เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังจอมเก๋า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คอนเฟิร์ม หันหลังให้กับการรับใช้ทีมชาติสเปนเรียบร้อย พร้อมแสดงความน้อยใจที่กุนซือ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ไม่เห็นคุณค่า แถมมองแก่เกินไป
เซร์คิโอ รามอส ยอดเซนเตอร์แบ็กประสบการณ์สูงของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ประกาศเลิกเล่นให้ทีมชาติสเปน อย่างเป็นทางการ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
อดีตกัปตันทีม เรอัล มาดริด วัย 36 ปี แถลงยืนยันเรื่องดังกล่าวผ่าน ทวิตเตอร์ อย่างเป็นทางการของตัวเอง โดยเจ้าตัวแสดงความน้อยใจที่ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ เฮดโค้ชทีมชาติสเปน เลือกที่จะมองข้าม ต่อให้ทำผลงานได้ดีแค่ไหนกับต้นสังกัดก็ตาม
"ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึง ซึ่งเป็นเวลาที่ผมต้องกล่าวอำลาทีมชาติสเปน เช้าวันนี้ผมได้รับโทรศัพท์จากโค้ชคนปัจจุบัน ซึ่งแจ้งให้ผมทราบว่า ผมจะไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของเขา โดยไม่สนว่าผมจะมีผลงานแบบไหน"
"มันน่าเศร้าที่ต้องจบแบบนี้ ผมเชื่อว่าเส้นทางสายนี้ของผม มันสมควรที่จะจบลงในแบบที่ผมเลือกเอง หรือไม่ก็เพราะฟอร์มของผมไม่คู่ควรกับทีมชาติเราอีกต่อไป มันไม่ควรเกี่ยวข้องกับเรื่องอายุ อายุมันก็แค่ตัวเลข มันไม่ได้มีผลอะไรกับฟอร์มการเล่น"
"ผมชื่นชมและรู้สึกอิจฉาผู้เล่นอย่าง (ลิโอเนล) เมสซี่, (ลูก้า) โมดริช และ เปเป้ ที่ได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรม ซึ่งน่าเสียดายที่มันไม่เกิดขึ้นกับผม ผมจะคอยให้กำลังใจทีมชาติของผมต่อไป ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ทีม 180 นัด ขอขอบคุณทุกๆ คนที่เชื่อมั่นในตัวผม" ข้อความส่วนหนึ่งในแถลงการณ์ของ รามอส
รามอส ลงเล่นให้ทีมชาติสเปน ทั้งสิ้น 180 นัด (ปี 2005-2021) ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลของทีมกระทิงดุ และทำไป 23 ประตู ซึ่งมากสุดอันดับเก้า (ร่วมกับ อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน่) ตลอดกาล ต่อจาก ดาบิด บีย่า (59), ราอูล กอนซาเลซ (44), เฟร์นานโด ตอร์เรส (38), ดาบิด ซิลบา (35), อัลบาโร่ โมราต้า (30), เฟร์นานโด เอียร์โร่ (29), เฟร์นานโด มอเรียนเตส (27) และ เอมิลิโอ บูตราเกนโญ่ (26)
นอกจากนี้ รามอส ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ตลอดระยะเวลา 16 ปี ที่รับใช้ทีมชาติสเปน โดยคว้าแชมป์โลก 1 สมัย (ปี 2010) และแชมป์ยูโร 2 สมัย (ปี 2008 และ 2012)