"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด คืนฟอร์มเก่งหลังพ่ายจากเกมก่อน เมื่อกลับมาเปิดเบร์นาเบว ไล่ถลุง อัลเมเรีย ไปแบบสนุก 4-2 คาริม เบนเซม่า เหมาคนเดียวสามเม็ด เพิ่มสถิติซัดไปแล้ว 17 ประตูในลีกจี้ดาวซัลโว "เลวาน" แค่ตุงเดียว ซิวสามแต้มมีเพิ่มเป็น 68 คะแนน ลดช่องว่างตามจ่าฝูง บาร์ซ่า ที่มีคิวแข่งในคู่ดึก เหลือ 8 คะแนน
ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน เมื่อวันเสาร์ที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าบ้าน เรอัล มาดริด เปิด รองจ่าฝูง ซานติอาโก้ เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ อัลเมเรีย ทีมอันดับ 15
คาร์โล อันเชลอตติ พาทีมบุกไปพ่าย คิโรน่า 2-4 ทำให้สถานการณ์ล่าสุดตามหลังจ่าฝูง บาร์เซโลน่า 11 แต้ม เกมนี้จัดหน้าสามส่ง โรดรีโก้ โกเอส, วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซม่า หายเจ็บกลับมาล่าตาข่าย
ส่วนทางฝั่ง "รูบี้" นายใหญ่ของ อัลเมเรีย เกมล่าสุดบุกไปเอาชนะ เคตาเฟ่ 2-1 ทำให้มี 33 คะแนนหนีโซนตกชั้น 2 คะแนนซึ่งนับว่ายังไม่ปลอดภัย เกมรุกวันนี้ฝากความหวังไว้ที่ ลาซาโร่ ดาวยิงชาวบราซิล โดยมี ลาร์จี้ รามาซานี่ อดีตเด็กปั้น แมนฯ ยูไนเต็ด โจมตีทางริมเส้น
เปิดฉากครึ่งแรกมาได้แค่ 5 นาที เจ้าบ้าน เรอัล มาดริด ชิงขึ้นนำก่อนอย่ารวดเร็ว 1-0 จากความยอดเยี่ยมของ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ลากจี้หลบแนวรับ อัลเมเรีย ก่อนดีดเข้ากรอบ 6 หลาให้ คาริม เบนเซม่า ชาร์จจ่อๆ เข้าไปไม่เหลือเป็นประตูที่ 15 ในลาลีกา ฤดูกาลนี้
อีกสามนาทีถัดมาด ราชันชุดขาว เกือบได้เม็ดที่สองนำห่าง หลัง มิลิเตา ตัดบอลได้กลางสนามก่อนไหลขึ้นหน้าให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ดีดขึ้นหลังให้ เบนเซม่า วิงมาซัดเต็มแรงแต่ไปตรงตัว เฟร์นานโด มาร์ตีเนซ นายด่านอัลเมเรียรับเข้าซองไว้
เกมรุกของเจ้าบ้านยังโหมกดดันอย่างต่อเนื่อง และนาที 17 มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ โรดรี้โก้ ได้บอลตรงกลางแล้วเล่นกับ ลูกัส บาสเกซ ก่อนที่ปีกบราซิเลี่ยนจะวิ่งไปรับจนถึงเส้นหลัง แล้วโชว์ทริคสุดเหนือดีดบอลหลบแนวรับอัลเมเรีย แล้วไหลให้ เบนเซม่า วิ่งมาซัดเข้าไปไม่พลาด เป็นประตูที่สองในเกมนี้ของดาวยิงวัย 35 ปี มีลุ้นแฮตทริก
นาที 37 วินิซิอุส จูเนียร์ รับใบเหลืองคนแรกของเกมหลังไปเข้าฟาวล์ใส่แข้งอัลเมเรีย ทำให้สะสมใบเหลืองครบตามโควตา ติดโทษแบนในเกมถัดไปที่จะบุกไปเยือน เรอัล โซเซียดาด
นาที 39 แนวรับเจ้าบ้านทำเสียบอลก่อนที่ ฟรานซิสโก้ ปอร์ตีโย่ ได้ได้โอกาสซัดนอกกรอบแต่บอลหลุดเสาแรกออกไป
อีกสองนาทีต่อมา เรอัล มาดริด มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง ลูกัส บาสเกซ เรียกจุดโทษหลังโดน ลาร์จี้ รามาซานี่ เตะล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทันที และเป็น เบนเซม่า ที่ทำหน้าที่สังหารเข้าไปให้ "ราชันชุดขาว" นำห่าง 3-0 ในนาที 42 และเป็นแฮตทริกของกัปตันชุดขาวในเกมนี้ พร้อมเป็นประตูที่ 17 ในลีกจี้ดาวซัลโวอย่าง เลวานดอฟสกี้ แค่เม็ดเดียว
แต่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก นาที 45+1 อัลเมเรีย มาได้ประตูตีไข่แตกตาม เรอัล มาดริด มาเป็น 1-3 ลาร์จี้ รามาซานี่ แก้ตัวหลังทำเสียจุดโทษด้วยการแอสซิสต์นิ่มๆ ปาดเลียดไปเสาไกลให้ ลาซาโร่ หัวหอกบราซิเลี่ยนวิ่งมาซัดเข้าไปง่ายๆ เข้าไป
จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำห่าง อัลเมเรีย 3-1
ครึ่งหลัง เริ่มมาได้แค่ นาที 47 แฟนบอลชุดขาวได้เฮกันลั่นหลัง เซบายอส จ่ายบอลให้ โรดรีโก้ โกเอส ตั้งป้อมซัดนอกกรอบสุดสวยบอลพุ่งหนีมือ มาร์ตีเนซ มือกาวอัลเมเรีย เสียบตาข่ายอย่างสวยงามให้ เรอัล มาดริด นำโด่ง 4-1
แต่ อัลเมเรีย ไม่ยอมง่ายๆ นาที 61 มาทวงประตูที่สองให้ทีมไล่เจ้าบ้านมาเป็น 2-4 จาก ลูกัส โรแบร์โตเน่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาซัดเข้าไปไม่พลาด
อีกสองนาทีถัดมา บาสเกซ เปิดมาให้ โรดรีโก้ พุ่งโขกเข้าไปอย่างสวยงาม ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าก่อน
นาที 79 เจ้าบ้านมาได้ลูกจุดโทษที่สองในเกม บอลจาก กามาวินก้า วางยาวมาให้ เบนเซม่า สปีดหนีแนวรับอัลเมเรียไปแตะบอลหลบ เฟร์นานโด มาร์ตีเนซ นายด่านทีมเยือนก่อนโดนขวางล้มลงไป ทว่าหลังมีสัญญาณจาก วีเออาร์ ผู้ตัดสินวิ่งไปดูจากจอมอนิเตอร์ข้างสนามแล้วกลับคำตัดสินไม่ให้ชุดขาวได้จุดโทษ มองว่า เบนเซม่า ไปฟาวล์ใส่ โรดรีโก้ เอลี่ แนวรับอัลเมเรียล้มไปก่อน
นาที 86 ชุดขาวเกือบได้เม็ดที่ 5 หลัง กามาวินก้า ดีดให้ คาริม เบนเซม่า ซัดด้วยขวาเต็มแรงแต่บอลพุ่งไปชนเสาไกลอย่างน่าเสียดาย พลาดประตูที่ 4 ของตัวเองในเกมนี้อีกด้วย
ช่วงนาทีสุดท้าย "ชุดขาว" เกือบได้เม็ดที่ห้าอีกครั้งหลัง เบนเซม่า ไหลออกข้างให้ อเซนซิโอ กดด้วยขวาเต็มแรงบอลพุ่งชนเสาออกไปอีก
จบเกม เรอัล มาดริด ไล่ทุบเอาชนะ อัลเมเรีย 4-2 เก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 68 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง บาร์เซโลน่า ที่มีคิวแข่งคู่ต่อไปเหลือแค่ 8 คะแนน ส่วน อัลเมเรีย รั้งอันดับ 15 มี 33 แต้มเท่าเดิม ต้องหนีโซนตกชั้นอีก 6 เกมที่เหลือต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ลูกัส บาซเกซ, เอแดร์ มิลิเตา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า - ดานี่ เซบายอส, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, โทนี่ โครส - โรดรีโก้ โกเอส, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์
อัลเมเรีย (4-5-1) : เฟร์นานโด มาร์ตีเนซ - ฮูบูแลง เมนเดส, โรดรีโก้ เอลี่, ฆวน บรานดารีซ ชูมี, แซร์จีโอ้ อเคมี่ - อาร์เนา ปุชมาล, ฟรานซิสโก้ ปอร์ตีโย่, เซซาร์ เด ลา ฮอซ, ซามูเอล กอสต้า, ลาร์จี้ รามาซานี่ - ลาซาโร่