ฤดูกาลสุดแสนทรมาน! แมนยู เสียง่ายยิงยากทำแพ้ ฟูแล่ม ร่วงเอฟเอคัพ

1.ก่อนอื่นขอบอกว่าระบบการเล่นที่ รูเบน อโมริม นำมาใช้ในเกมนี้ มิใช่ 3-4-2-1 นะครับ

เพราะที่เห็นการยืนตำแหน่งในสนามคือ 3-5-1-1 โดยมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส ปักหลักเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางอยู่หน้าปราการหลังทั้ง 3 คน ขยับขึ้นไปทางขวาคือ มานูเอล อูร์กาเต้ และขยับขึ้นไปทางซ้ายคือ คริสเตียน เอริคเซ่น

ส่วน โจชัว เซิร์คซี่ เล่นในตำแหน่ง 'หน้าต่ำ' 

กุนซือชาวขนมฝอยทองใช้สูตรนี้มาตั้งแต่ในครึ่งหลังของเกมเสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 และครึ่งแรกในเกมชนะ อิปสวิช 3-2 ที่ต้องปรับ หลังมีผู้เล่นถูกไล่ออก

ระบบนี้ช่วยให้ แมนยูไนเต็ด บีบขึ้นไปสูงแล้วตัดบอลในแดนบนได้หลายครั้งนะครับ แต่กัปตันทีมเป็นจุดศูนย์กลางอย่างต้องทำงานหนักหน่อย

แม้จะครองบอลได้น้อยกว่าคู้แข่ง แต่ปีศาจแดงใช้การจู่โจมเร็วหาจังหวะยิงได้มากกว่า

ปัญหาเหมือนเดิมคือไม่คม

นอกจากจะยิงไม่ได้ยังมาเสียประตูอีกตะหาก

2.พูดถึงจังหวะเสียประตูแล้วก็น่าโมโห เพราะมันกำลังจะหมดครึ่งแรกอยู่รอมร่อ

สิ่งที่พวกเขาต้องทำในนาทีนั้นคือพยายามครองบอล และประคองเกมให้จบครึ่งแรก ด้วยสกอร์ 0-0 ไปก่อน ทว่ากลับเสียลูกเตะมุมถึง 2 ครั้งติดต่อกัน

แล้วก็เสียประตูจากลูกเตะมุมอีกแล้วอย่างไม่รู้จักเบื่อ เหมือนไม่เคยมีบทเรียน

กูล่ะเบื่อ

3. เมื่อเกมรุกยังตื้อๆ ตันๆ รูเบน อโมริม ส่งตัวรุกอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลงมาเสริม แต่คนที่ถูกเปลี่ยนออกคือ มานูเอล อูการ์เต้ ที่เล่นได้ไม่เลวในครึ่งแรก

เข้าใจว่าต้องการเก็บนักเตะเชิงรุกที่จ่ายบอลได้ดีอย่าง คริสเตียน เอริคเซ่น เอาไว้ในสนาม ประกอบกับนักเตะอุรุกวัยมีใบเหลืองติดตัวมาตั้งแต่ครึ่งแรก

ต่อเมื่อยังทำประตูไม่ได้ก็ปรับตำแหน่งอีกครั้ง ด้วยการส่ง กาเซมิโร่ ลงมาเล่นเป็นตัวรับ เพื่อที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะขยับขึ้นสูงได้แบบไม่ต้องพะวงหลัง

ตัวสำรองอย่าง การ์นาโช่ มีส่วนกับประตูตีเสมอ และการขยับขึ้นสูงของ 'บรูโน่' ทำให้เขากระทุ้งตาข่ายได้สำเร็จ

4. ตลอด 120 นาที แมนยูไนเต็ด มีโอกาสทำประตูถึง 20 ครั้ง !!!

แต่หลังจากตีเสมอกลับยิงเพิ่มไม่ได้เลย เพราะใช้โอกาสได้สิ้นเปลืองบรรลัย

ไอ้หนู อาร์เจนติน่า ใช้ความเร็วปั่นป่วนคู่แข่งได้ ก่อนจะตายตอนจบทุกครั้ง ไม่ว่าจะเปิดหรือสับไก ขณะที่กองหน้าตัวสำรองอย่าง ชิโด โอบิ มาร์ติน มีโอกาสทำลายตาข่าย 3 ครั้ง พลาดทั้ง 3 ครั้งแบบน่าเสียดายมาก

5. ช่วงดวลเป้าตัดสินชะตา

แมนยูไนเต็ด อุตส่าห์ได้เปรียบ เมื่อชนะการเสี่ยงเหรียญทั้งเลือกฝั่งยิงหน้า สเตร็ทฟอร์ด เอ็นด์ และได้ยิงก่อน

เพชฌฆาตคนที่ 4 วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ตะบันติดเซฟ ก่อนผู้รักษาประตูของ ฟูแล่ม จะพุ่งปัดลูกยิงของ 'อาจารย์ดู๋' ที่แทบไม่เหลือกำลังขาเอาไว้ได้

สารภาพตามตรงว่าโคตรเซ็งที่พ่ายแพ้และตกรอบ แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าสภาพทีมมันไม่ค่อยสมประกอบ ฟอร์มการเล่นโดยรวมก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไร แถมทุ่มเทกันเต็มแม็กซ์จนขาลากหมดแล้ว

ส่วนการดวลจุดโทษมันก็ไม่เข้าใครออกใคร ว่าแล้วก็ต้องอดทนกันต่อไปจนกว่าจะจบฤดูกาลอันสุดแสนจะทรมาน