สิงโตไม่คำราม

ผลอังกฤษเสมอเยอรมัน 3-3 ที่เวมบลีย์ แสดงถึงสปิริตการต่อสู้ที่ดีเยี่ยม กระนั้นฟุตบอลก็ไม่ควรต้องมาแสดงความมุ่งมั่นอะไรแบบนี้เมื่อปล่อยให้คู่แข่งยิงนำ 2-0 ก่อนจากความผิดพลาดของการเล่นเกมรับพื้นๆทั่วไป

แน่นอน....ถ้าใครไม่ดูเกมนี้ ให้ทายว่ากองหลังคนไหนเล่นพลาดจนทำให้อังกฤษเสียสองลูกก่อนเลย

ทายถูกกันอยู่แล้วนะ 5555

การดวลกันเยอรมัน (เดี๋ยวเขียนเรื่องเยอรมันให้อ่านวันต่อไป) นัดนี้คือนัดสุดท้ายก่อนเตะกับอิหร่านในนัดแรกของบอลโลก 2022 ดังนั้นการอุ่นเครื่องจบละ มีอย่างมากแค่ซ้อมก่อนไปแข่ง7-10 วันอย่างมาก

ดังนั้น....11 คนแรก แผนการเล่น ไม่มีการทดลองอะไรอีกแล้ว  มันต้องเป็นของจริงที่จะใช้เจอกับอิหร่าน แม้ว่าเยอรมันกับอิหร่านเล่นบอลคนละสไตล์กันก็ตาม

มันมีประเด็นทั้งก่อนและหลังจบเกมนะครับ

1 กลุ่มนักเตะที่ไม่มีชื่อและถูกส่งกลับบ้านก่อนเลย แจ๊ค กรีลิช, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ,เจมส์ วอร์ด-พราวส์,จารอด โบเว่น นี่จะพลาดตั๋วไปกาตาร์ อย่างนั้นหรือ ข้อนี้ผมคิดว่าไม่ขนาดนั้น แต่ในสามคนนี้ มีโอกาสวืดอยู่เหมือนกัน

คหสต .....ผมคิดว่า โบเวน หลุดครับ ไม่ได้ไปบอลโลก ส่วน เทรนต์ กับ วอร์ด-พราวส์ ต้องลุ้นนะ 50-50 ขณะที่ กรีลิช ไปแน่ๆ

2 หลังจบเกมได้ข้อสรุปอะไรบ้าง

ความผิดพลาดของ นิค โพพ และ แฮร์รี่ แมกไกวร์ มันเข้าตานักวิจารณ์เหลือเกิน 

รายแรกนั้นไม่ใช่มือหนึ่ง แต่ทำเป็นเล่นไปหาก จอร์แดน พิคฟอร์ด หายเจ็บแล้วเกิดฟิตไม่สมบูรณ์หรือมีอุบัติเหตุจากการบาดเจ็บ....ใครคือมือหนึ่งสิงโต 

อารอน แรมส์เดล และ ดีน เฮนเดอร์สัน ใครจะหลุดจากโผกลุ่มนายประตู

แฮร์รี แมกไกวร์ ชื่อนี้ไม่เคยหายไปจากหน้าสื่อเลย 

ความผิดพลาดของเขาเต็มๆตา ทำให้ เซาธ์เกตถูกตั้งคำถามตรงไปตรงมาเลยว่า...

คุณจะยังไว้ใจให้เขายืนเซนเตอร์แบ๊กตัวจริงอย่างนั้นหรือ???

เอาละ....เกิดอะไรขึ้นหลังเกมสิงโตเสมออินทรีเหล็กสุดมัน 3-3

ตามผมมาครับ

แง่ลบ

เซาธ์เกต ยังคงยึดมั่นกับระบบหลังสามต่อไปและมันคือรูปแบบที่นำมาใช้ตั้งแต่ ยูฟา เนชั่นส์ ลีก ในแบบ 3-4-3 และ 3-4-2-1 ความต่างก็คงไม่มาก เพราะหากเล่นแบบแรก มันคือหน้าสามคน มีตัวทำด้านข้างไง ส่วนแบบหลัง ตัวข้าง 2 คนหุบเข้าใน ซึ่งในเกมนั้น ถ้าเล่นแบบแรก มีตัวข้างยืนริมเส้น พอถึงแดนสาม สามารถหุบเข้าในได้ เพื่อให้วิงแบ๊กสองข้างเติมขึ้นมา มันเหมือนจะคล้าย แต่ก็แตกต่างในรายละเอียด อยู่นะครับ เพียงแต่เกมนี้เล่นกับเยอรมัน เซาธ์เกต จัด 3-4-2-1 โดย เคน หน้าเป้า กลางรุกคู่คือ โฟเดน กับ ราฮีม สเตอริง 

เซนเตอร์ 3 คน จอห์น สโตน, เอริก ดายเออร์ และ แฮร์รี แมกไกวร์

ส่วนวิงแบ๊กสองข้าง รีส เจมส์ และ ลุค ชอว์ 

มิดฟิลด์คู่กลาง เบลลิงแฮม และ เดแคลน ไรส์ 

ครึ่งแรกนะมีโอกาสยิงนำก่อน จากการหลุดเดี่ยวของ ราฮีม สเตอริง จากจังหวะสวนกลับ รูปเกมก็ไม่มีอะไรต่างกันมากนัก

พอครึ่งหลัง....เล่นพลาดก็โดนลงโทษ

นาทีที่ 52 จังหวะโดนเพรสแดนบน แฮร์รี แมกไกวร์ ดันผ่านบอลเข้าเท้า มูสิอาลา ตัวรุกเยอรมัน ที่ได้บอลก่อนพาเข้าเขตโทษ สเตปหลอกให้ขาตาย แมกไกวร์ เข้าสกัดพรวด เข่าเข้าไปขัดเห็นๆ ผู้ตัดสินมือดีจากดัชท์ ลีก มูกิเล ดูวีเออาร์ แล้วให้จุดโทษ

กุนโดกัน ยิง 1-0

จากนั้น น.67 แมกไกวร์  อีกแล้ว เสียการครองบอลและหลุดตำแหน่งไป 

ก่อนแวร์เนอร์ เล่นกับ ฮาแวร์ตส์ปั่นโค้งเบียดเสาสองเข้าไป 2-0 

ประตู 3-3 นิค โพพ รับลูกยิงที่ไม่ได้ทรงพลังอะไรของ นาบรี จากนอกเขตโทษ หลุดมือ เข้าทาง ฮาแวร์ตส์ ที่เล่น "หน้าปลอม"ให้เยอรมันเกมนี้ซ้ำดาบสองง่ายๆ น.87 

แง่ลบคือความผิดพลาดพื้นฐานของ "นักเตะ" มันคือ ความผิดพลาดส่วนบุคคล ไม่ใช่ระบบ แต่มันส่งผลเสียต่อรูปเกม และมันเลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนวิจารณ์อยู่แล้ว

ทั้ง แมกไกวร์ ที่หนักหน่อยเพราะมีเชื้อไฟ ส่วน โพพ ก็เหมือนเป็นการทำข้อสอบให้เราเห็นว่า....ประมาณไหน

แง่บวก...

มีหลายเรื่องครับ 

1 ตัวสำรองแข็งแกร่ง

เมสัน เมานต์ กับ บูกาโย ซากา แทน ฟิล โฟเดน และ ราฮีม สเตอริง สองคนนี้ลงไปมีบทบาทกับเกมรุก โดยเฉพาะการเล่น หน้าไลน์เกมรับเยอรมัน ซึ่งมีส่วนกับสองประตูที่เกิดขึ้น

ซากา แหวกสองเข้าหน้าเขตโทษก่อนจ่ายให้ เมานต์ ยิง 

ซาก้า จี้เข้าไปหน้าไลน์แล้วให้บอล เบลลิงแฮม ก่อนโดน ชลอตเทนเบค เสียบอังกฤษได้จุดโทษ 

2 สปิริตการต่อสู้

อันนี้ก็ต้องชมกันละครับ โดน 2-0 กลับยิ่งลุยแหลกเพื่อเอาคืน แล้วก็ได้ 

จาก 1-2  ลุคชอว์ ที่บอลหลุดไปเข้าทางที่เสาสอง อังกฤษขึ้นบอลด้านขวา รีส เจมส์ ครอสเข้าไป จากนั้นก็ได้ประตูตีเสมอและขึ้นนำในเวลา 12 นาที จาก น.71-83 

3 ยังมีแฮร์รี เคน

เคน ยิงจุดโทษอย่างเด็ดขาดบอลพุ่งระดับศีรษะเข้าไปชนิดที่หมดปัญญาเซฟนี่คือประตูที่ 51 ในทีมชาติ เหลืออีกสองลูกก็เท่าสถิติ  เวย์น รูนีย์ หรือสามลูกก็แซงเป็นสถิติใหม่แล้ว

จากประตูแรกในนามทีมชาติของ เคน ย้อนไปเมื่อมี.ค.ปี 2015 ภายใต้การนำของ รอย ฮอดจ์สัน เคน ติดทีมชาตินัดแรกในบอลยูโร รอบคัดเลือก เขาทำประตูแรกใส่ลิธัวเนียได้ทันที

นับหนึ่งเมื่อปี 2015 ผ่านมา7 ปีเล่นให้ทีมชาติ 75 นัดยิง 51 ลูก ยิงทุกรายการให้ทีมชาติอังกฤษ ทั้ง ยูโร คัดเลือก, ยูโร รอบสุดท้าย, อุ่นเครื่อง, บอลโลก รอบคัดเลือก, รอบสุดท้าย  แถมแอสซิสต์ไป 14 ลูก (มีแฮทริกแอสซิสต์ 1 เกม)

ใน51 ลูกนี้ เคน แฮทริก 5 ครั้ง หนึ่งในนั้นเหมายิงสี่ลูก กับซาน มาริโน 

4 Hey Jude...

ทั้งปริมาณและคุณภาพมาตรงกันสำหรับ จูด เบลลิงแฮม 

คุณภาพ ดูเหมือนการเล่นคู่กับ ไรส์ เริ่มลงตัว ในฐานะที่เขาเป็น บ๊อกส์ ทู บ๊อกส์ เติมขึ้นเกมรุก เพราะมี ไรส์ เฝ้าแดนกลางให้ และการทำให้ทีมได้จุดโทษ จากการเติมเข้าไปในเขตโทษ เมื่อเล่นหน้าไลน์เกมรับเยอรมันกับ ซาก้า คือผลงานที่ชัด

ทว่า...วิธีการเล่นของนักเตะวัยรุ่นที่เหมือนเล่นบอลมานานหลายปี วุฒิภาวะฟุตบอลของเขาเติบโตขึ้น เหมือนแทบไม่ทำอะไรผิดพลาดเลย กลายเป็นประเด็นที่ทั้งตำนานนักเตะอังกฤษ, สื่อ ร่วมกันชื่นชม

ตัวจริงแน่ๆ เบลลิงแฮม 

ส่วนปริมาณ...

ผ่านบอลแม่น 41  ครั้ง อันดับ1

ผ่านบอลเข้าแดนสาม 17 ครั้ง อันดับ1

ยิง 3 ครั้ง อันดับ1

ดวลชนะคู่แข่งได้ 8 ครั้ง อันดับ1

แย่งการครองบอลได้ 10 ครั้งอันดับ 2

จากเกมสุดท้ายก่อนไปบอลโลก พอได้ข้อสรุป อะไรบ้าง

1 เซาธ์เกต มี 21 ขุนพลแล้ว หากไม่เจ็บนะครับ ขาดอีก 2 คน

2 เขาจะเล่นระบบ 3-4-3 หรือ 3-4-2-1 เป็นหลัก

3 จูด เบลลิงแฮม ตัวจริงคู่ เดแคลน ไรส์ แน่นอน

ส่วนคำถามสำคัญ....จากสื่อมวลชนอังกฤษ

คุณเซาธ์เกตครับ....

ระวังความไว้ใจจะย้อนมาทำร้ายคุณเองนะครับ

หากปล่อยให้ แฮร์รี แมกไกวร์ เล่นตัวจริงในบอลโลก

รอดูคำตอบจากนายใหญ่สิงโตผ่านสนามบอลกันครับ

JACKIE


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport