โชคดีนะเพื่อน ! 10 เรื่องน่ารู้ของ เอแด็น อาซาร์

แข้งชาวเบลเยียม เริ่มต้นค้าแข้งกับ ลีลล์ ก่อนไปอยู่กับ เชลซี ปี 2012 โดยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมใน พรีเมียร์ลีก จากนั้นมาเล่นให้ เรอัล มาดริด เมื่อปี 2019 ด้วยค่าตัว 100 ล้านยูโร (ประมาณ 3,800 ล้านบาท) 

อย่างไรก็ตามอาชีพของเขาในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว แทบไม่มีความทรงจำให้กับสาวก "ราชันชุดขาว" เนื่องจากนักเตะใช้เวลาอยู่บนเตียงผู้ป่วยมากกว่าการลงสนาม นั่นทำให้ อาซาร์ ต้องยกเลิกสัญญากับ "โลส บลังโกส" เมื่อจบซีซั่นที่ผ่านมา พร้อมกับสถิติช่วยทีมแค่ 54 นัดเท่านั้นตลอด 4 ปีที่ผ่านมา

เพื่อเป็นการยกย่องความยอดเยี่ยมของ อาซาร์ งานนี้ก็เลยอยากนำเสนอ 10 เรื่องที่แฟนบอลอาจไม่รู้ (หรือรู้แล้ว) เกี่ยวกับ สตาร์ทีมชาติเบลเยียม ซึ่งแต่ละข้อน่าสนใจเลยทีเดียว 

1. คุณแม่เป็นนักฟุตบอล

ครอบครัวของอาซาร์ เป็นครอบครัวลูกหนังอย่างแท้จริง นอกจากพ่อน้องของ เอแด็น ที่โลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอลแล้ว ทั้งคุณพ่อคุณแม่ของเขาก็อยู่ในวงการนี้เช่นกัน โดยป๋าเธียร์รี่เป็นนักเตะระดับกึ่งอาชีพ ส่วนมาม๊าคารีนเป็น "ดาวยิง" แห่งลีกบอลอาชีพหญิงเบลเยียม

2. สาวกเอ็นบีเอ, ชอบนิวยอร์ก นิกส์

อาซาร์ ถือเป็นแฟนตัวยงวงการยัดห่วงเอ็นบีเอ โดยเขาชื่นชอบนิวยอร์ก นิกส์ มาก และถึงขาดกดฟอลโลว์แพลตฟอร์มทุกชนิดของทีมนี้ นอกจากนี้ยังพยายามที่จะเดินทางไปที่เมดิสัน สแควร์ การ์เดน เพื่อเข้าชมเกมของทีมรักอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี เขามี คริสแทพส์ พอร์ซินกิส อดีตสตาร์นิวยอร์ก นิกส์ เป็นไอดอล แม้ปัจจุบันเจ้าตัวจะเล่นให้กับ บอสตัน เซลติกส์ ก็ตาม 

3. โดนใบแดงแรกจากการเตะเด็กเก็บบอล

ต้องบอกเลยว่านี่คือหนึ่งในช่วงเวลาสุดแปลกประหลาดในอาชีพของ อาซาร์  โดยใบแดงแรกของเขามาจากการกระทำที่ขาดสติเมื่อถูก ชาร์ลี มอร์แกน เด็กเก็บบอล สวอนซี ซิตี้ พยายามถ่วงเวลาจนถูกเขาเตะเข้าชายโครงในเกมลีก คัพ ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวเล่นให้กับ เชลซี 

4. เดบิวต์ทีมชาติในวัย 17 ปี

ทีมชาติเบลเยียมมีการเปลี่ยนโฉมอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดย อาซาร์ ได้ลงเล่นเปิดตัวใหักับทัพ "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ในวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น เขาเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดคนที่ 8 ที่ได้ลงสนามให้กับ เบลเยียม แม้ช่วงเวลานั้น สหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส (แอฟแอฟแอฟ) จะพยายามโน้มน้าวให้เจ้าตัวเลือกสวมชุด "ตราไก่" ก็ตามแต่สุดท้ายไม่สำเร็จ 

5. แฟนพันธุ์แท้ ซีดาน

ตอนที่ย้ายมาเล่นกับ เรอัล มาดริด นักเตะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับ ซีเนดีน ซีดาน ไอดอลของเขา เจ้าตัวหลงใหลได้ปลื้ม "ซิซู" อย่างมากตั้งแต่สมัยเยาว์วัย และนี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาอยากจะเล่นให้กับ "ราชันชุดขาว" โดยในช่วงระหว่างศึกฟุตบอลโลก 1998 อาซาร์ในวัยขบเผาะเคยใส่เสื้อทัพ "เลส เบลอส์" ที่ปักชื่อ ซีดาน เอาไว้ด้านหลัง และยังร่วมเฮจนคอหอยแทบแตกตอนที่พวกเขาคว้าแชมป์โลก ในกรุงปารีส 

6. ทิ้งทีมชาติเพื่อไปกินเบอร์เกอร์

ย้อนกลับไปในปี 2011 อาซาร์ ได้รับโอกาสลงช่วยทีมชาติเบลเยียมในเกมคัดยูโร 2012 เกมปะทะ ตุรกี อย่างไรก็ตามนักเตะตัโดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก ทำเอาเขาระเบิดอารมณ์ไม่พอใจใส่โค้ชและเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที ที่เด็ดยิ่งกว่านั้นก็คือ อาซาร์ ตัดสินใจออกจากสนามแข่งทั้งที่เกมยังไม่จบ ก่อนถูกถ่ายภาพได้ขณะนั่งกินเบอร์เกอร์กับครอบครัวในร้านฟาสต์ฟู้ด

7. พี่น้องลูกหนัง

นอกจากมีคุณพ่อคุณแม่เล่นฟุตบอลแล้ว พี่น้องของอาซาร์ก็มีพรสวรรค์ในเชิงลูกหนังเช่นกัน ธอร์แกน อาซาร์ ปัจจุบันค้าแข้งกับ อันเดอร์เลชท์ ตามด้วย คีลิยัน อาซาร์ โลดแล่นกับ อาร์ดับเบิ้ลยูดี โมเลนบีค และ อีธาน อาซาร์ เล่นกับ อาร์ ยูเนียน ทูบิซ-เบรน รุ่นยู-21 อย่างไรก็ตามพี่น้องทั้งหมดไม่มีใครที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพลูกหนังมากกว่าเขาอีกแล้ว 

8. สถิติสุดทึ่งกับ เชลซี 

แม้ว่าสาวก "ราชันชุดขาว" จะไม่ได้รู้สึกอยากจดจำชื่อของ อาซาร์ เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรที่ทำให้แฟนบอลต้องจดจำ แต่สำหรับสาวกเชลซี นี่คือหนึ่งในนักเตะตำนานของทีมอย่างแท้จริง โดยช่วงเวลาที่อยู่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เจ้าตัวตะบันไปถึง 110 ประตู กับ 92 แอสซิสต์ จากการเล่น 352 แมตช์ พร้อมทั้งช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ (คาราบาว คัพ) 1 สมัย และยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2 สมัย 

9. ชื่นชอบเบอร์ 10 มากๆ

ตลอดอาชีพนักเตะ อาซาร์ มักจะใส่เสื้อหมายเลข 10 มาตลอด แต่เขาจำเป็นต้องหาเบอร์ใหม่ตอนที่ย้ายมาเล่นกับ เรอัล มาดริด เนื่องจาก ลูก้า โมดริช จับจองสัมปทานหมายเลขนี้เอาไว้แล้ว ฉะนั้นเมื่อเขาย้ายไปร่วมทีมจึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่ สตาร์จอมเก๋าชาวโครเอเชีย จะสละเบอร์นี้ให้ สุดท้ายเจ้าตัวก็ต้องทำใจ และเลือกใส่หมายเลข 7 แทน 

10. ซีดาน, การ์เซีย, แลมพาร์ด เชื่อมั่นในศักยภาพ

โค้ชคนแรกที่ให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพของ อาซาร์ ก็คือ รูดี้ การ์เซีย สมัยที่กุมบังเหียน ลีลล์ โดยเขาได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของทีมจนมีอนาคตสดใส ขณะที่ ซีดาน ชื่นชอบเขาอย่างมาก และเรียกร้องให้ เรอัล เซ็นสัญญากับ สตาร์ชาวเบลเยียม ตอนที่ย้ายมาเล่นใน อังกฤษ ช่วงท้ายอาชีพนักเตะของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด โดย "แลมพ์ส" พยายามปกป้องดูแลนักเตะเป็นอย่างดี และบอกว่าเขาจะโด่งดังเป็นพลุแตกในโลกลูกหนัง ซึ่งก็เป็นความจริง 

ทอมเม้ง