การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา, แคนาดา และ เม็กซิโก เป็นเจ้าภาพร่วม อาจจะเกิดมิติใหม่ในรอบสุดท้าย เพราะแฟนบอลจะได้เห็นชาติเข้าร่วมโม่เกือกมากขึ้นถึง 16 ทีมเลยทีเดียว
สื่อหลายสำนักรายงานในทิศทางเดียวกันว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เตรียมที่จะอนุมัติรูปแบบใหม่ของการแข่งขันเวิลด์ คัพ ในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยจะเพิ่มโควตาชาติเข้ารอบสุดท้ายจากเดิม 32 ทีมเป็น 48 ทีมครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ของศึกฟุตบอลโลก
สำหรับแผนดังกล่าวคาดว่าจะอนุมัติอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่ของ ฟีฟ่า ที่จะจัดขึ้นในกรุงคิกาลี ที่ประเทศรวันดา ช่วงสัปดาห์นี้
องค์กรลูกหนังโลกจะทำการหารือร่วมกับประธานสมาพันธ์ฟุตบอล 6 ทวีป ได้แก่ ยูฟ่า (ยุโรป), คอนเมโบล (อเมริกาใต้) , คอนคาเคฟ (อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และ แคริบเบียน), ซีเอเอฟ (แอฟริกา), เอเอฟซี (เอเชีย), โอเอฟซี(โอเชียเนีย) เพื่อพิจารณาเรื่องนี้
หากทุกอย่างได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ นั่นหมายความว่าฟุตบอลโลก 2026 ที่จะมีขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม จะมีการเปลี่ยนแปลงชนิดที่คอลูกหนังต้องแปลกใจ และตื่นตาตื่นใจด้วย
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าฟุตบอลโลกครั้งต่อไปจะมีการเล่นรอบแบ่งกลุ่มโดยแบ่งเป็น 16 กลุ่มๆ ละ 3 ทีม แต่แผนดังกล่าวมีการปรับเปลี่ยนไปแล้ว โดยรายละเอียดสำคัญจะมีอะไรบ้างนั้นต้องมาพิจารณากันเลย
1. เพิ่มทีมที่ได้เข้ารอบสุดท้ายจากเดิม 32 ทีม เป็น 48 ทีม
2. การมีชาติเข้าร่วม 48 ทีมทำให้ทัวร์นาเมนต์จะต้องลงแข่งทั้งหมด 104 แมตช์จากเดิมแข่งกันแค่ 64 แมตช์
3. ระยะเวลาที่ใช้ในการแข่งขันทั้งหมด 39 วัน โดยตอนที่รอบสุดท้ายมี 32 ทีมใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน
4. รอบแบ่งกลุ่มจะแบ่งเป็น 12 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม
5. แชมป์กับรองแชมป์กลุ่ม และ 8 ทีมที่ได้อันดับ 3 ที่ดีที่สุดจะได้ผ่านเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้าย
6. ทีมที่ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศจะต้องลงเล่นทั้งหมด 8 แมตช์ (จากเดิม 32 ทีมแข่ง 7 เกม)
7. การแข่งขันทั้งหมดจะลงเล่นที่สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และ เม็กซิโก