เปิด 4 จุดหมายปลายทางต่อไปของ ลิโอเนล เมสซี่ หากสุดท้ายนักเตะตัดสินใจย้ายออกจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยงานนี้ทีมในพรีเมียร์ลีกติดโผเข้ามาด้วย
อนาคตของ ลิโอเนล เมสซี่ กับ เปแอสเช เริ่มมีความสั่นคลอนมากขึ้น หลังจากล่าสุดเจ้าตัวโดนยอดทีมแห่งเมืองน้ำหอมสั่งลงโทษหนักด้วยการแบนสองสัปดาห์หลังเดินทางไป ซาอุดิ อาระเบีย โดยไม่ได้รับอนุญาติ
เมสซี่ ลงเล่นเกม ลีกเอิง นัดเฝ้าบ้านแพ้ ลอริยองต์ 3-1 ครบทั้ง 90 นาทีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่วันรุ่งขึ้นเขาพาครอบครัวบินไปที่ ซาอุดิ อาระเบีย โดยไม่ได้รับอนุญาติจากสโมสรเพื่อปฏิบัติภารกิจในสัญญาที่สตาร์ทีมชาติ อาร์เจนติน่า ทำเอาไว้ในฐานะฑูตของ ซาอุดิ อาระเบีย ต่อการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก 2030
นอกจากจะไม่ได้ลงสนามแล้ว เมสซี่ จะไม่มีสิทธิ์ร่วมซ้อมกับทีมเช่นกันในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าซึ่งหมายความว่าเขาจะได้สวมยูนิฟอร์ม เปแอสเช อีกไม่กี่นัดเท่านั้นในช่วงที่เหลือของซีซั่นก่อนที่สัญญาของเขากับสโมสรจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ และสามารถย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัว ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา เปแอสเช ก็มีความประสงค์ชัดเจนแล้วว่าต้องการเก็บสตาร์เลือดฟ้าขาวรายนี้ให้อยู่กับทีมต่อไป
อย่างไรก็ตามหากสุดท้าย เมสซี่ เลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับทีมออกไป นี่คือ 4 สโมสรที่มีโอกาสจะได้ตัวนักเตะมากที่สุด
บาร์เซโลน่า
การย้ายกลับไปอยู่กับอดีตต้นสังกัดที่ปลุกปั้นเขาให้เป็นยอดพ่อค้าแข้งระดับโลกจนถึงทุกวันนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่ เมสซี่ ต้องการมากที่สุดแล้ว ซึ่ง "เจ้าบุญทุ่ม" เองก็พร้อมอ้าแขนต้อนรับด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นปัญหาในการดึงตัว เมสซี่ กลับบ้านเก่านั่นก็คือเรื่องจากสภาพการเงินในปัจจุบัน บาร์เซโลน่า ยังไม่ผ่านเกณฑ์ที่จะสามารถลงทะเบียนให้นักเตะลงเล่นให้กับทีมได้
ด้าน ฆาเบียร์ เตบาส บิ๊กบอส ลา ลีกา เคยระบุไว้ว่า "บาร์ซ่า จำเป็นต้องดำเนินมาตรการทางการเงินหลายอย่างถึงจะสามารถลงทะเบียน เมสซี่ ได้ พวกเขาจำเป็นต้องทำหลายอย่างเพื่อที่จะให้มันเกิดขึ้นได้ ในตอนนี้ผมยังมองไม่เห็นช่องทางว่ามันจะเกิดการเซ็นสัญญากับเขาได้ แต่มันยังเหลือเวลาอีกเยอะล่ะนะ บาร์ซ่า ยังสามารถทำหลายอย่างเพื่อให้ได้ตัว เลโอ มาอยู่กับพวกเขาได้ เรายังรอดูแผนที่สมเหตุสมผลจาก บาร์เซโลน่า อยู่ พวกเขาจำเป็นต้องทำหลายอย่างเพื่อที่จะให้มันเกิดขึ้นได้"
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
ปฏิเสธไมได้ว่าเวลานี้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมเงินถุงเงินถังไปเรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่กลุ่มทุนจากซาอุฯ เข้ามาเทคโอเวอร์ และไม่แน่ว่าหากพวกเขาต้องการดึง เมสซี่ เข้ามาพลิกโฉมหน้าให้กับทีมก็มีความเป็นไปได้สูงเช่นกัน
เวลานี้ทัพ "สาลิกาดง" ภายใต้การคุมทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว กำลังเป็นไปในทิศทางที่ดี และมีโอกาสประสบความสำเร็จในอนาคต ซ฿งสุดท้ายหากพวกเขาจบท็อปโฟร์คว้าตั๋วลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ การได้ตัวสตาร์เลือดฟ้าขาวมาเขย่าเวทีพรีเมียร์ลีกก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
อัล ฮิลลัล
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า อัล ฮิลัล เตรียมสร้างความฮือด้วยการเตรียมทุ่มเงินปีละ 350 ล้านปอนด์ (ราว 15,032 ล้านบาท) เซ็นสัญญากับกองหน้าเลือดฟ้าขาวซึ่งเป็นเม็ดเงินที่สูงกว่าที่ โรนัลโด้ หัวหอกวัย 38 ปีได้รับจาก อัล นาสเซอร์ อีกทีมในลีก ซาอุดิ อาระเบีย ปีละ 173 ล้านปอนด์ (ราว 7,430 ล้านบาท)
พร้อมจะทำให้ทั้งสองดาวยิงชั้นนำของโลกได้โคจรมาดวลกันอีกครั้งในลีกแดนอาหรับ ซึ่งทั้งสองทีมต่างเป็นคู่แข่งกันโดยตรงอีกด้วย ทำให้แฟนบอลหลายๆคนอยากให้ดีลนี้เกิดขึ้น
อินเตอร์ ไมอามี่
ยอดทีมแห่งแดนลุงแซมที่มี เดวิด เบ็คแฮม เป็นเจ้าของตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ เมสซี่ มาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายจะเคยเจรจากันมาแล้วด้วย
ทั้งนี้จากการที่ เบ็คแฮม มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของสโมสรชาว กาตาร์ ของทีม เปแอสเช ด้วยในฐานะฑูต ฟุตบอลโลก 2022 จึงทำให้เขามองว่ามีโอกาสเซ็นสัญญากับ เมสซี่ ได้
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ฟิล เนวิลล์ กุนซือ อินเตอร์ ไมอามี่ เปิดเผยว่าทีมของตนให้ความสนใจที่จะดึง เมสซี่ มาแล้วเช่นกัน พร้อมกับอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ โคจรมาเล่นร่วมกันอีกครั้ง