"เรือใบสีฟ้า" ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวังแลกหมัดเบียด "หงส์แดง" 3-2 จากความฮอตของ เดอ บรอยน์ จัดสอง แอสซิสต์ พาทีมดับฝัน แชมป์เก่า ที่เกมนี้ นูนเญซ ผลงานน่าผิดหวังใช้โอกาสสุดเปลืองส่งลูกทีมของ เป๊ป ลอยลำผ่านเข้ารอบ ก่อนรองชนะเลิศ ศึกคาราบาว คัพ โดยจะมีการจับสลากรอบ 8 ทีมสุดท้ายหลังจบเกมนี้ทันที
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
แมนฯ ซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ลงเตะอุ่นเครื่องเอาชนะ คิโรน่า ไปด้วยสกอร์ 2-0 ในเกมล่าสุด ส่วนในรายการนี้พวกเขาเอาชนะ เชลซี มา 2-0 ในรอบที่แล้ว
ทางด้าน ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ อุ่นเครื่องเอาชนะ เอซี มิลาน ไป 4-1 ใน 90 นาทีของศึกดูไบ คัพ ก่อนมาแพ้จุดโทษ 3-4 ส่วนในลีกคัพดวลเป้าชนะ ดาร์บี้ มา 3-2 ในรอบ 3
เปิดฉากครึ่งแรกไม่ถึง 20 วินาที แมนฯ ซิตี้ ทักทายก่อน อิลคาย กุนโดกัน พลิกหนีขึ้นมาทางซ้ายแทงช่องให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ หลุดกับดักล้ำหน้าเลือกยกข้าม ควีวีน เคลเลเฮอร์ ที่ออกมาจากหน้าปากประตูเหินข้ามคานออกไปไกล
นาทีที่ 6 "เรือใบสีฟ้า" พลาดโอกาสทองแนวรับ ลิเวอร์พูล เช็คล้ำหน้าไม่ดีโดน เออร์ลิง ฮาลันด์ สอดหนีขึ้นมาทางขวาแตะเข้าเขตโทษถวายพานเข้ากรอบ 6 หลาให้ โคล พัลเมอร์ สอดมาชาร์จผิดเหลี่ยมออกหลังเหลือเชื่อ
นาทีที่ 10 เจ้าถิ่น ทะยานอกนำ 1-0 จากจังหวะประสานงานทางซ้าย เควิน เดอ บรอยน์ ครอสบอลโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ โฉบตัดหน้า โจ โกเมซ ถีบชาร์จกระดอนพื้นเสียบเสาแรกงามหยด
5 นาทีต่อมา "หงส์แดง" ตอบโต้บ้าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาปาดโค้งเข้ากรอบ 6 หลาถึง ดาร์วิน นูนเญซ ซัดชนเสาเด้งออกมาก่อนโดน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน จับล้ำหน้า
นาทีที่ 20 ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอเป็น 1-1 โจเอล มาติป พาบอลดันขึ้นมาทางขวาแทงช่องสุดงามเข้าเขตโทษให้ เจมส์ มิลเนอร์ หักข้อย้อนให้ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ สอดมาแปเรียดเสียบเสาไกลตุงตาข่าย
ต่อมานาทีที่ 36 "เรือใบสีฟ้า" หวิดนำอีกรอบคราวนี้เป็น เควิน เดอ บรอยน์ หลุดขึ้นมาทางขวาจี้เข้าเขตโทษก่อนปาดถวายพานให้ อิลคาย กุนโดกัน ตามมาซัดติดขา ควีวีน เคลเลเฮอร์ นิดเดียว
จากจังหวะต่อเนื่อง แนวรับ ลิเวอร์พูล มีปัญหาชัดเจน เควิน เดอ บรอยน์ ขยับมาเก็บบอลทางริมเส้นฝั่งขวาปั่นโค้งเข้าเขตโทษถึงหัว นาธาน อาเก้ ทิ้งตัวโขกหน้ากรอบ 6 หลาแบบไรัตัวประกบติดเซฟ ควีวีน เคลเลเฮอร์
ท้ายครึ่งแรก "หงส์แดง" ใช้โอกาสเปลือง ดาร์วิน นูนเญซ หลุดเข้าไปล่อเป้า สเตฟาน ออร์เตก้า แต่ซัดไม่ตรงกรอบแถมช่วง ทดเจ็บ ได้โอกาสอีกรอบก็ยังทำได้แย่เหมือนเดิม
หมดครึ่งเวลาแรก แมนฯ ซิตี้ 1 ลิเวอร์พูล 1
นาทีที่ 47 แมนฯ ซิตี้ แซงนำ 2-1 อย่างรวดเร็ว โรดรี้ เก็บบอลทางซ้ายทิ้งข้ามเข้าเขตโทษให้ ริยาด มาห์เรซ ขยับมาเก็บโยกหนี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ซัดด้วยซ้ายเสียบหน้าต่างเสาไกลไม่เหลือ
แต่แล้วนาทีต่อมา "หงส์แดง" ตามตีเสมอทันควัน 2-2 อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ตัวสำรองดีดไซค์ก้อยให้ ดาร์วิน นูนเญซ ใช้ความเร็วหนี อายเมริค ลาปอร์กต์ หลุดขึ้นมาทางซ้ายแตะเข้าเขตโทษก่อนตบถวายพานให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แปะเข้าไปอย่างง่ายดาย
นาทีที่ 58 "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2 จนได้จากลูกสูตรเตะมุมทางซ้าย เควิน เดอ บรอยน์ ตามมาเก็บยกตามน้ำเข้าเขตโทษข้ามไปเสาไกลถึง นาธาน อาเก้ ขวิดกระดอนพื้นย้อนทาง ควีวีน เคลเลเฮอร์ ตุงตาข่าย
60 นาทีผ่าน ลิเวอร์พูล พยายามเร่งเครื่องลุ้นตีเสมอได้จบเพิ่มจาก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และจังหวะซัดของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน แต่ยังไม่ดีพอให้ สเตฟาน ออร์เตก้า ต้องออกแรง
15 นาทีสุดท้ายเหมือนฉายภาพซ้ำ ดาร์วิน นูนเญซ คนเดิมใช้ความเร็วหลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นมาทางขวาแบบไร้ตัวประกบเลือกหักข้อด้วยขวาในเขตโทษผ่านหน้าประตูออกหลังน่าผิดหวัง
ก่อนหมดเวลา 5 นาที เจ้าถิ่น ลุ้นปิดกล่อง เควิน เดอ บรอยน์ ตะบันเต็มข้อหน้ากรอบเขตโทษติดบล็อค ฟาบินโญ่ เด้งมาเข้าทาง ฟิล โฟเด้น หวดด้วยซ้ายยัดเสาแรกติดเซฟ ควีวีน เคลเลเฮอร์
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม แมนฯ ซิตี้ 3 ลิเวอร์พูล 1
รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : สเตฟาน ออร์เตก้า - ริโก้ ลูอิส, มานูเอล อคานจี (จอห์น สโตนส์ น.61), อายเมริค ลาปอร์กต์, นาธาน อาเก้ - เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน (แบร์นาร์โด้ ซิลวา น.88), โรดรี้ - ริยาด มาห์เรซ, เออร์ลิง ฮาลันด์ (ฟิล โฟเด้น น.73), โคล พัลเมอร์ (แจ็ค กรีลิช น.73)
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวีน เคลเลเฮอร์ - เจมส์ มิลเนอร์, โจ โกเมซ, โจเอล มาติป, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.57), สเตฟาน บายเซติช (ฟาบินโญ่ น.46), ติอาโก้ อัลกันตาร่า (นาบี เกอิต้า น.70) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.46)
ผู้ตัดสิน : เดวิด คูต