เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน แถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า อมานซิโอ้ อมาโร่ แนวรุกระดับตำนานของทัพ "ราชันชุดขาว" เสียชีวิตอย่างสงบแล้วในวัย 83 ปี
อมาโร่ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับ เรอัล มาดริด ในช่วงระหว่างที่ค้าแข้งกับสโมสรตั้งแต่ปี 1962-1976 โดยนำต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดนกระทิงดุ 9 สมัย และแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปัจจุบัน 1 สมัย
ตำนานลูกหนังชาวสแปนิช เจ้าของฉายา "เอล บรูโฆ" หรือ "พ่อมด" ซึ่งเคยเล่นให้ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ในช่วงระหว่างปี 1958-1962 ผ่านการติดธงทัพ "กระทิงดุ" มาแล้ว 42 แมตช์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะสำคัญที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว
แถลงการณ์ของ "โลส บลังโกส" ระบุว่า "สโมสรเรอัล มาดริด รวมทั้งประธานและคณะกรรมการบริหาร รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อการเสียชีวิตของ อมานซิโอ้ อมาโร่ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ของ เรอัล มาดริด และเป็นหนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่ของสโมสรของเรา และวงการฟุตบอลโลก"
"เรอัล มาดริด ขอแสดงความเสียใจและความห่วงใยส่งไปยัง กอนซูเอโล่ ภรรยาของเขา และลูกของเขาได้แก่ ออสการ์, เบเลน, อมานซิโอ, ปาทริเซีย, มาร์กอส และ คลอเดีย รวมทั้งน้องชายของเขา ฆวน การ์ลอส รวมทั้งบรรดาหลานๆ และญาติพี่น้อง, มิตรสหาย และคนที่เขารักทุกๆ คน" แถลงการณ์ฉบับเดิม ระบุ
ทั้งนี้ อมาโร่ ซึ่งลงเล่นให้ "ราชันชุดขาว" 471 เกมและตะบันไป 155 ประตู เป็นคนที่ยิงตีเสมอ ปาร์ติซาน เบลเกรด ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูโรเปี้ยน คัพ 1966 หลังจากโดนยอดทีมจากยูโกสลาเวียยิงประตูนำไปก่อน และสุดท้าย "ราชันชุดขาว" พลิกชนะด้วยสกอร์ 2-1 คว้าแชมป์ไปครอบครอง
นอกจากจะประสบความสำเร็จในระดับสโมสรแล้ว อมาโร่ ยังเป็นหนึ่งในขุมกำลังสำคัญทีมชาติสเปน ชุดคว้าแชมป์ยูโร 1964 โดยเขาเป็นฮีโร่ของทีมเมื่อยิงประตูชัยชนะ ฮังการี 2-1 ในรอบตัดเชือก ก่อนที่บ้านเกิดจะเฉือน สหภาพโซเวียต 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศ