ฟาน ไดค์ เต็มสิบไม่มีหัก, เคลเลเฮอร์ โคตรซูเปอร์เซฟ ! ตัดเกรดนักเตะลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี คว้าแชมป์คาราบาว คัพ

ฟาน ไดค์ เต็มสิบไม่มีหัก, เคลเลเฮอร์ โคตรซูเปอร์เซฟ ! ตัดเกรดนักเตะลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี คว้าแชมป์คาราบาว คัพ
ลิเวอร์พูล เดินหน้าสร้างงานเลี้ยงฉลองอำลาของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสามารถรวมพลังประจัญบานเอาชนะ เชลซี 1-0 หลังเสมอกันในเวลา 90 นาที 0-0 ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกคาราบาว คัพ ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำหรับแมตช์นี้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โชว์ฟอร์มได้อย่างสมบูรณ์แบบและยังเป็นคนทำประตูชัยให้ทีมในช่วงนาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษ ขณะที่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ แสดงผลงานสุดเหนียวหนึบมีเซฟสำคัญหลายครั้งจนทำให้ทีมรอดเสียประตู นอกจากนี้เหล่าแข้งพลังหนุ่มก็ไม่ทำให้ "บอส" ผิดหวัง เมื่อเล่นด้วยหัวใจจนนำแชมป์แรกของฤดูกาลนี้มาประดับตู้โชว์ในถิ่นแอนฟิลด์

11 ตัวจริง

ควีวิน เคลเลเฮอร์ : 9

โชว์ซูเปอร์เซฟหลายครั้ง โดยมีเซฟสำคัญในเขตโทษถึง 6 ครั้ง รวมทั้งจังหวะยิงจ่อๆ ของ โคล พาลเมอร์ และจังหวะดวลตัวต่อตัวในกรอบเขตโทษของ คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ การตัดบอลกลางอากาศแม่นยำ มีความนิ่งในสถานการณ์กดดัน และเปิดบอลเร็วทุกครั้งที่มีโอกาส

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : 7.5

เล่นเกมรุกดุดันมีจังหวะเปิดบอลสวยๆ 2-3 ครั้ง ขณะที่เกมรับถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน ได้เปิดฟรีคิกให้ ฟาน ไดค์ โหม่งทำประตูแต่โดนวีเออาร์ริบ และยังเปิดบอลให้ กัคโป ได้โหม่งชนเสา 

เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ : 10

เป็นอีกหนึ่งเกมที่เล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบเกมรับบนพื้น และกลางอากาศจัดการได้หมด เป็นหัวใจในแผงแบ็กโฟร์ของทีม ขณะเดียวกันยังขึ้นไปช่วยทำประตูทุกครั้งที่ได้ลูกตั้งเตะ และในที่สุดก็เป็นฮีโร่โหม่งประตูชัย

อิบราฮิม่า โกนาเต้ : 8

ประสานงานกับ ฟาน ไดค์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีจังหวะตัดเกมสวยๆ หลายครั้ง ไม่ปล่อยให้เกมรุกของ เชลซี ได้สร้างโอกาสมากนัก การเข้าบอลฉลาดและแม่นยำ 

คอนเนอร์ แบรดลี่ย์ : 7

มีจังหวะเล่นเกมบุกที่ถนัดได้อย่างต่อเนื่อง กล้าเล่น จังหวะการเปิดบอลอันตราย แต่พลาดหัวร้อนไปหน่อยทำให้โดนใบเหลือง และหลังจากถูกจับไปเล่นตรงกลางแทน กราเฟนแบร์ก ฟอร์มก็ดร็อปลงจนถูกเปลี่ยนตัวออก

วาตารุ เอ็นโด : 8

สวมบทนักรบสู้ไม่ถอยอย่างแท้จริง จังหวะการสกัดแม่นยำ คอยทำหน้าที่กองกลางตัวรับได้อย่างยอดเยี่ยม คุมจังหวะการเล่นและเชื่อมเกมได้ดี โดยเฉพาะช่วงที่มีผู้เล่นดาวรุ่งลงสนาม เอ็นโด สามารถแบกรับภาระทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ : 7

ช่วงต้นเกมมีโอกาสได้ผ่านบอลสวยๆ หลายครั้ง ช่วยทำให้เกมรุกของ "หงส์แดง" อันตรายมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังเล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง การครองบอลเหนียวแน่น แต่ช่วงครึ่งหลังผ่านบอลเสียพอสมควร 

ไรอัน กราเฟนแบร์ก : 5.5

ไม่สามารถช่วยเกมรุกได้มากนัก แต่ข้อดีก็คือสามารถเก็บบอลไว้กับตัวได้ดี น่าเสียดายที่โดน มอยเซส ไกเซโด้ เข้าหนักจนต้องโดนเปลี่ยนตัว   

หลุยส์ ดิอาซ : 7.5

ถือเป็นแนวรุกที่พึ่งพาได้ที่สุดของทีมในเกมนี้ ความเร็วและความคล่องตัวทำให้เกมบุกของ ลิเวอร์พูล อันตราย พยายามใช้ศักยภาพของตัวเองในการเล่นทางกว้าง แต่น่าเสียดายที่ไม่เฉียบคม ไม่อย่างนั้นอาจจะมีชื่อทำประตูไปแล้ว 

โคดี้ กัคโป : 5.5

ไม่ค่อยได้สร้างความอันตรายมากนัก จนกระทั่งได้โขกไปชนเสาในช่วงท้ายครึ่งแรก หลังจากนั้นแทบไม่สามารถขู่กองหลังคู่แข่งได้เลย และไม่มีส่วนกับเกมมากนัก

ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์  : 7.5

มส่วนสำคัญในการเล่นเกมบุกของทีม พยายามใช้ความเร็วเพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับเกมรับ เชลซี มีโอกาสเกือบยิงประตูได้แต่ติดเซฟ ยอร์เย่ เปโตรวิช และอีกครั้งช่วงต่อเวลาพิเศษที่โหม่งไปชนเสา 

ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม

โจ โกเมซ (ไรอัน กราเฟนแบร์ก น.28)  : 6.5

หน้าที่สำคัญก็คือการช่วยตัดเกมบุกทางริมเส้นของ เชลซี และก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนเกมรุกก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรมากนัก แต่มีโอกาสได้ยิงประตูในช่วงท้ายครึ่งแรก แต่ตรงตัว เปโตรวิช

บ็อบบี้ คล้าร์ก (แทน คอนเนอร์ แบรดลี่ย์ น. 72) : 5.5

ยังขาดความเก๋าในการเล่น ทุกครั้งที่ได้บอลไม่สามารถสร้างสรรค์เกมรุกมากนัก แต่พลังหนุ่มทำให้กล้าวิ่งและกล้าเข้าบอลซึ่งช่วยทำให้แผงมิดฟิลด์เชลซีเล่นยาก 

เจย์เดน แดนน์ส (แทน โคดี้ กัคโป น. 87) : 6.5

เป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากๆ มีความกล้าในการดวลกับกองหลังระดับซีเนียร์ของ "สิงห์บูลส์" แถมมีโอกาสได้โหม่งแต่ติดเซฟของ เปโตรวิช 

คอสตาส ซิมิกาส (แทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน น. 87) : 6

เติมพลังเกมบุกฝั่งซ้ายได้มากขึ้น มีโอกาสเปิดบอลให้ทีมได้ลุ้น 2-3 ครั้ง ก่อนจะเปิดเตะมุมให้ ฟาน ไดค์ โขกประตูชัย 

เจมส์ แม็คคอนเนลล์ (แทน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ น. 87) : 6

พยายามวิ่งสู้ฟัดช่วยทีมตลอด เข้าบอลฉลาด 2-3 ครั้ง แต่ยังอ่านเกมไม่ค่อยดี ทำให้ต้องทำฟาวล์คู่แข่งจนโดนใบเหลือง 

จาร์เรลล์ ควอนซาห์ (แทน อิบราฮิม่า โกนาเต้ น. 105)  : 6

ลงมาเพื่อช่วยทำให้เกมรับสดขึ้น ค่อยช่วยงาน ฟาน ไดค์ และจัดการกับความเร็วของ มิไคโล มูดริค ได้ดี

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport