เปา กูบาร์ซี่ ปราการหลังดาวรุ่งบาร์เซโลน่าเปิดใจเส้นทางค้าแข้งตั้งแต่จุดเริ่มต้น-ปัจจุบันพร้อมเอ่ยชื่อกองหลังที่ชื่นชอบ
ถาม : ให้เราเรียกคุณว่า อะไรดี เปา , กูบา หรือ กูบาร์ซี่ ?
กูบาร์ซี่ : เปา หรือ กูบาร์ซี่ ก็ได้ ในห้องแต่งตัวเพื่อนๆเรียกผม กูบา
ถาม : ห้องแต่งตัวเป็นไงบ้าง ?
กูบาร์ซี่ : ดีมาก, เป็นทีมที่ผสมผสานระหว่างดาวรุ่งกับนักเตะมากประสบการณ์ ความจริงก็คือเราทุกคนต่างช่วยเหลือกันและกัน ในนั้นเต็มไปด้วยพลังงานในเชิงบวก
ถาม : คุณรู้สึกถึงความแตกต่างจากพื้นฐานฟุตบอลที่คุณเริ่มต้น กับทีมในปัจจุบันนี้แค่ไหน ?
กูบาร์ซี่ : ไม่เลย, ความจริงก็คือทุกอย่างเหมือนกันมากๆ เพราะพวกเราส่วนใหญ่ก็มาจาก ลา มาเซีย เคยผ่านประสบการณ์แบบเดียวกัน เคยใช้ชีวิตในแบบเดียวกันกับผม ผมมีความสุขกับครอบครัวของเรา
ถาม : ลา มาเซีย ให้อะไรกับคุณบ้าง ?
กูบาร์ซี่ : ลา มาเซีย สอนปรัชญาบาร์ซ่าแก่เรา เหมือนที่ผมพูดเสมอ มันคือปรัชญาเฉพาะตัว การลงเล่นกับ เอสปันญ่อล การเจอกับ เรอัล มาดริด ในทัวร์นาเมนท์ต่างๆ และทีมใหญ่อื่นๆ สิ่งนี้มอบความมั่นใจให้กับคุณและวิธีการเล่นที่ถ่ายทอดลงไปในสนาม
ถาม : ถ้างั้นแล้วอะไรคือสิ่งที่ ลา มาเซีย ไม่ได้สอน แต่คุณมาเรียนรู้เพิ่มเติม เมื่อก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ ?
กูบาร์ซี่ : ไม่มี, ผมเรียนรู้ทุกอย่างที่ต้องเรียนรู้จากปรัชญาของ บาร์ซ่า ที่สอนคุณว่าการจะก้าวขึ้นไปอยู่บนจุดที่สูงนั้น คุณจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างที่มี ด้วยแรงปรารถนาทั้งหมด และพยายามทำสิ่งนั้นด้วยความกระหายให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้
ถาม : งั้น ในแง่ที่ว่าปรัชญาเดียวกัน แต่เมื่อถึงจุดนึง กลุ่มนึงขึ้นมาได้อย่างพวกคุณ ลามีน,บัลเด้,กาซาโด้,กาบี,เฟร์มิน แล้วก็คุณ แต่ก็มีอีกกลุ่มนึงที่ไม่สามารถก้าวขึ้นมาได้
กูบาร์ซี่ : ใช่, มันคือโลกของฟุตบอล มีคนไม่มากที่ทำสำเร็จเสมอ แต่ใน ลา มาเซีย มีนักเตะหลายต่อหลายคนที่ก้าวขึ้นมาได้ เพราะพวกเราโชคดีที่ บาร์ซ่า มีความเชื่อมั่นในกลุ่มนักเตะเยาวชน ตรงนี้ถือเป็นจุดที่เราโชคดี แต่ว่าคาแรกเตอร์ที่คุณต้องการถ่ายทอดและแรงปรารถนาที่คุณมี ก็เป็นส่วนสำคัญที่พาคุณมาถึงจุดนี้เช่นกัน
ถาม : คุณมาถึงเร็วมาก (ขึ้นชุดใหญ่) ด้วยอายุเพียง 17 ปี คุณยังจดจำช่วงเวลานั้นได้มั๊ย ?
กูบาร์ซี่ : ตอนที่พวกเขาบอกว่าผมจะได้ประเดิมเกมแรกกับ อูนิโอนิสต้าส ความจริงก็คือผมไม่อยากจะเชื่อเลย ผมนั่งอยู่ในช่วงพักครึ่ง และสต๊าฟบอกให้ออกไปวอร์มอัพ ตอนนั้นผมไม่คิดว่าจะได้ลงเล่น และเมื่อ ชาบี เรียกผมมาบอกแผนการเล่น ผมไม่ได้รู้สึกประหม่ามากนัก ในความเป็นจริงคือผมมีความสุขมากๆ ทว่าในใจตอนนั้นคุณต้องพยายามบอกตัวเองว่าต้องทำให้ดี เพราะมันมีแรงกดดันเล็กน้อยอยู่
ถาม : เมื่อมองย้อนกลับไปซึ่งมันไม่ได้นานนักหรอก แค่ปีเศษๆ คุณเห็นอะไร ?
กูบาร์ซี่ : ผมมีความทรงจำมากมาย เต็มไปด้วยความสุขที่ได้เริ่มต้นปีด้วยการประเดิมลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ บาร์ซ่า ซึ่งมันคือฝันที่เป็นจริง หลังจากนั้นผมก็ได้ลงเล่นมาเรื่อยๆ เก็บเกี่ยวชั่วโมงบินมาเรื่อยๆ , กับ ชาบี ที่มอบโอกาสให้ ผมรู้สึกขอบคุณเขาอย่างมาก และจากนั้นในช่วงหน้าร้อนผมก็ได้เหรียญทองโอลิมปิก ซึ่งเป็นอะไรที่สุดยอดและน่าประทับใจมาก ผมมีความสุขจริงๆ
ถาม : พูดกันเสมอมาว่าพวกเซนเตอร์ฯจะต้องโหด สร้างความหวาดกลัวให้คู่แข่ง แต่ดูแล้วคุณไม่ใช่แบบนั้นเลย ?
กูบาร์ซี่ : (หัวเราะ) เวลาเปลี่ยน สิ่งต่างๆก็เปลี่ยน แต่ละเจนฯก็มีความแตกต่างกันออกไป เซนเตอร์ฯยุคไม่ได้เป็นพวกสายโหดแบบแต่ก่อนที่จะไว้ผมยาว เข้าอัดหนักๆอีกแล้ว พวกนั้นกลายเป็นรุ่นคลาสสิคไปแล้ว มันมีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ และเวลานี้กองหลังอย่างเราก็แตกต่างออกไป
ถาม : คุณดูกองหลังคนไหนเป็นแบบอย่างบ้าง ?
กูบาร์ซี่ : ผมชอบดู พรีเมียร์ และผมชอบดูการเล่นของ ฟาน ไดค์ มาก
ถาม : อะไรที่ ฟาน ไดค์ มี และคุณไม่มี ?
กูบาร์ซี่ : พละกำลังและร่างกายที่สูงใหญ่แข็งแรง , เขาเป็นกองหลังที่ดวลตัวต่อตัวได้ดี มีความเป็นผู้นำ ความจริงก็คือผมเฝ้าดูการเล่นของเขาบ่อยมาก
ถาม : จุดไหนคือจุดที่คุณพัฒนาขึ้นเมื่อขึ้นสู่ชุดใหญ่ ?
กูบาร์ซี่ : ตั้งแต่ขึ้นชุดใหญ่ สิ่งที่ผมพัฒนาขึ้นคือการออกบอลจากแนวรับ เพราะเราต้องออกบอลจากข้างหลังอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการเป็นผู้นำ เหนืออื่นใดคือการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม
ถาม : คุณคุยกับเพื่อนร่วมทีม แต่ที่คุณคุยกับ อินญิโก้ นั้น เป็นอะไรที่ไม่เรื่องปกติ
กูบาร์ซี่ : มีนคือเคมีที่เกิดขึ้นระหว่างการฝึกซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม ซึ่งมันจะทำให้คุณตระหนักว่าเพื่อนข้างๆคุณต้องการสิ่งที่ดีที่สุดจากคุณเสมอ รวมถึงคุณก็ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดจากเพื่อนด้วยเช่นกัน ความจริงก็คือ กับ 'อินญิ' นั้นเราจับคู่กันได้ดี แต่กับ เอริก และกับ โรนัลด์ ก็เช่นกัน พวกเขากำลังมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม ผมรู้สึกดีเวลาอยู่ในสนามกับพวกเขา
- เจมส์ ลาลีกา-
แปล&เรียบเรียง