แอตเลติโก ล้ม บาร์ซ่า 1-2 ถึงถิ่น แซงขึ้นจ่าฝูงหนแรกถือเป็นแรงเหวี่ยงสำคัญของการลุ้นแชมป์ก่อนเบรกคริสมาสต์
ในรูปเกมที่ บาร์ซ่า เริ่มต้นได้ดีกว่า สร้างโอกาสได้มากกว่า และขึ้นนำไปก่อน สิ่งที่ทำให้เกมพลิกก็คือ บาร์ซ่า ฆ่า หมี ไม่ตาย
คาแรกเตอร์ของ แอตเลติโก เป็นเช่นนี้เสมอมา แต่ฤดูกาลนี้สัญญาณกลับมาแรงกว่าเดิม
บาร์ซ่า ไม่ใช่ว่าเล่นไม่ดี แต่จากสายตาผมเห็นว่ามีความเปราะบางในเเนวรับมากกว่าช่วงต้นฤดูกาล ยิ่งในจังหวะจังหวะทรานซิสชั่น จะเห็นช่องว่างมากมาย
เกมรับฟอร์มตก เกมรับที่ไม่ใช่แค่ผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง แต่หมายถึงการเล่นเกมรับของทีม
ส่วนเกมรุกเห็นว่าลดความร้อนแรงลงจริงๆ แต่ไม่ได้แย่ถึงขั้นวิกฤต
ผมมองว่า ลามีน ยามาล สำคัญ แต่ไม่ได้สำคัญขนาดที่ บาร์ซ่า จะเอาชนะใครในเกมใหญ่ไม่ได้ ถ้าไม่มีเขา ทีมยังมีตัวเลือกให้ใช้งาน
อย่าลืมว่านี่คือ แอตเลติโก ที่กำลังร้อนแรง ดุดัน สู้ไม่ถอย และมั่นใจสุดๆ
33 ประตูที่ทีมของ โชโล่ ยิงได้ มีถึง 14 ประตูที่ได้มาในช่วงหลังนาทีที่ 75 บ่งบอกให้เห็นถึง ความเขี้ยว ความนิ่ง พละกำลัง และสภาพจิตใจอันแข็งแกร่ง
นับแต่รับงานคุม แอตเลติโก มาตั้งแต่ธันวาคมปี 2011 โชโล่ ยังไม่คยพาทีมมาชนะ บาร์ซ่า ถึงถิ่นได้เลยสักครั้ง
12 ครั้งในลีกที่ผ่านมา เต็มที่ก็แค่เสมอ แม้กระทั่งในเกมที่นำ โชโล่ เถลิงแชมป์ลา ลีกา ครั้งแรกด้วยผู้เล่นชุดที่ว่าดีที่สุดในปี 2014 ก็ยังได้แค่เสมอ (1-1)
มาหนนี้ โชโล่ ทำสำร็จแล้ว ควรถูกมองว่าเป็นรางวัลแห่งความพยายามของเขาและทีมมากกว่าแค่ความล้มเหลว หรือความผิดพลาดของ บาร์ซ่า
แต่ถ้าพูดถึงการลุ้นแชมป์ แน่นอนว่า บาร์ซ่า เสียเปรียบแล้ว ยิ่งหากคู่แข่งเก็บ 3 แต้มจากเกมที่เหลือได้ทั้งหมด ก็ยิ่งเสียเปรียบ
นาทีนี้ทีมของ ฟลิค ไม่ใช่เต็งหนึ่งแล้ว แต่สำหรับผม แอตเลติโก ก็ยังเป็นแค่เต็งสอง
เต็งหนึ่งผมยกให้ เรอัล มาดริด ครับ
เปรียบเป็นการวิ่งมาราธอน ไม่ว่าจะยังไง มาดริด ไม่เคยหลุดจากกลุ่มนำ เมื่อบวกกับศักยภาพของตัวรุกที่มี เมื่อไหร่ที่คลิ๊กกันลงตัว...ยิ่งน่ากลัวเป็นสองเท่า
มีคนพูดว่าฟุตบอลลีกนำนานเท่าไหร่ ไม่สำคัญ สำคัญที่สุดคือ นำตอนไหน ? นั่นแหละที่จะชี้วัดครับ
#เจมส์ลาลีกา