ลิโอเนล เมสซี่ สร้างความช็อคเมื่อปี 2021 ด้วยการย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า ทั้งๆที่เชื่อก้นว่าเขาจะปิดฉากอาชีพพ่อค้าแข้งกับถิ่น คัมป์นู
หลังลงบู๊ให้ บาร์ซ่า 778 นัด และยิงได้ 672 ประตูพร้อมทั้งได้แชมป์ ลา ลีกา สิบครั้ง , โกปา เดล เรย์ เจ็ดครั้ง และ แชมเปี้ยนส์ลีก สี่ครั้ง ดาวเตะร่างเล็กก็เก็บเสื้อผ้าอำลาทีมที่เขาใช้ชีวิตมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นขุนพลใน ลา มาเซีย
กระทั่งไม่กี่วันก่อน ดาวเตะ อาร์เจนไตน์ วัย 35 ปีหวนกลับมาตกเป็นข่าวกับต้นสังกัดเก่าใน ลา ลีกา อีกครั้งเนื่องจากเชื่อกันว่า ชาบี หวังกระชากเขากลับสู่สโมสรทันทีที่สตาร์เลือดฟ้าขาวหมดสัญญากับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
อย่างไรก็ดี ก่อนจะถึงวันนั้น ล่าสุดสดๆร้อนๆ เอล มุนโด้ สื่อเมืองกระทิงประโคมข่าวใหญ่โดยระบุว่าได้รับเอกสารหลุดที่หลุดออกมาซึ่งเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่าทำไม บาร์เซโลน่า กับ เมสซี่ ตกลงต่อสัญญากันไม่ได้ในปี 2020 (เจรจากันวันที่ 11 มิ.ย.) จนทำให้ดาวยิงชื่อดังย้ายออกไปค้าแข้งกับทีมเงินถังของ ลีกเอิง ในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 หลังจากรับใช้สโมสรแห่งกาตาลันมานาน 21 ปี
สื่อเจ้าดังกล่าวอ้างว่าดังกล่าวเอกสารบ่งชี้ว่า ฮอร์เก้ เมสซี่ คุณพ่อของสตาร์ดัง และฝ่ายกฏหมายของเขาร่างข้อเสนอ 9 ข้อยื่นให้ บาร์ซ่า พิจารณาเพื่อต่อสัญญาใหม่ แต่มีอยู่ 2 ข้อที่ โจเซฟ มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรในช่วงนั้นไม่โอเคด้วย จนเป็นเหตุให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้
สำหรับ 9 ข้อเรียกร้องของ เมสซี่ ตามที่สื่อสแปนิชกล่าวอ้างมีดังนี้
1.ต้องการสัญญาใหม่สามปี
สำหรับนักเตะอายุเกินกว่า 30 ปี ต้องบอกว่ามันเป็นข้อเรียกร้องที่มากเกินไปเนื่องจากสโมสรส่วนใหญ่พร้อมต่อสัญญาใหม่ให้กับนักเตะในวัยเกินเลขสามแบบปีต่อปีเท่านั้น และยิ่งในช่วงนั้น เมสซี่ มีอายุ 33 ปีแล้ว แต่ บาร์โตเมว ก็ตอบตกลงโดยยินดีขยายสัญญาให้กับเขาไปจนถึงปี 2026
2.ขอห้องดูบอลส่วนตัวบนอัฒจันทร์ให้กับครอบครัวของตัวเอง และครอบครัวของ หลุยส์ ซัวเรซ
เมสซี่ กับ ซัวเรซ เป็นเพื่อนสนิทที่ซี้ย่ำปึ๊กกันชนิดไปไหนไปกัน และลงทุนทำธุรกิจร่วมกันนับตั้งแต่ดาวยิง อุรุกวัย ย้ายมาค้าแข้งกับถิ่น คัมป์นู เมื่อปี 2014 ซึ่งแม้ว่าหัวหอกฟันจอบจะย้ายทีมไปแล้วในปี 2020 แต่ เมสซี่ ต้องการให้ทั้งครอบครัวของเขา และครอบครัวของ ซัวเรซ สามารถเข้ามาดูเกมของ บาร์ซ่า ได้ตลอดเวลา
3.ขอค่าลงน้ำหมึกต่อสัญญาใหม่ 10 ล้านยูโร
เป็นข้อแรกที่ บาร์ซ่า ตอบปฏิเสธหลัง เมสซี่ ต้องการรับเงินเข้ากระเป๋าเหนาะๆ 10 ล้านยูโร (ต้องจ่ายวันที่ 30 มิ.ย.2023) เนื่องจากสโมสรประสบกับปัญหาทางด้านการเงินจึงไม่อาจตอบสนองสตาร์ดัง อาร์เจนไตน์ ได้อย่างที่เขาคิดว่าตัวเองสมควรได้รับ และอันที่จริง มีเพียง คิลิยัน เอ็มบัปเป้ รายเดียวเท่านั้นที่ได้เงินกินเปล่าจาก เปแอสเช มากขนาดนี้หลังยอมต่อสัญญาใหม่กับต้นสังกัดโดยล้มแผนย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด แบบฟรีๆ
4.ลดค่าฉีกสัญญาลงอย่างมหาศาล
เป็นอีกข้อที่ บาร์ซ่า ยอมรับไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงเพราะแม้ เมสซี่ จะยินดีรับใช้สโมสรต่อไป แต่เขาต้องการความยืดหยุ่นของสัญญาที่จะเป็นหลักประกันว่าสามารถย้ายทีมออกไปเมื่อไหร่ก็ได้จึงขอลดค่าฉีกสัญญาจาก 700 ล้านยูโรซึ่งเป็นตัวเลขที่เกินจริงตามธรรมเนียมของลีกกระทิงดุลงเหลือแค่ 10,000 ยูโรเท่านั้น
5.ขอค่าแรงที่ถูกหักไปคืนพร้อมดอกเบี้ย
ในช่วงที่ โควิด-19 ระบาดอย่างหนักในปี 2020 นักเตะทีม บาร์ซ่า ถูกหักค่าแรงลงไปเช่นเดียวกับหลายสโมสรซึ่งสูญเสียรายได้ก้อนโต และทั้ง เมสซี่ กับ เฟรงกี้ เดอ ยอง ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนี้โดยพ่อค้าแข้งละตินซึ่งโดนหักไป 20% ยืนยันว่าต้องการได้เงินคืนแบบเต็มจำนวนแบ่งเป็นซีซั่น 2021/22 10% และซีซั่น 2022/23 อีก 10% พร้อมดอกเบี้ยปีละ 3% หากสโมสรต้องการให้เขาต่อสัญญา
6.ขอเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวในช่วงคริสต์มาส
แม้จะร่ำรวยถึงขนาดมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวอยู่ในความครอบครองก่อนแล้วเช่นเดียวกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่กองหน้า อาร์เจนไตน์ ร้องขอเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวจากสโมสรเพื่อพาเขาและครอบครัวบินกลับไปฉลองเทศกาลคริสต์มาสในบ้านเกิด
7. ค่าแรง และภาษี
เมสซี่ ต้องการได้ค่าแรงเท่าเดิม แต่หากรัฐบาล สเปน เลือกที่จะเก็บภาษีเพิ่ม บาร์ซ่า ต้องเพิ่มค่าแรงให้เขาเพื่อที่เจ้าตัวจะได้รับทรัพย์เท่าเดิมหลังจ่ายภาษีแล้ว
8.ผู้ช่วยส่วนตัว
เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ เจ็ดสมัยมี เปเป้ คอสต้า ทำหน้าที่ผู้ช่วยส่วนตัวโดย บาร์เซโลน่า รับผิดชอบจ่ายค่าแรงให้ และแม้อนาคตของ คอสต้า จะเริ่มมีปัญหาหลังเกิดการแพร่ระบาดของ โควิด-19 แต่ เมสซี่ ยังต้องการให้เขาได้ทำหน้าที่เดิมต่อไป
9.พี่ชายต้องได้เงินส่วนแบ่งของทุกๆสัญญา
เมสซี่ เรียกร้องให้พี่ชาย โรดรีโก้ ซึ่งเป็นตัวแทนของ อันซู ฟาติ ดาวรุ่งของสโมสรในเวลานั้นได้ส่วนแบ่งด้วยจากทุกๆสัญญาที่เขาลงลายเซ็น และ บาร์ซ่า ตอบตกลงด้วยเข้าใจดีว่ามันอาจส่งผลกระทบต่อการพยายามต่อสัญญากับสตาร์วัยละอ่อน
นี่แหละ 9 เงื่อนไขที่ เมสซี่ ต้องการได้รับจาก บาร์ซ่า เพื่อต่อสัญญาใหม่ แต่หลังจากไม่เป็นผล ทั้งสองฝ่ายก็จำใจแยกทางกัน ขณะที่ บาร์ซ่า ประกาศว่ากำลังศึกษาข้อกฏหมายเพื่อดำเนินคดีกับ เอล มุนโด้ โทษฐานนำข้อมูลลับออกมาเผยแพร่