แมนฯ ยูไนเต็ด พุ่งทะยานเข้าไปชิงชนะเลิศ น้าแอ๊ด คัพ ได้สำเร็จ หลังจากยัดเยียดความปราชัยให้ น๊อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-0 ในรอบตัดเชือก นัดที่ 2 มีชัยด้วยสกอร์รวมท่วมท้น 5-0
ต่อไปคือสิ่งที่อยากจะบอกแบบพอสังเขป...นะจ๊ะ
1.เพื่อความไม่ประมาท เอริค เทน ฮาก ยังคงจัดทีมชุดใหญ่ลงทำศึก โดยเปลี่ยนผู้เล่นตัวหลักแค่ 2 ตำแหน่งเท่านั้น คือให้ ทอม ฮีตัน เฝ้าเสาแทน ดาบิด เด เคอา และส่ง อเลฮานโดร
การ์นาโช่ ลงกระชากแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด
ส่วน คริสเตียน เอริคเซ่น ที่เจ็บยาวเป็น เฟร็ด ที่ได้ลงตัวจริงแทน
ความจริงเปลี่ยนทีมมากกว่านี้ก็ได้นะครับ ขอบอก เพราะนัดแรกตุนเอาไว้เยอะถึง 3 ประตู ยกตัวอย่างเจ้าหนู ค๊อบบี้ ไมนู ที่น่าได้ลง เพื่อพัก บรูโน่ แฟร์นันด์ส หรือ ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ ในตำแหน่งหน้าขวา ขณะที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็ไม่ได้แย่ถึงขนาดลงตัวจริงไม่ได้
แต่เข้าใจว่า เอริค เทน ฮาก คงไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าจัดทีมเน้นๆ แบบนี้ ลูกทีมคงไม่ล้าเกินไป
โอเคย์...ว่ายังไงก็ว่าตามกัน
2.แม้จะชนะในเกมแรกถึง 3-0 ทว่าผู้เล่นพันธุ์อสูรก็ไม่ได้เล่นเหยาะแหยะอะไรนะครับ เพียงแต่ไม่จำเป็นต้องเร่งเครื่องหรือโหมกระหน่ำ รวมถึงระมัดระวัง ไม่ให้เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ
พวกเขาเล่นเป็นระบบ ไม่มีอะไรต้องตำหนิ เพราะรูปเกมเหนือกว่า ครองบอลบุกมากกว่า หาโอกาสทำลายตาข่ายได้มากกว่า
ขณะผู้มาเยือนที่ไม่มีอะไรจะเสียก็ไม่มีคุณภาพเพียงพอที่จะกดดันเจ้าถิ่น
3.ครึ่งแรกอาจจะดูเนือยๆ ไปนิด แต่ก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าเพราะอะไร
...ว่าแล้วผู้ชมทางบ้านที่มีอาการทางจิตเล็กน้อยอย่างผมก็แอบ 'คิดชั่ว' ด้วยลุ้นให้ ฟอเรสต์ ทำประตูนำก่อน เผื่ออัตราความเมามันจะสูงขึ้นบ้างในยามวิกาล
เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีชีวิตชีวามากขึ้นทันตาเห็น เมื่อมาร์คัส แรชฟอร์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และเจดอน ซานโช่ ถูกส่งลงมาประมาณนาทีที่ 60
เหตุเพราะประสานงานกันได้ดีกว่า มิหนำยังเชื่อมต่อกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ดีกว่า 3 ประสานชุดแรกที่ประกอบด้วย เวาท์ เวกฮอร์สต์, อเลฮานโดร การ์นาโช่ และอันโตนี่
หลังจากนั้นไม่นานก็ทำประตูขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จเป็นตอกย้ำว่าเข้าไปชิงชนะเลิศอย่างแน่นอน
4.ที่น่าโมโหพอๆ กับหงุดหงิดตามง่ามนิ้วมือและง่ามนิ้วเท้าคือการเป่านกหวีดของผู้ตัดสินที่ปล่อยเกมมากเกินไปจนอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าจะมีผู้เล่นบาดเจ็บ
หลายจังหวะที่ผู้เล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ควรจะได้ฟาวล์ พี่แกกลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ซะอย่างนั้น แบบนี้เกมมันก็จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นะ
พลันก็เผลอสบถออกมาเป็นภาษามอนเตเนโกร 1 ที ตอนตี 3 กว่าๆ
'พ่องตาย...ไอ้ SUS'
5.แมนฯ ยูไนเต็ด กับ นิวคาสเซิ่ล เคยเจอกันในนัดชิงชนะเลิศบอลถ้วยครั้งล่าสุด คือ เอฟเอ คัพ 1999
ตอนโน้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดตัวสำรองลงไปจำนวนหนึ่งยังอุตส่าห์มีชัยแบบสบายๆ ด้วยสกอร์ 2-0 ก่อนคว้า' ทริปเปิ้ลแชมป์' ในอีกไม่กี่วันต่อมา
แต่คราวนี้คงไม่ง่ายแบบนั้น เพราะ 'สาลิกาดง' จากการทำงานของ เอ๊ดดี้ ฮาว เป็นทีมที่เหนียวแน่น แพ้ยาก แถมมีทีเด็ดในเกมรุก
ล่าสุดราคาตั๋วนัดชิงฯ ที่ เวมบลี่ย์ กระฉูดขึ้นเป็นใบละ 1,000 ปอนด์แล้วนะครับ ขอบอก เพราะแฟนบอลของทั้ง 2 ทีมต่างฝ่ายต่างโหยหาและหื่นกระหายด้วยกันทั้งคู่ และผมก็จะไปดูกับเขาด้วย
บอ.บู๋