สิ้นสงสัย!มาลาเซีย แจงเหตุปะทะคารม ฟาน กัล

ฮอลแลนด์ ประสบความสำเร็จในรายการดังกล่าวด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มA4 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้จากผลงานลงเล่น 6 นัด ชนะ 5 นัด เสมอ 1 นัด เก็บได้ 16 แต้มมากกว่าทีม ปีศาจแดงแห่งยุโรป ซึ่งรั้งอันดับสอง 6 แต้ม

อย่างไรก็ดี แม้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังทีม ลิเวอร์พูล จะเป็นฮีโร่ในเกมดังกล่าวจากการโขกประตูชัยให้ทีมเจ้าบ้านได้ในนาทีที่ 73 แต่ทุกสายตาจับจ้องไปที่ มาลาเซีย ซึ่งมีปากเสียงกับ ฟาน กัล ที่ริมสนามโดยในเกมชนะ เบลเยี่ยม ดาวเตะทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกเปลี่ยนลงเล่นตั้งแต่ต้นครึ่งหลังแทน นาธาน อาเก้ ปราการหลังทีม แมนฯ ซิตี้

ทั้งนี้ มาลาเซีย แบ็คซ้ายทีม ผีแดง ถูกเปลี่ยนลงไปสวมบทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟแทน อาเก้ แทนที่จะได้เล่นเป็นแบ็คซ้ายตามถนัดโดย ดาเลย์ บลินด์ น่าจะขยับจากตำแหน่งแบ็คซ้ายหุบเข้าไปสวมบทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟมากกว่าจากที่หลายฝ่ายมอง กระทั่งล่าสุดอดีตดาวเตะทีม เฟเยนูร์ด เปิดปากเผยแล้วว่าเป็นสาเหตุเดียวกันนี้แหละที่เขามีปัญหากับเจ้านาย

"ผมขยับขึ้นสูงมากไปสองสามหน มันไม่ใช่ตำแหน่งที่ควรทำอย่างนั้น ใช่ ตอนนั้นผมไม่เห็นด้วยกับเขา หลังจบเกมเราคุยกันถึงเรื่องนี้ และมันจบแล้ว" มาลาเซีย เผยกับสื่อในบ้านเกิด

"ตอนนี้ผมสบายใจกับ ยูไนเต็ด ในตำแหน่งแบ็คซ้าย โค้ชทีมชาติคิดว่าผมน่าจะเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟในระบบหลังสามได้ แต่ผมรู้สึกดีที่สุดกับแบ็คซ้าย"

ด้าน ฟาน กัล ชี้แจงเหตุผลการตัดสินใจของเขาเช่นกันว่า "ผมส่ง มาลาเซีย ลงเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟด้านซ้ายเพราะ มาร์ตินส์ อินดี้ จะไม่ติดทีมชาติชุด ฟุตบอลโลก เนื่องจากบาดเจ็บ ผมต้องมองหานักเตะคนอื่นที่สามารถเล่นตรงนั้นได้ และผมอยากเห็น มาลาเซีย เล่นดู ผมจึงเปลี่ยน อาเก้ ออก"

"ผมส่งเขาเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟด้านซ้ายเพราะ เดอ บรอยน์ เล่นทางนั้นเป็นหลัก มันเป็นเรื่องดีที่มีพิตบูลล์อย่างเขาอยู่ตรงนั้นแทนที่จะเป็น บลินด์ เดอ บรอยน์ คล่องตัวกว่า บลินด์ เช่นกัน ดังนั้นผมจึงส่ง มาลาเซีย ลงเล่นตรงนั้น ผมคุยกับเขาก่อนหน้านั้นแล้วว่าเขาสามารถเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทางซ้ายได้"