกต่อไป และยิงประตูให้ ผีแดง ในซีซั่นนี้ได้แค่เม็ดเดียวเท่านั้นหลังจากมีอันต้องหล่นเป็นตัวสำรองอย่างถาวรกับสโมสรต้นสังกัดใน พรีเมียร์ลีก
ในฐานะกัปตันทีมชาติ โปรตุเกส เจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล 117 ประตูิเพิ่งประกาศจุดยืนเมื่อไม่นานว่ายังหวังค้าแข้งต่อจนถึงศึก ยูโร คราวหน้าในปี 2024 หากแต่ด้วยสังขารที่ไม่มีมนุษย์หน้าไหนเอาชนะได้ สตาร์ร่างบึกจึงสมควรเปิดทางให้คลื่นลูกใหม่รับใช้ชาติแทนได้แล้ว
"ผมหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติต่อไปอีกสองสามปี ผมยังรู้สึกมุ่งมั่น และมีความทะเยอทะยานเต็มเปี่ยม" โรนัลโด้ เอ่ย
"เส้นทางของผมกับทีมชาติยังไม่จบ เรามีดาวเตะหนุ่มที่มีคุณภาพมากมาย ผมจะเล่น ฟุตบอลโลก และผมต้องการเล่นฟุตบอล ยูโร ด้วย"
เท่าที่ผ่านมา โปรตุเกส พึ่ง โรนัลโด้ เป็นหลักในฐานะกองหน้าตัวเป้า แต่ถึงขณะนี้เขาไม่เหลือความปราดเปรียวอีกต่อไปแล้ว จึงน่าจะหลีกทางให้ ดีโอโก้ โชต้า หรือไม่ก็ ราฟาเอล เลเอา ขุนพลทีม ลิเวอร์พูล กับ เอซี มิลาน ได้รับผิดชอบบทบาทสำคัญแทนมากกว่า
นอกจากนี้ โรนัลโด้ ยังทำให้ ชูเอา เฟลิกซ์ ไม่อาจแจ้งเกิดกับทีมชาติได้อย่างเต็มตัวเช่นกัน รวมถึง เปโดร เนโต้ อีกราย ขณะที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา พิสูจน์ให้เห็นถึงชั้นเชิงระดับเวิลด์คลาสได้นับตั้งแต่ย้ายไปค้าแข้งกับ แมนฯ ซิตี้
หากจะวัดกันที่จำนวนประตู แน่นอนว่า โรนัลโด้ กินขาดศูนย์หน้าทุกราย แต่การมีเขาอยู่ในทีมเวลานี้ส่งผลเสียอย่างแรงที่ทำให้เกมขาดความไหลรื่นอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากสตาร์วัยดึกเหมือนเป็นตัวถ่วงความสมดุลย์ของเกมที่นักเตะทุกคนต้องให้ความเกรงใจมากเป็นพิเศษ
ไม่เพียงตำแหน่งกองหน้าเท่านั้นที่ โปรตุเกส มีตัวเลือกที่เหลือเฟือ ในแผงกลางก็เช่นกันที่พวกเขามีดาวเตะฝีเท้าดีมากมายทั้ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส , รูเบน เนเวส และ วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ เป็นอาทิ
โดยเฉพาะในรายของ แฟร์นันด์ส ต้องถือว่า โปรตุเกส โชคดีอย่างยิ่งที่เขากลับมาระเบิดฟอร์มเก่งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่นนี้ได้ก่อนต้องรับใช้ชาติในศึก เวิลด์คัพ
สำหรับ เนเวส ขึ้นชื่อลือชาในการผ่านบอลที่มองดูเหมือนง่าย แต่เต็มไปด้วยความเฉียบขาด ขณะที่ คาร์วัลโญ่ รับผิดชอบเกมรับได้อย่างแข็งแกร่งเพื่อเปิดทางให้บรรดาตัวรุกบุกตะลุยไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่
ในส่วนของแผงหลัง ชูเอา กานเซโล่ กับ นูโน่ เมนเดส สองฟูลแบ็คต่างก็เติมเกมรุกได้ดีทั้งคู่นอกเหนือจากหน้าที่หลักในการป้องกันพื้นที่ แล้วไหน รูเบน ดิอาส ยังได้ชื่อว่าเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดคนหนึ่งแห่งยุคอีกด้วยเช่นเดียวกับ ดานิโล เปเรยร่า คู่ขา
เท่านั้นไม่พอ หากสองเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักไม่พร้อมลงสนาม ทีมเมือง ฝอยทอง ก็ยังมีทั้ง ดาวิด คาร์โม กับ ติอาโก้ ฌาโล เป็นตัวสอดแทรกที่ดีเช่นกัน
สุดท้ายในตำแหน่งนายทวาร รุย ปาตริซิโอ ถือครองมือหนึ่งมาตั้งแต่ปี 2010 และปัจจุบันในวัย 34 ปี เขายังประสบความสำเร็จกับ โรม่า กับการพาทีมดังของ เซเรียอา คว้าแชมป์ ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก ได้เมื่อซีซั่นก่อน
นอกจาก ปาตริซิโอ แล้ว โปรตุเกสยังมี โชเซ่ ซา นายทวารทีม วูล์ฟส์ เป็นตัวเลือกอีกราย รวมถึง ดีโอโก้ คอสต้า ผู้รักษาประตูทีม ปอร์โต้ ที่กุนซือ ซานโต้ส ส่งลงเฝ้าตาข่ายบ่อยครั้งในระยะหลัง
-ขุมกำลังทีมชาติ โปรตุเกส เชิงลึกที่ไม่มี โรนัลโด้
ผู้รักษาประตู : รุย ปาตริซิโอ / โชเซ่ ซา
แบ็คขวา : ชูเอา กานเซโล่ / ดีโอโก้ ดาโลต์
แบ็คซ้าย : นูโน่ เมนเดส / ราฟาเอล เกร์เรยโร่
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : ดานิโล เปเรยร่า / ติอาโก้ ฌาโล
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : รูเบน ดิอาส / ดาวิด คาร์โม
กองกลางตัวรับ : วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ / ชูเอา ปาลินญ่า
กองกลางตัวรุก : รูเบน เนเวส / วิตินญ่า
กองหน้าตัวต่ำ : บรูโน่ แฟร์นันด์ส / มาเตอุส นูเนส
ปีกขวา : แบร์นาร์โด้ ซิลวา / กอนคาโล เกเดส
ปีกซ้าย : ดีโอโก้ โชต้า / เปโดร เนโต้
กองหน้าตัวเป้า : ราฟาเอล เลเอา / ชูเอา เฟลิกซ์