ก่อนมาถึง เอ็มบัปเป้ ! ย้อนดู 4 แข้งเด่นซบ เรอัล มาดริด แบบฟรีๆ

เรียกได้ว่านี่เป็นการรอคอยที่คุ้มค่าอย่างมากของ เรอัล มาดริด เพราะพวกเขาได้นักเตะระดับ เอ็มบัปเป้ มาร่วมทัพแบบไม่ต้องจ่ายเงินค่าตัวแม้แต่แดงเดียว หลังจาก เอ็มบัปเป้ หมดสัญญากับ ปารีสฯ พอดี ซึ่งถึงแม้ มาดริด จะขึ้นชื่อเรื่องเป็นทีมที่พร้อมทุ่มเงินค่าตัวแบบมหาศาล แต่ก็มีบางครั้งที่พวกเขาทำการเสริมทัพแบบฟรีๆ ด้วย และวันนี้เราจะมาย้อนดูดีลแบบฟรีๆ ที่เด่นๆ 4 ดีลของพวกเขากัน

- อันโตนิโอ รือดิเกอร์ (2022 จาก เชลซี)

หลายคนน่าจะยังจำดีลของ รือดิเกอร์ กันได้ดี เพราะมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2022 ซึ่งก่อนหน้านั้น รือดิเกอร์ ก็กำลังทำผลงานได้โดดเด่นกับ เชลซี ซะด้วย หลังจากลงเล่นให้ "สิงห์บลูส์" ไปถึง 54 นัดในทุกรายการของซีซั่น 2021-22 โดยเขาได้แชมป์ 5 รายการตลอดช่วง 5 ซีซั่นที่เล่นในกรุงลอนดอน

หลังย้ายมาอยู่กับ มาดริด แล้วนั้น รือดิเกอร์ ก็กลายเป็นแกนหลักให้กับ มาดริด ได้อย่างรวดเร็ว โดยในซีซั่น 2022-23 เขาได้ลงเล่นไป 53 นัดในทุกรายการ ส่วนซีซั่นล่าสุดก็ลงสนามไปอีก 48 เกม และเขาก็มีแชมป์ติดมือกับทีมทั้ง 2 ซีซั่นด้วย

- ดาวิด อลาบา (2021 จาก บาเยิร์น)

อีกหนึ่งดีลที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เพราะการย้ายทีมเกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์ ปี 2021 ซึ่งที่จริงก่อนหน้านั้น บาเยิร์น มิวนิค พยายามยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้ดาวเตะชาวออสเตรียพิจารณาหลายครั้งเพื่อหวังที่จะให้เขาต่อสัญญากับทีม แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะหันหลังให้ บาเยิร์น พร้อมกับซบ มาดริด

ทั้งนี้ ใน 2 ฤดูกาลแรกของเขากับทีมนั้น อลาบา ลงเล่นไป 46 นัดในทุกรายการ กับ 39 นัด ตามลำดับ ขณะที่ฤดูกาล 2023-24 เขามาได้รับบาดเจ็บตรงเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาจนทำให้ต้องพักยาว แต่ถึงอย่างงั้นส่วนใหญ่ก็มองว่าจนถึงตอนนี้นี่เป็นดีลที่ประสบความสำเร็จพอตัวของทีมดังแห่งถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

- สตีฟ แม็คมานามาน (1999 จาก ลิเวอร์พูล)

หลังจากเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล อย่างยาวนาน มาตั้งแต่ปี 1990 แม็คมานามาน ก็ตัดสินใจที่จะหันหลังให้กับ "หงส์แดง" แล้วไปซบ เรอัล มาดริด โดยการเซ็นสัญญาล่วงหน้าเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม ปี 1999 หลังจากตอนนั้นเขาใกล้ที่จะหมดสัญญากับ ลิเวอร์พูล แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธที่จะใส่เสื้อของ มาดริด ในตอนนั้น เพราะต้องการให้เกียรติแฟนบอล ลิเวอร์พูล

แน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวทำให้ "เดอะ ค็อป" ส่วนหนึ่งเสียใจมากๆ ขณะที่หลายคนมองว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ แม็คมานามาน เพราะช่วงนั้น มาดริด กำลังเจอกับวิกฤตเรื่องหนี้ รวมถึงถูกตำหนิว่ามีการบริหารที่ย่ำแย่

อย่างไรก็ตาม แม็คมานามาน ก็แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทอย่างมาก เขาพยายามอย่างหนักที่จะเรียนภาษาสเปนให้ได้, พยายามซึมซับวัฒนธรรมของกรุงมาดริดและสโมสร ไปจนถึงปรับเกมการเล่นของตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะเล่นได้ในหลายตำแหน่ง

ความมุมานะเหล่านั้นทำให้เขาเอาชนะใจแฟนบอล มาดริด หลายคนได้ แถมเขายังทำประตูให้ทีมชนะ บาเลนเซีย ในนัดชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 1999-00 ได้ด้วย จนทำให้เขากลายเป็นนักเตะชาวอังกฤษคนแรกที่ได้ชูถ้วยบิ๊กเอียร์กับสโมสรนอกเกาะอังกฤษ โดยเขายังได้แชมป์รายการอื่นๆ ร่วมกับ มาดริด เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2001-02, แชมป์ ลา ลีกา ซีซั่น 2000-01 กับ 2002-03, แชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า (สแปนิช ซูเปอร์คัพ) ปี 2001 และแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ในปี 2002

- แบร์นด์ ชูสเตอร์ (1988 จาก บาร์เซโลน่า)

แค่การย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ก็ถือเป็นการกระทำที่จะทำให้นักเตะคนนั้นๆ เป็นที่เกลียดชังของสาวก "อาซูลกราน่า" อย่างมากแล้ว เพราะทั้ง 2 ทีมนี้คือคู่อริตลอดกาลที่เหม็นขี้หน้ากันสุดๆ แต่ ชูสเตอร์ ทำสิ่งที่เหนือกว่านั้น เพราะเขาเก็บข้าวของจาก คัมป์ นู สู่เมืองหลวงแบบไร้ค่าตัวเลย หลังจากอยู่กับ บาร์เซโลน่า มาเป็นเวลา 8 ซีซั่น

ก่อนหน้าที่จะซบ มาดริด อดีตแข้งชาวเยอรมันถือเป็นฟันเฟืองสำคัญคนหนึ่งของ บาร์เซโลน่า จนได้แชมป์หลายรายการร่วมกับทีม ประกอบด้วยแชมป์ ลา ลีกา ฤดูกาล 1984-85, คัพ วินเนอร์ส คัพ ในซีซั่น 1981-82, โกปา เดล เรย์ ในฤดูกาล 1980-81, 1982-83, 1987-88 และแชมป์ โกปา เด ลา ลีกา 1983 ขณะที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็เคยอกเองว่าสมัยยังเป็นเด็กเก็บบอลให้ บาร์เซโลน่า เขามักจะดูเกมการเล่นของ ชูสเตอร์ อยู่บ่อยๆ เพราะชอบสไตล์การเล่นของ ชูสเตอร์ อย่างมาก

ชูสเตอร์ ได้โอกาสเล่นให้ เรอัล มาดริด 2 ฤดูกาล ก่อนที่จะย้ายข้ามฟากไปเล่นให้ แอตเลติโก มาดริด แต่ช่วง 2 ซีซั่นที่เขาอยู่กับ "ราชันชุดขาว" มันก็ถือว่าประสบความสำเร็จพอตว เพราะเขาได้ทั้งแชมป์ ลา ลีกา ทั้ง 2 ซีซั่น, แชมป์ โกปา เดล เรย์ ในฤดูกาล 1988-89 และแชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ในปี 1989

- เด็กเกร็ดบอล -