เชลซี ได้2ตัวสำรองซัดทดเจ็บอัด เลสเตอร์10คน ลิ่วตัดเชือกเอฟเอคัพ

เชลซี ได้2ตัวสำรองซัดทดเจ็บอัด เลสเตอร์10คน ลิ่วตัดเชือกเอฟเอคัพ
เชลซี มาได้สองตัวสำรองอย่าง คาร์นีย์ ชุควูเมก้า และ โนนี่ มาดูเอเก้ ลงมากดคนละประตูในช่วงทดเวลาพา เชลซี เปิดรังอัด เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เหลือผู้เล่น 10 คนสุดระทึกกรุยทางสู่รอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ

การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ประจำวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ระหว่าง เชลซี พบ เลสเตอร์ ซิตี้ 

เปิดฉากครึ่งแรกมาถึง น.13 เชลซี ขึ้นนำเร็ว 1-0 นิโกลัส แจ็คสัน กระชากชึ้นมาทางกราบขวาแล้วไหลถวายพานมาให้ มาร์ค กูกูเรย่า หลุดมาซัดคนเดียวโล่งๆที่เสาไกลเข้าประตูไปง่ายๆ 

หลังจากนั้น น.26 เชลซี ชวดได้ประตูที่สองอย่าน่าเสียดาย หลังมาได้ลูกจุดโทษแต่ทว่า ราฮีม สเตอร์ลิง ซัดไปติดเซฟ มัดส์ เฮอร์มันเซ่น 

ท้ายครึ่งแรก เชลซี มาบวกลูกสอง ใน น.45+1 ราฮีม สเตอร์ลิง เปิดเรียดไปที่เสาแรกให้ โคล พัลเมอร์ วิ่งมาแทบอินจ่อๆไม่เหลือ และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง น.51 เลสเตอร์ ตามตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ อักแซล ดิซาซี่ พยายามจะจ่ายบอลคืนหลังให้ โรเบิร์ต ซานเชซ แต่ผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป 

เท่านั้นไม่พอ น.62 เลสเตอร์ ตามตีเสมอ 2-2 สตีฟี่ มาวิดิดี้ ลากตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยขวาส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม

อย่างไรก็ตาม น.70 สถานการณ์ของ เลสเตอร์ ต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบเมื่อ คัลลั่ม ดอย โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม

เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมออยู่แล้ว ก่อนที่ช่วงทดเวลา น.90+1 โคล พัลเมอร์ ไขว้บอลให้ ชุควูเมก้า หลุดเดี่ยวมายิงลอดขาผู้รักษาประตูเข้าไปให้ เชลซี ขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 

น.90+8 เจ้าถิ่นหนีเป็น 4-2 โนนี่ มาดูเอเก้ ลากบอลมาปั่นด้วยซ้ายบอลไปแฉลบแนวรับ เลสเตอร์ เข้าประตูไป 

จบเกม เชลซี เอาชนะ เลสเตอร์ 4-2   

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ - มาโล่ กุสโต้, อักแซล ดิซาซี่, เทรโวห์ ชาโลบาห์, มาร์ค กูกูเรย่า - มอยเซส ไกเซโด้, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ - ราฮีม สเตอร์ลิง, โคล พาลเมอร์, มิไคโล มูดริค - นิโกลัส แจ็คสัน

เลสเตอร์ (4-2-3-1) : มัดส์ เฮอร์มันเซ่น - ฮัมซ่า เชาดรี้, เวาต์ ฟาส, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, คัลลั่ม ดอย - แฮร์รี่ วิงค์ส, เคียร์แนน ดิวส์เบอรี่-ฮอลล์ - อับดุล ฟาตาวู, วิลฟรีด เอ็นดีดี้, สตีฟี่ มาวิดิดี้ - แพ็ตสัน ดาก้า



ที่มาของภาพ : Getty
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport