พลังซามูไร! นิชิมูระฮีโร่ซัดเผาขนช่วยญี่ปุ่นตีเจ๊าอุรุกวัยเดือด1-1

พลังซามูไร! นิชิมูระฮีโร่ซัดเผาขนช่วยญี่ปุ่นตีเจ๊าอุรุกวัยเดือด1-1
"จอมโหด" อุรุกวัย บุกนำก่อนจาก เฟเดริโก้ วัลเวร์เด กองกลางเรอัล มาดริด ตั้งแต่ น.38 ทว่า ฮาจิเมะ โมริยาสุ เทรนเนอร์ "ซามูไรบลู" โชว์กึ๋นการแก้เกมเปลี่ยนตัวส่ง ทาคุมะ นิชิมูระ แนวรุกโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ลงมาไม่ถึงนาทีจะซัดเผาขนช่วยให้ญี่ปุ่นตีเสมอก่อนจบเกมเจ๊า 1-1 ศึกคิริน ชาเลนจ์ คัพ 2023 เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเกมต่อไป ญี่ปุ่น ดวลกับ โคลอมเบีย วันอังคารที่ 28 มี.ค.นี้ ส่วนอุรุกวัย ปะทะ เกาหลีใต้ ซึ่งจะเตะในวันเดียวกัน

ทีมชาติญี่ปุ่น 1-1 ทีมชาติอุรุกวัย

การแข่งขันฟุตบอล คิริน ชาเลนจ์ คัพ 2023 ที่สนามกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่น เวลา 17.30 น. เป็นเกมระหว่าง ทีมชาติญี่ปุ่น ทีมอันดับ 20 ของโลก และอันดับ 1 ของโซนเอเชีย ลงสนามพบกับ ทีมชาติอุรุกวัย ทีมอันดับ 16 ของโลก และอันดับ 3 ของโซนอเมริกาใต้

เกมนี้ ฮาจิเมะ โมริยาสุ เทรนเนอร์ของเจ้าถิ่น "ซามูไรบลู" ใช้นักเตะที่ค้าแข้งอยู่ในยบุโรปทั้งหมด จัดระบบ 4-2-3-1 นำทัพโดย คาโอรุ มิโตมะ ปีกตัวจี๊ดจากไบรท์ตัน ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ รวมถึงกัปตันทีม วาตารุ เอ็นโดะ มิดฟิลด์ของสตุ๊ตการ์ท ในบุนเดสลีก้า เยอรมนี ส่วนหน้าเป้าใช้ ทาคุมะ อาซาโนะ หัวหอกเฟาเอฟแอล โบคุ่ม ลงล่าตาข่าย

ด้าน "จอมโหด" ที่มี มาร์เซโล่ โบรลี่ ทำหน้าที่ขัดตาทัพแทนที่ของ ดีเอโก้ อลอนโซ่ ที่แยกทางกับทีมหลังจบฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ รายการนี้ไม่มีแข้งตัวเก๋าอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี่ และดีเอโก้ โกดิน ที่ไม่มีชื่ออยู่ในทีม เช่นเดียวกับ ดาร์วิน นูนเญซ ดาวเตะลิเวอร์พูล ที่ถอนตัวออกจากทีมหลังมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน โดยเกมนี้นำทัพโดย เฟเดริโก้ วัลเวร์เด กองกลางเรอัล มาดริด และ ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ ปีกดาวรุ่งวัย 21 ปีจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

น.12 เจ้าบ้านซามูไรบลู เกือบได้ประตูนำจากจังหวะที่ ฮิเดมาซะ โมริตะ จ่ายบอลไปริมเส้นฝั่งซ้ายให้ ฮิโรกิ อิโตะ แทงบอลทะลุช่องให้ ทาคุมะ อาซาโนะ พาบอลไปในเขตโทษก่อนจะยิงด้วยเท้าซ้าย บอลไปเข้าข้างหน้าต่างหวุดหวิด

น.21 แฟนบอลเจ้าถิ่นเกือบได้เฮเมื่อ ยูกินาริ ซูกาวาระ จ่ายบอลทะลุช่องจากริมเส้นฝั่งขวาให้กับ ทาคุมะ อาซาโนะ หลุดเข้าไปยิง ทว่าจังหวะสุดท้าย เซร์คิโอ โรเชต มือกาวจอมโหด วิ่งออกมาได้เร็ว ทำให้ ทาคุมะ อาซาโนะ ต้องรีบยิงบอลเลยหลุดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

ทว่า น.38 กลายเป็น "จอมโหด" มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่แนวรับญี่ปุ่นเคลียบอลไม่ขาดบอลมาเข้าทาง เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ วิ่งมาฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาไปชนคาน แต่บอลเป็นใจกระเด้งมาเข้าทางอีกครั้งก่อนจะโหม่งซ้ำดาบสองเข้าไปตุงตาข่ายไม่เหลือ

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มเติมก่อนจะจบครึ่งแรก ญี่ปุ่น ยังเปิดบ้านตามหลัง อุรุกวัย อยู่ 0-1

เข้าสู่ครึ่งหลังฝนได้ตกลงมาพอสมควรทั้งสองทีมยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิม โดยเจ้าถิ่นซามูไรบลูโหมบุกเข้าใส่ทันที น.54 คาโอรุ มิโตะมะ จ่ายบอลให้กับ ทาคุมะ อาซาโนะ หลุดเข้าไปแต่ดันถูกดดันโดย เซร์คิโอ โรเชต มือกาวจอมโหดที่ออกมาเร็วอีกครั้ง ก่อนที่ ทาคุมะ อาซาโนะ  จะยิงออกหลังไป

น.65 ผู้ตัดสินเป่าให้ญี่ปุ่นได้จุดโทษเมื่อ จุนยะ อิโตะ ส่งบอลชิ่งกับ อายาเซะ อูเอดะ ก่อนที่ อิโตะ จะถูก มานูเอล อูการ์เต้ พุ่งมาสไลด์ อย่างไรก็ตามผู้ตัดสินได้ฟังสัญญาณจากห้องควบคุม VAR ก่อนจะวิ่งมาดูจอด้วยตัวเองและเปลี่ยนคำตัดสินไม่ให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่นซามูไรบลู เนื่องจาก มานูเอล อูการ์เต้ พุ่งสไลด์โดนบอลเต็มๆไม่ได้โดนขาของ อิโตะ แต่อย่างใด

น.75 ญี่ปุ่น ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ จุนยะ อิโตะ เปิดบอลจากสุดเส้นหลังฝั่งขวาเข้ามาตรงกลาง ก่อนจะเป็น ทาคุมะ นิชิมูระ แนวรุกโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ซึ่งเป็นตัวสำรองที่เพิ่งถูกลงสนามหมาดๆจะได้สัมผัสบอลครั้งแรกวิ่งมาชาร์จจ่อๆเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

น.85 แข้งจอมโหด เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะที่บอลเลยมาถึง ฟากุนโด ตอร์เรส ที่อยู่ในกรอบเขตโทษได้กระทุ้งด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งไปชนคานสามเหลี่ยมกระดอนออกไปอย่างน่าเสียดาย

จบเกม ญี่ปุ่น เปิดบ้านเสมอกัน อุรุกวัย ไปแบบสนุก 1-1 โดยโปรแกรมต่อไปทั้งสองทีมจะลงเตะในวันอังคารที่ 28 มี.ค.66 ญี่ปุ่น จะลงสนามเจอกับ โคลอมเบีย ที่สนามกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่น เวลา 17.20 น. ขณะที่อุรุกวัย จะเจอกับ เกาหลีใต้ เวลา 18.00 น.

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ทีมชาติญี่ปุ่น : ดาเนียล ชมิดต์ (ผู้รักษาประตู), ยูกินาริ ซูกาวาระ (เคย์โตะ นากามูระ แทน น.89), โค อิตาคุระ, อายูมุ เซโกะ, ฮิโรกิ อิโตะ, ฮิเดมาซะ โมริตะ (อาโอะ ทานากะ แทน น.74), วาตารุ เอ็นโดะ, ริตสึ โดอัน (จุนยะ อิโตะ แทน น.61), ไดจิ คามาดะ (ทาคุมะ นิชิมูระ แทน น.75), คาโอรุ มิโตะมะ (ไดกิ ฮาชิโอกะ แทน น.89), ทาคุมะ อาซาโนะ (อายาเซะ อูเอดะ แทน น.61)

ทีมชาติอุรุกวัย : เซร์คิโอ โรเชต (ผู้รักษาประตู), เซบาสเตียน โกอาเตส, ซานติอาโก้ บูเอโน่, มาธีอัส โอลิเวร่า, จิโอวานนี่ กอนซาเลซ, มาทิอัส เวซิโน่, มานูเอล อูการ์เต้ (เฟลิเป้ การ์บาโย่ แทน น.77), เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, ดิเอโก้ รอสซี่ (ฟากุนโด ตอร์เรส แทน น.68), ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ (อากุสติน กาโนบิโอ แทน น.68), มักซี่ โกเมซ (โจนาธาน โรดริเกรซ แทน น.84)


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport