จงลงสนามเพื่ออุทิศให้กับตราสโมสร

เชื่อว่าหลายคนก็คงรู้สึกกับนัดชิง ลีก คัพ เมื่อคืนที่ผ่านมาในทำนองคล้ายๆ กันนะครับ นัดชิงชนะเลิศมันต้องอย่างนี้ สู้กันสนุก ตื่นเต้นทุกวินาที ด้วยฟุตบอลที่เร้าอารมณ์

นัดชิงรายการใหญ่สองรายการล่าสุดแฟนบอลได้ถูกใจกับมัน ทั้งนัดชิงฟุตบอลโลกและในศึกลีก คัพ นี้ ไม่น่าเบื่อ ไม่ระวังตัวแจ ไม่ดึงเกมเล่นช้าเพื่อความรัดกุมสุดยอด

ความเร็วของเกมที่เวมบลีย์นั้นราวกับติดจรวด บอลจากหน้าประตูฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งเร็วมาก ความแน่นอนในการผ่านบอลไม่มากนักก็เพราะความเร็วของเกมนี่แหละ บอลเร็ว เล่นเร็ว ไม่มีเวลาให้หายใจหายคอ โอกาสที่จะส่งบอลผิดพลาดย่อมมีมากกว่าเป็นธรรมดา แต่มันแลกมาด้วยความสนุกในแบบที่นั่งเชียร์กันก้นไม่ติดเก้าอี้

ในแง่ของความประทับใจแล้วเต็มร้อย ไม่มีอะไรที่น่าผิดหวังเลย

แฟนบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย่อมดีใจและภูมิใจกับความสำเร็จในครั้งนี้ด้วยพวกเขาคือผู้ชนะ แต่กระทั่งกองเชียร์สาลิกาดงผู้แพ้ มันก็ไม่มีอะไรน่าเสียใจเช่นกัน

แฟนบอลนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สามารถภูมิใจในทีมของตัวเองได้อย่างเต็มที่ และผมคิดว่าพวกเขาก็ได้แสดงออกให้เห็นแล้วผ่านเสียงเชียร์ที่เราได้ยินตลอด 90 นาทีของเกมที่เวมบลีย์ เมื่อ ทูน อาร์มี่ ฉาบครึ่งหนึ่งของเวมบลี่ย์เป็นสีขาวดำ การแปรอักษรอันตระการตาทั้งก่อนเริ่มเกมและช่วงที่ใกล้จะจบเกมสะท้อนความรู้สึกภูมิใจนั้นออกมาได้ชัด

แพ้ด้วยฟุตบอลอย่างนี้ แพ้ด้วยความใจสู้อย่างนี้ แพ้ด้วยแคแร็กเตอร์แบบนี้ มีอะไรให้ติดค้างในใจหรือ

ไม่มีเลย ผมไม่ใช่แฟนบอลนิวคาสเซิ่ลยังอดยินดีไปกับความรู้สึกภูมิใจที่คงพลุ่งพล่านอยู่ในตัวพวกเขาไปด้วยไม่ได้ แพ้อย่างนี้มีแต่ฝากความทรงจำดีๆ ที่ลืมไม่ลง

แพ้คือแพ้ แพ้ในเกม ทุกคนยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ความภูมิใจในการต่อสู้ยิบตาของนักเตะทุกคนนั่นต่างหากที่คงทำให้ ทูน อาร์มี่ ทุกชีวิตอยากจะกระโจนเข้าไปกอดคอพวกเขา โอบบ่าตบไหล่แล้วพูดคำขอบคุณ

ขอบคุณที่ทำให้เรามีความสุขกับความพยายามของคุณ ขอบคุณที่ทำให้เราภูมิใจว่าเชียร์ทีมไม่ผิด ขอบคุณที่ทำให้เรามั่นใจในทางที่กำลังเดินไป มันเต็มไปด้วยความหวังอันเปล่งประกาย

ไม่มีอะไรค้างคาอยู่ในใจเลย ยินดีอย่างยิ่งที่จะหันไปปรบมือให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้ชนะ และหันกลับมากำหมัดสะใจตะโกนกับพรรคพวกสาลิกาดงว่า "เอาใหม่โว้ย" ให้ดังๆ

เดาว่าความรู้สึกและอารมณ์ของแฟนบอลนิวคาสเซิ่ลคงเป็นอย่างนั้นนะครับ

ส่วนแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงไม่ต้องคาดเดาอะไรมากถึงความสุขที่เกิดขึ้น จากจุดเริ่มต้นของ เอริก เทน ฮาก ในวันเข้ารับตำแหน่งจนถึงเวลานี้ จะมีอะไรสุขไปกว่าปัจจุบันอีก และแน่นอนครับ.. มันจะยังไม่สิ้นสุดแค่ตรงนี้แน่ เราสัมผัสกับมันได้เลย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ผ่านๆ มาเคยขาดบุคลิกที่กร้าวแกร่งและพร้อมจะเป็นผู้ชนะ บุคลิกหรือแคแร็กเตอร์นั้นไม่ใช่สิ่งที่จับต้องได้เป็นรูปธรรมหรอกครับ ออกจะเป็นนามธรรมด้วยซ้ำ แต่น่าแปลก มันกลับเป็นนามธรรมที่สัมผัสได้เหมือนมองเห็น บางทีอาจเห็นมันได้ชัดกว่าสิ่งที่เป็นรูปธรรมเสียอีก

มองไปในทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เวลานี้ ผมเห็นบุคลิกที่เคยสร้างพวกเขาให้ยิ่งใหญ่ในยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มันโดดเด่นและชัดเจนมาก

นักเตะใหม่แต่ละคนที่ดึงเข้ามาไม่เพียงเพิ่มคุณภาพด้านฝีเท้า หากแต่ยังนำเอาบุคลิกของความเป็นผู้ชนะมายังสโมสรด้วย

หนักหน่วง ดุดัน มั่นคงดังหิน ลิซานโดร มาร์ติเนซ กับ กาเซมิโร่ ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น

ยูไนเต็ดมีนักเตะฝีเท้าดีเป็นทุนเดิม เมื่อเพิ่มบุคลิกนี้เข้าไปสมทบกับความเชื่อมั่นในทิศทางของทีม ความมั่นใจในตัวผู้จัดการทีม และสปิริตที่กลมเกลียวเป็นหนึ่ง ไม่มีข้าไม่มีเอ็งมีแต่เรา พวกเขาก็พร้อมเผชิญหน้ากับทุกอุปสรรคด้วยใจที่แน่วแน่

ไม่มีกลัว ไม่มียอม ไม่มีติ๋ม หนักมา.. หนักกลับ บู๊มา.. บู๊กลับ ดุมาก็ดุกลับ โดนไปก่อน.. ไม่เป็นไร ใจไม่เสีย พวกกูจะบี้จนเอาคืนให้ได้

จะว่าไปมันก็หายไปนานแล้วนะครับบุคลิกไม่ยอมใครโดยสิ้นเชิงแถมยังมีคุณภาพในการคัมแบ็กกลับมาได้อย่างนี้ เราเคยคุ้นกับแคแร็กเตอร์นี้ของพวกเขาอยู่ แต่มันก็ต้องย้อนไปไกลทีเดียว

มันไม่ใช่เรื่องที่จะสร้างขึ้นมาได้ง่ายๆ นะครับ มันไม่ใช่แค่ซื้อนักเตะที่มีแคแร็กเตอร์อย่างนั้นเข้ามาปุ๊บจะเปลี่ยนทีมได้เลย มันมีองค์ประกอบที่ซับซ้อนกว่านั้นและคนที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการจัดการมันก็คือผู้จัดการทีม

แล้ว เทน ฮาก ก็สามารถจัดการองค์ประกอบต่างๆ เหล่านั้นให้เป็นรูปเป็นร่าง ด้วยวิธีการที่ถูกต้องที่สุดด้วยการใช้ศาสตร์และศิลป์ของการทำงาน มีทั้งไม้แข็งไม้อ่อน มีทั้งเด็ดขาดและยอมผ่อนปรนในบางเงื่อนไข เพื่อตบแต่งและขัดเกลาทีมให้กลับมาเข้าที่เข้าทางด้วยทัศนคติที่ชัดเจน มันเป็นเพียงคำสั้นๆ ง่ายๆ จงเล่นเพื่อสโมสร

จงเล่นเพื่อสโมสร.. โอเคนะ ถ้าไม่เข้าใจก็จะพูดให้ฟังอีกครั้งเดียว.. จง-เล่น-เพื่อ-สโมสร.. จบนะ ถ้ายังไม่เข้าใจอีก ประตูอยู่ทางนู้น ขอเชิญออกไปได้เลย

เป็นอีกครั้งที่พิสูจน์ให้เราได้เห็นว่าการเลือกผู้จัดการทีมที่ถูกต้องนั้นช่วยยกระดับทีมได้มหาศาล เทน ฮาก อาจเข้ามาพร้อมความสงสัยในเบื้องต้นสำหรับบางคน แต่การทำงานของเขาและผลลัพธ์ที่ออกมาชนะใจทุกคนแบบกวาดเรียบ

ไม่มีเอ็ง ไม่มีข้า มีแต่เรา.. จงลงสนามไปเพื่ออุทิศให้กับตราสโมสร

ไม่เพียงการจัดการเรื่องนอกสนามอย่างการสร้างสปิริตทีมด้วยแนวคิดที่ตรงกันเท่านั้น เทน ฮาก ยังพิสูจน์เรื่องในสนามให้เห็นอีกด้วยว่าเขาก็มีฝีมือ การแก้เกมแต่ละครั้งได้ผลที่ดีเกือบทั้งหมด

บางครั้งเขาเปลี่ยนตัวช้า บางคราเขาเปลี่ยนตัวเร็ว หรือบ่อยครั้งเขาเปลี่ยนตัวไม่ตรงกับอารมณ์ของแฟนบอล แต่สิ่งที่ปรากฏออกมาทุกการเปลี่ยนตัวล้วนมีความหมายต่อเกมทั้งสิ้น ไม่มีส่งใครลงไปแล้วเงียบหายหรือไร้อิทธิพลใดๆ ต่อผลลัพธ์ของเกม

ในนัดชิงลีก คัพที่เวมบลี่ย์ เขาเปลี่ยน ดีโอโก้ ดาโล่ต์ ออกตั้งแต่ช่วงพักครึ่งแล้วส่ง แอรอน วาน-บิสซาก้า ลงมา มันคือการเปลี่ยนตัวที่ฉลาด ดาโล่ต์มีใบเหลืองติดตัวและต้องรับมือกับ อัลลัน แซงต์-แม็กซิแม็ง ที่จัดจ้านจนน่าปวดหัว สุ่มเสี่ยงอย่างมากที่จะพลาดโดนใบเหลืองที่สอง ไม่เพียงเท่านั้นความเหนียวแน่นในการเล่นเกมรับอันขึ้นชื่อของวาน-บิสซาก้า ก็ทำให้การดวลกับ แซงต์-แม็กซิแม็ง ในครึ่งหลังเป็นเหมือนมวยถูกคู่ที่เป็นกำไรของแฟนบอลจริงๆ

เฟร็ด กับ เว้าต์ เวกฮอร์สท์ ถูกถอดออกในเวลาต่อมาช่วง 20 นาทีสุดท้ายเพื่อส่ง มาร์เซล ซาบิตเซอร์ กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ลงไปอัดแดนกลางให้แน่นขึ้น ขยับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไปยืนหน้าเป้ารอเล่นจังหวะโต้กลับในช่วงที่ทีมถูกนิวคาสเซิ่ลบุกกดดันหนัก

อันโตนี่ถูกถอดออกช่วง 7 นาทีสุดท้าย ดาวเตะแซมบ้ารีดพลังไปกับการป่วนเกมรับสาลิกาดงจนหมด เทน ฮาก หย่อน เจดอน ซานโช่ ลงมาเพิ่มความสดทั้งช่วยเกมรับและโอกาสในการสวนกลับ ขณะที่เมื่อเหลือเวลาอีก 2 นาทีก็ปิดเกมให้เด็ดขาดด้วย แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ลงมาแทนแรชฟอร์ด

หลายครั้งที่ผ่านมา การเปลี่ยนตัวแก้เกมของ เทน ฮาก เข้าขั้นโดดเด่น มันดูสมเหตุสมผลและเป็นประโยชน์ต่อเกม แน่นอนครับเขาทำให้เห็นอีกครั้งในนัดชิงครั้งนี้

กองเชียร์ยูไนเต็ดที่ฉาบอีกครึ่งหนึ่งของเวมบลีย์เป็นสีแดง ตะโกนโห่ร้องและเฉลิมฉลอง พวกเขาฉลองกันยาวนานราวกับว่าความสุขนี้ไม่มีวันสิ้นสุด

ก็เพราะพวกเขามีความสุขกับสิ่งที่กำลังเป็นไปที่สโมสร

มันไม่ใช่แค่ถ้วยแชมป์ลีก คัพที่ได้มาเพิ่มเป็นสมัยที่ 6 ไม่ใช่แค่งานฉลองเอิกเกริกในเวมบลีย์หรือภาพการชูถ้วยร่วมกันอันน่ารักน่าชังของ แม็กไกวร์ กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส

สำหรับแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว จะมีอะไรสุขไปกว่าการได้เห็นบุคลิกที่เคยขาดหายไป ได้เห็นรอยยิ้มและสเต็ปแดนซ์ของ เอริก เทน ฮาก กับ อันโตนี่ และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ หลังจบเกม ได้เห็นถนนที่พุ่งไปสู่อนาคตเต็มไปด้วยความหวังล้นปรี่

แล้วมันก็ยังมีที่สุขยิ่งไปกว่านั้น.. อาจจะสุขกว่านั้นอีกหลายเท่าด้วยซ้ำ

สีหน้าอันผ่องใสนั้น ยิ้มแป้นอารมณ์ดีอยู่บนอัฒจันทร์นั้น.. ความชื่นใจของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

เทน ฮาก และนักเตะของเขาทำให้เฟอร์กี้กลับมายิ้มกว้างอย่างมีความสุขอีกครั้ง นั่นคงเป็นเรื่องที่พวกเขาคงอยากจะขอบคุณทีมชุดนี้ที่สุด

ไม่มีรอยยิ้มไหนทำให้แฟนบอลปีศาจแดงมีความสุขมากไปกว่ารอยยิ้มนี้อีกแล้ว..

ยินดีด้วยกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และให้กำลังใจ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พวกคุณเพิ่งจะร่วมกันสร้างนัดชิงชนะเลิศที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งของรายการขึ้นมาด้วยกัน เป็น 90 นาทีที่สนุกจริงๆ

ตังกุย