แมนยู ตอกย้ำกับเราว่าฟุตบอลพลิกผันได้เสมอ

แมนยู ตอกย้ำกับเราว่าฟุตบอลพลิกผันได้เสมอ
อาจจะเป็นอย่างที่ เอริค เทน ฮาก บอกเอาไว้ก็ได้.. สุดท้ายแล้วตำแหน่งแชมป์ก็เป็นความสำเร็จที่จับต้องได้ที่สุด

จะดีจะแย่ สองฤดูกาลของเขา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้แชมป์ 2 รายการ เข้าชิง 3 รายการ

เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2023/24 ตกเป็นของยูไนเต็ด บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยเรื่องราว

ดับฝันโอกาสคว้า 4 แชมป์ของ ลิเวอร์พูล คู่ปรับตลอดกาลในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ผ่าน โคเวนทรี ซิตี้ อย่างดราม่าสุดขีดราวกับมีใครเขียนสคริปต์ไว้ในรอบตัดเชือก

และทำลายความหวังของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองในการเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าดับเบิลแชมป์ 2 ฤดูกาลติดต่อกัน

แน่นอนอนาคตของ เทน ฮาก ยังแขวนอยู่บนเส้นด้าย จะหมู่หรือจ่าก็ยังไม่รู้ ฝ่ายบริหารของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะพิจารณาเรื่องนี้ในสัปดาห์นี้

เชื่อว่าคงจะรอกันไม่นานหรอก แล้วเราก็จะทราบคำตอบว่า เอริค เทน ฮาก จะได้ทำงานของเขาต่อไปในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หรือไม่

ฝ่ายที่ยังสนับสนุนเขาก็มี ฝ่ายที่พอแล้วกับเขาก็มีเช่นกัน

ยูไนเต็ดกลายเป็นทีมที่น่าจับตามองยิ่งขึ้นไปอีกจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารและฝ่ายที่ดูแลเรื่องทีมฟุตบอลโดยตรง เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ กุมบังเหียนเต็มตัว และดึงเอามือทำงานระดับหัวกะทิเข้ามาช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีที่หลับไหลอีกครั้ง

มันน่าเสียดายอยู่เหมือนกันนะครับสำหรับ เทน ฮาก ถ้าอุตส่าห์หลุดจากอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาภายในทีม พฤติกรรมด้านลบของนักเตะบางคน อาการบาดเจ็บ หรือการบริหารที่ย่ำแย่ เตรียมต่อยอดจากความสำเร็จที่เพิ่งคว้ามาได้แล้ว แต่กลับไม่มีโอกาสได้ทำมันเพราะฝ่ายบริหารชุดใหม่เลือกอีกทาง

มันก็เกินขอบข่ายอำนาจของเขาอยู่แล้ว เขาทำอะไรไม่ได้หรอกนอกจากชี้แจงเหตุผลเท่าที่จะสามารถทำได้ พูดคุยแสดงมุมมองทรรศนะต่อเรื่องต่าง ๆ และรอฟังผลการตัดสินใจของบอร์ด

ทำได้ดีที่สุดแค่นั้น

--------------

กับเกมที่เวมบลีย์เมื่อคืนวันอาทิตย์ ยูไนเต็ดทำทุกอย่างได้ตามแผน นักเตะตอบสนองความต้องการของเดิมพันนี้ได้ดีมาก

นิ่ง มีสติ รักษาวินัยในการเล่น ฉกฉวยโอกาสที่เปิดให้

รูปแบบการเล่น 4-2-2-2 มีมิดฟิลด์คู่ล่างเป็นตัวรับ คู่กลางเป็นปีกปราดเปรียว และคู่หน้าเป็นฟอลส์ไนน์ 2 คน ช่วยคุมพื้นที่ในแดนกลางและสอดทะลุขึ้นไปในจังหวะเล่นเกมรุก

กองหน้าตัวเป้าอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ นั่งสำรองไปก่อน รอเปลี่ยนลงสนามตามแท็คติก

ระบบนี้พาทีมเก็บ 6 คะแนนเต็มใน 2 นัดสุดท้ายของฤดูกาลพรีเมียร์ลีกเหนือ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ ไบรท์ตัน ทุกอย่างลงตัวดีแล้วไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน

เพียงนักเตะเท่านั้นที่ขยับเข้า-ออก กาเซมิโร่ไม่สมบูรณ์ไร้ชื่อในทีม มาร์คัส แรชฟอร์ด ทีเด็ดสำหรับเกมใหญ่ถูกหย่อนลงสนามเบียด อาหมัด ดิยัลโล่ ไปนั่งรอข้างสนาม

ราฟาแอล วาราน กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยืนคู่กันเป็นเซนเตอร์แบ๊กแชมป์โลก คู่นี้ควรจะเป็นคู่หลักยาว ๆ ให้ยูไนเต็ดมาตั้งแต่แรกแต่เสียดายที่ปัญหาบาดเจ็บทำทุกอย่างผิดแผนไปหมด

โซฟียาน อัมราบัต ค้นพบฟอร์มช่วงฟุตบอลโลกที่หายไปทันเวลาพอดี เขายืนคู่กับ ค็อบบี้ เมนู ได้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่คู่หน้า สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ขยันวิ่งขึ้นลงช่วยทีม

วิธีการเล่นคือสิ่งสำคัญกว่าระบบ เทน ฮาก เลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเจอแมนฯ ซิตี้

ไม่เปิดหน้าแลก ไม่ชวนทะเลาะ ไม่ทำอะไรที่เป็นการเร่งจังหวะของคู่ปรับร่วมเมือง

ยูไนเต็ดรับในแดน ไม่บีบแดนบน ไม่เพรสซิ่งแดนกลาง ไม่วิ่งเข้าใส่ เพราะรู้ดีถึงความรอบจัดของนักเตะเรือใบแต่ละคน

การเล่นเกมรับมีหลายวิธี บางวิธีการอาจเหมาะกับทีมหนึ่ง แต่ใช้ไม่ได้กับอีกทีมหนึ่ง บางวิธีการเละเทะกับทีมหนึ่ง แต่ได้ผลสุดยอดเมื่อใช้มันกับอีกทีมหนึ่ง หรือ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง

เปรียบเทียบการเล่นเกมรับของ อตาลันต้า แชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ดูก็ได้ครับ นักเตะเทพธิดาสร้างผลงานชิ้นโบแดงในเกมบุกถล่มลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ และยำใหญ่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่ดับลินด้วยการเล่นเกมรับแบบบีบกดดัน อ่านจังหวะตัดบอล พุ่งปรี่เข้าแย่งอย่างรวดเร็ว

ยูไนเต็ดไม่ได้เล่นแบบนั้น แต่เลือกการปักหลักรักษาพื้นที่ไม่ทิ้งตำแหน่งและช่วยกันปิดช่องว่าง เราไม่อาจรู้ได้หรอกว่าถ้าเล่นเกมรับเข้าถึงบอลดุดันอย่างอตาลันต้าจะเป็นอย่างไร มีโอกาสที่จะตัดบอลได้ก็จริงแต่ก็มีสิทธิ์ถูกความเจ้าเล่ห์รอบจัดของนักเตะซิตี้เล่นงานได้

ถ้าพุ่งเข้าใส่ บีบเข้าหาแล้วเอาไม่อยู่ แบร์นาร์โด้พลิกได้ ฟิล โฟเด้นหลบได้ หรือเควิน เดอ บรอยน์ ผ่านได้ พื้นที่ที่คุณทิ้งไว้นั่นแหละจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื้อเชิญให้ซิตี้

ไม่ต้องเอาชนะตัวต่อตัวก็ได้ ถ้าคุณพุ่งเข้าใส่นักเตะเรือใบ พื้นที่ด้านหลังของคุณจะเปิดว่างโดยอัตโนมัติ และตรงนั้นแหละที่โฟเด้น แบร์นาร์โด้ เดอบรอยน์ คือใครคนอื่นในชุดสีฟ้าจะแลบเข้ามาใช้ประโยชน์

โจทย์ของยูไนเต็ดคือเมื่อคุณต้องรับมือกับทีมที่สร้างพื้นที่ให้ตัวเองเก่งที่สุดในวงการ คุณจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดพื้นที่นั้น และเพียงแค่ปิดพื้นที่ไม่พอ แต่ยังต้องป้องกันการสร้างพื้นที่ขึ้นเองของนักเตะซิตี้ด้วย

วิ่งโฉบ 1-2 ที ซิตี้ก็สร้าง Space - พื้นที่ - ที่พวกเขาต้องการได้แล้ว นี่คือภารกิจที่นักเตะปีศาจแดงต้องจัดการให้ได้

และพวกเขาก็ทำได้ ทำได้ดีเสียด้วย ทั้งยังมีจังหวะเปลี่ยนรับเป็นรุกที่มีผู้เล่นในชุดสีแดงพุ่งทะยานเข้าสู่พื้นที่ทำประตูพร้อม ๆ กัน 4-5 คนให้เห็นอีก 2-3 ครั้งก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมมาอย่างสมบูรณ์ที่สุด และนำการซ้อมมาใช้ในสนามจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างประตู 2-0 ก็มาจากการเข้าทำในลักษณะนั้น ตัดบอลได้จากการบุกของซิตี้ แล้วเปลี่ยนเกมด้วยการผ่านบอลไปยังเป้าหมาย แรชฟอร์ดรับบอลทางซ้ายแล้วเปลี่ยนแกนฉับพลันวางยาวข้ามฟากไปถึงปีกขวา

นักเตะซิตี้ที่ต้องรีบวิ่งกลับไปประจำตำแหน่งไล่ตามบอลข้ามฟากนั้นไม่ทัน อเลฮานโดร การ์นาโช่ จึงได้บอลในพื้นที่โล่ง มีเวลาคิดพร้อมรอเพื่อนที่สปรินท์เติมกันขึ้นมา 3-4 คน และสุดท้ายจบที่การทำประตูโดย บรูโน่ แฟร์นันด์ส คนไหลบอลให้ เมนู สังหารยังสามารถเลือกช้อยส์อื่นได้อีก 1-2 ทางเลือก

แฟร์นันด์ส ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า เทน ฮาก เป็นคนที่เตรียมความพร้อมในแต่ละเกมอย่างละเอียด รอบคอบและจริงจังในทุกเกม เพียงแต่บางเกมได้ผล บางเกมก็ไม่ได้ผล และในเกมนี้สิ่งที่ปรากฏให้เราเห็นคือมันได้ผล

ขณะที่ประตู 1-0 มาจากความผิดพลาดเองของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล และ สเตฟาน ออร์เตก้า ที่สื่อสารกันไม่ดี กวาร์ดิโอลโหม่งคืนออร์เตก้าด้วยน้ำหนักและทิศทางบอลไปที่ตำแหน่งออร์เตก้ายืน แต่นายทวารชาวเยอรมันวิ่งพรวดเข้าไปเพื่อจะเล่นบอลจึงกลายเป็นลูกส้มหล่นให้การ์นาโช่ลงโทษง่าย ๆ

ฝั่ง ซิตี้ เองดูเนือยผิดไปจากปกติ บอลช้ากว่าที่เคยเห็น เราแทบไม่ได้สัมผัสแรงกระหายที่จะเอาประตูของพวกเขาเลย บอลได้เสียยิ่งไม่เห็น

จริงอยู่ว่าการเล่นของยูไนเต็ดบังคับให้เกมเป็นอย่างนั้น อึดอัด ออกบอลลำบาก แต่มันต้องเป็นการกำหนดแนวทางของซิตี้ด้วย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอมรับเองว่าเขาวางแผนผิดพลาด การเร่งไม่ขึ้นไม่เกี่ยวกับงานฉลองปาร์ตี้ที่นักเตะเรือใบแต่ละคนใส่กันสุดเหวี่ยง พวกเขามืออาชีพมากพอที่จะรู้ว่าอะไรควรไม่ควรทำ

ความผิดพลาดที่เป๊ปหมายถึงน่าจะเป็นวิธีการเล่นของทีมที่ครองบอลไปเรื่อย ๆ ไม่โหม ไม่เร่ง ไม่เสี่ยง การจัดตัวของเขามีความรัดกุมให้เห็นด้วยการใช้ มาเตโอ โควาซิช ยืนคู่กลางกับ โรดรี้ ลดทอนอาวุธในเกมรุกด้านกว้างเพื่อรอขยับในครึ่งหลัง

เป็นเกมที่ แมนฯ ซิตี้ หลุดฟอร์มอย่างไม่มีใครคาดคิด นาน ๆ เราจึงจะเห็นพวกเขาอึดอัดอย่างนี้ และมันยิ่งอึดอัดเข้าไปอีกเมื่อยูไนเต็ดก็เล่นด้วยความอดทนสุดยอดไม่ชวนทะเลาะหรือเร้าเร่งคู่แข่งร่วมเมืองเลยสักจังหวะ

กระทั่ง เฌเรมี่ โดกู ที่ลงมาในช่วงพักครึ่งเริ่มเครื่องร้อนราว ๆ 15 นาทีสุดท้ายนู่นเลยกระมัง ที่ ซิตี้ เริ่มมีจังหวะคุกคาม ยูไนเต็ด อย่างน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ

หากมันก็ไม่ทันเสียแล้ว ซิตี้ไม่สามารถกระชากโมเมนตัมของเกมให้กลับมาเป็นของพวกเขาได้อย่างที่เคยทำมาหลายครั้งแม้จะยิงตีไข่แตกได้

ชัยชนะครั้งนี้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงยืนยันกับเราอีกครั้งว่าฟุตบอลเป็นเกมที่มีความพลิกผันเกิดขึ้นได้เสมอ

ไม่มีอะไรแน่นอนในสงครามนี้ เรื่องที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้กลับเป็นไปได้ มีให้เห็นมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และมันจะยังไม่จบลง

ลิเวอร์พูล แพ้ วิมเบิลดัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ เอฟเวอร์ตัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ วีแกน แอธเลติก..

พลิกล็อกมากพลิกล็อกน้อยเป็นอีกเรื่อง แต่ฟุตบอลเปิดโอกาสให้เรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้เกิดขึ้นเสมอ อยู่ที่คุณจะคว้ามันไว้ได้ไหม

เช่นเดียวกับเสียงวิจารณ์ก่อนเริ่มเกมของคู่นี้ มันเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือมองแทบไม่เห็นประตูแพ้ของซิตี้ แต่สุดท้ายจบลงด้วยการฉลองยิ่งใหญ่และยาวนานของทีมร่วมเมือง..

ตังกุย


ที่มาของภาพ : getty images
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport