ปิดจ็อบได้แบบนิ่มเท้าสำหรับทีมชาติ อังกฤษ ซึ่งใช้เวลาแค่สามนาทีในช่วงท้ายครึ่งแรกกับการสอยตาข่ายเอาชนะ ยูเครน ได้แบบเบาะๆ 2-0 ในการทำศึก ยูโร 2024 รอบคัดเลือกที่สนาม เวมบลีย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มี.ค.
งานนี้แม้ ยูเครน จะลงเล่นเป็นเกมแรกของทัวร์นาเมนต์ ขณะที่ สิงโตคำราม อ่อนล้ามากกว่าหลังเดินทางไปบู๊กับ อิตาลี ในเกมแรกเมื่อสามวันก่อน แต่ไม่เป็นปัญหาเลยแม้แต่น้อยที่ทีมของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะกำชัยได้แบบ 100% เต็ม
1. แมดดิสัน ตัวจริงสิงโต
เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติ อังกฤษ ตัดสินใจส่ง เจมส์ แมดดิสัน มิดฟิลด์ทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ออกสตาร์ตการรับใช้ชาติเป็นตัวจริงเกมแรก
ก่อนหน้านี้ ขุนพลทีม เดอะ ฟ็อกซ์ ได้ลงเล่นในสีเสื้อของ ทรี ไลอ้อนส์ มาแค่ครั้งเดียวเท่านั้นในฐานะตัวสองเกมขยี้ มอนเตเนโกร กระเจิง 7-0 เมื่อสามปีก่อนในศึก ยูโร 2020 รอบคัดเลือก
เทียบจากแมตช์บุกไปชนะ อิตาลี 2-1 ในเกมแรกของรอบคัดเลือก ยูโร 2024 เซาธ์เกต ปรับโผตัวจริงสามรายโดยส่ง แมดดิสัน , เบน ชิลเวลล์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงเล่นแทน ลุค ชอว์ ที่ติดโทษแบน , คัลวิน ฟิลลิปส์ และ แจ็ค กรีลิช
2. มูดริค นำทัพสามแข้งพรีเมียร์ลีกสู้ศึก
มิไคโล มูดริค ตัวรุก เชลซี นำทีมชาติ ยูเครน ลงเล่นเป็นเกมแรกของทัวร์นาเมนต์นี้ร่วมกับอีกสองขุนพลที่ค้าแข้งอยู่ในลีกอังกฤษเช่นกัน
นอกจากสตาร์ทีม สิงห์บลูส์ ที่ได้ลงบู๊เป็น 11 ตัวแรกแล้ว โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ วิตาลี่ ไมโคเลนโก้ ที่หากินอยู่กับ อาร์เซน่อล และ เอฟเวอร์ตัน ก็ได้ลงสนามด้วย
กระนั้นก็ดี ที่น่าสนใจคือ อนาโตลี ทรูบิน นายทวารวัย 21 ปีได้ลงเฝ้าเสาให้แผ่นดินเกิดเป็นเกมที่สี่ก่อนหน้า อังเดร ลูนิน ผู้รักษาประตูมือสองของทีม เรอัล มาดริด
3. เคน ควง ซาก้า โดดเด่น
แม้จะเริ่มเกมได้แบบเนือยๆค่อยเป็นค่อยไปไม่มีความน่าหวือหวา แต่สุดท้ายแล้ว อังกฤษ ก็พังประตูนำ ยูเครน ไปก่อนได้แบบสบายแข้ง 2-0 ในช่วง 45 นาทีแรกซึ่งแน่นอนว่า แฮร์รี่ เคน กับ บูคาโย่ ซาก้า โดดเด่นเกินใคร
ในรายของ เคน ไม่เพียงจะสร้างผลงานเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีม สิงโตคำราม คนใหม่ได้แล้วเมื่อกลางสัปดาห์ สตาร์ทีม สเปอร์ส ยังเพิ่มจำนวนประตูให้กับตัวเองในนามทีมชาติเป็นเม็ดที่ 55 ด้วยจากจังหวะเข้าฮอสลูกโยนข้ามฟากของ ซาก้า
จากนั้นอีกอึดใจเดียว ดาวเตะทีม อาร์เซน่อล ก็ขอมีชื่อติดสกอร์บอร์ดบ้างเมื่อรับบอลจาก เฮนเดอร์สัน แล้วกระชากหนีตัวประกบไปซัดจากหน้าเขตโทษเสียบเสาไกลได้สำเร็จ
ต่อผลงานของสตาร์ทีม ปืนใหญ่ ซึ่งยิงหนึ่งจ่ายหนึ่งในครึ่งแรกทำให้เขามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการผลิตประตู 23 ลูกแล้วจาก 34 นัดหลังทั้งในเกมกับสโมสร และทีมชาติ (ยิง 16 แอสซิสต์7)
แต่หากจะนับเฉพาะผลงานในทีมชาติ ซาก้า ทั้งยิงและจ่ายรวมกัน 10 ลูกจาก 16 นัดหลังในทุกรายการ อีกทั้งในวัย 21 ปี 202 วัน ดาวเตะ ท็อปกัน ยิงให้ อังกฤษ ได้แล้ว 8 ประตูเป็นรองแค่ ดิ๊กซี่ ดีน (16) , จิมมี่ กรีฟส์ (16) , เวย์น รูนีย์ (12) และ ไมเคิ่ล โอเว่น (10) ในช่วงอายุเดียวกัน
ส่วนสถิติในครึ่งแรก แน่นอนว่าเจ้าบ้านข่มมิดจากการครองบอล 60:40% และโอกาสคลำเป้า 10:3 ครั้ง รวมทั้งส่งบอลเข้ากรอบ 5:0 ครั้ง
4. มูดริค ดาวดับขนานแท้
ถึงตอนนี้ มันชัดเจนอย่างเต็มตาแล้วว่า มูดริค ย้ายมาตกอับกับ เชลซี อย่างแท้จริงเนื่องจากเขายังไม่อาจสอยตาข่ายให้กับ สิงห์บลูส์ ได้เลยแม้แต่ลูกเดียวทั้งๆที่ถูกดึงมาจาก ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค ทีมในบ้านเกิดอย่างแพงในราคาที่สามารถทะลุถึงหลัก 89 ล้านปอนด์ได้
ไม่เพียงเท่านั้น ปีกจรวดวัย 22 ปียังไม่มีสกอร์ในการรับใช้ชาติเช่นกันหลังโชว์ฟอร์มไม่ออกอีกตามเคยก่อนโดนเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 61
จากผลงานในเวลาหนึ่งชั่วโมงที่ เวมบลีย์ ของ มูดริค นัดปะทะกับทีม สิงโตคำราม มีสถิติแสดงให้เห็นว่าเขาเล่นได้อย่างเลวร้ายแค่ไหน
30 : สัมผัสบอล
9: ดวล
1 : ชนะการดวล
1 : ยิงประตู
0 : โยนบอล
0: สร้างโอกาส
5. โอกาสของ โทนีย์
หลังจากทำท่าว่าจะเก็บสามแต้มได้เป็นนัดที่สองติดต่อกันอย่างไม่ยากเย็น เซาธ์เกต ก็ตัดสินใจปล่อย ไอแวน โทนีย์ กองหน้าทีม เบรนท์ฟอร์ด รับใช้ชาติเป็นเกมแรกจนได้โดยสตาร์ผิวสีถูกส่งลงไปแทน เคน ในช่วงสิบนาทีสุดท้าย
ด้วยเหตุนี้ โทนีย์ จึงเป็นสมาชิกทีม เดอะ บีส์ รายที่สามเท่านั้นที่ได้ลงเล่นให้ทีม สิงโตคำราม ต่อจาก บิลลี่ สกอตต์ ในปี 1936 และ เลสลี่ สมิธ ในปี 1939
อย่างไรก็ดี ด้วยเวลาที่จำกัด เราจึงไม่อาจประเมินผลงานในเกมประเดิมสนามของ โทนีย์ ได้ แต่ที่แน่ๆ แมดดิสัน ซึ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้แผ่นดินเกิดเกมแรกมีผลงานน่าประทับใจโดยเขาสร้างโอกาสในเกมชนะ ยูเครน ได้ทั้งหมดห้าครั้งมากกว่านักเตะทุกคนที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้ สิงโตคำราม เกมแรกนับตั้งแต่ ธีโอ วัลค็อตต์ สร้างโอกาสได้หกครั้งในเกมบู๊กับ อันดอร์ร่า เดือนก.ย.2008
สำหรับสถิติหลังจบเกม 90 นาที บอกได้เลยว่า จอร์แดน พิคฟอร์ด ไม่จำเป็นต้องซักถุงมือให้ยุ่งยากเนื่องจากเขาไม่ได้เซฟเลยแม้แต่จังหวะเดียวโดย อังกฤษ ครองบอลได้ 58:42% ได้ยิงรวม 18:3 ครั้ง และเข้ากรอบ 8:0 ครั้ง