ไม่มีเกมที่ง่ายเลยจริงๆสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่นนี้ซึ่งแม้พวกเขาจะจับสลากได้ต่อกรกับ นิวพอร์ท ทีมระดับ ลีกทู ในเกม เอฟเอคัพ รอบสี่ที่สนาม ร็อดนีย์ พาเหรด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ม.ค. แต่ ผีแดง ในกำมือของ เอริค เทน ฮาก เกือบอับอายขายหน้าอยู่เหมือนกันก่อนเร่งเกมในช่วงท้ายกำชัยได้สำเร็จด้วยสกอร์ 4-2 โดยเกมนี้ต้องยกให้ อันโตนี่ ดาวเตะทีมชาติ บราซิล ที่ฟอร์มตกมานานมีส่วนสำคัญพาทีมทะลุเข้ารอบห้าจากการทำแอสซิสต์แรก และยิงประตูแรกในซีซั่นนี้ได้ในเกมเดียวกันแม้จะว่าไปผลงานของเขายังอยู่ในระดับที่น่าผิดหวังเหมือนเดิม
1. เจ้าบ้านหวังสานต่อฟอร์มหรู
นิวพอร์ท ทีมอันดับ 16 ของ ลีกทู หวังสานต่อผลงานร้อนแรงหลังจากพวกเขากำชัยได้สามนัดติดต่อกันในทุกรายการ
จากสามเกมที่ว่า ทีมจากเวลส์ยิงได้ห้าประตู และเสียไปแค่ประตูเดียวโดยเกมลีกนัดล่าสุดพวกเขาเฝ้าบ้านเฉือนชนะ เร็กซ์แฮม 1-0
สำหรับเกมก่อนหน้านี้ในศึก เอฟเอคัพ นัดบุกไปอัด อีสต์ลีห์ 3-1 นิวพอร์ท ได้สามประตูจาก อารอน วิลดิก , เจมส์ คลาร์ก และ วิลล์ อีแวนส์ ซึ่งทำให้กุนซือ เกรแฮม คัฟลัน ส่งทั้งสามลงเล่นเป็นตัวจริงในวันนี้ด้วย
2. นัดแรกของ บายินดีร์
ในที่สุด แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มอบโอกาสประเดิมสนามให้กับ อัลตาย บายินดีร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติ ตุรกี ที่ย้ายมาจาก เฟเนบาห์เช่ เมื่อช่วงซัมเมอร์เนื่องจาก อ็องเดร โอนาน่า ผละไปรับใช้ชาติในรายการ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์
กระนั้นก็ดี ผีแดง ขาด มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ป่วย แต่ จอนนี่ อีแวนส์ ซึ่งไม่สบายพร้อมกันมีชื่อนั่งสำรอง
นอกจากกองหน้าทีมชาติ อังกฤษ แล้ว ทีมเยือนไร้ อารอน วาน บิสซาก้า อีกรายเนื่องจากมีสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ แต่ กาเซมีโร่ กองกลางทีมชาติ บราซิล กลับมาลงเล่นได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. ขณะที่ ลุค ชอว์ กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ อยู่ในโผ 11 คนแรกเช่นกัน
3. อันโตนี่ ปลดล็อก
ในที่สุด อันโตนี่ ก็ประสบความสำเร็จมีแอสซิสต์แรกในซีซั่นนี้จนได้จากจังหวะผ่านบอลให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ตะบันระยะ 18 หลาพา ผีแดง บุกมานำเร็วตั้งแต่หัววันในนาทีที่ 7
ยิ่งไปกว่านั้น ปีกทีมชาติ บราซิล ซึ่งเกมในครึ่งแรกได้ครองบอลบ่อยครั้งน่าจะมีสกอร์แรกของตัวเองในรอบเก้าเดือนด้วยจากโอกาสที่มีแบบเหน่งๆสองสามครั้ง แต่เจ้าตัวเหมือนขาดความมั่นใจในการจบสกอร์ทั้งยิงข้ามคานชนิดที่ไม่มีใครคุม และยิงติดบล็อกฝ่ายตรงข้าม ก่อนซัดอีกหนโดนนายทวารเจ้าบ้านปัดข้ามคานได้ไม่ยาก
จึงเห็นได้ชัดว่าแม้เกมนี้ ดาวเตะชาวเมืองกาแฟสบโอกาสกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเองกลับมา แต่เขาทิ้งขว้างมันไปเองซึ่งถ้าหากว่า แรชฟอร์ด ฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนาม บางทีอดีตขุนพลทีม อาแจ็กซ์ อาจเป็นได้แค่ตัวสำรองสำหรับเกมนี้เนื่องจากหลายต่อหลายนัดที่ผ่านมาเขาไม่อาจโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจเลยแม้แต่น้อยกระทั่งเกมที่ได้ต่อกรกับทีมรองบ่อนอย่างในวันนี้
กระทั่งนาทีที่ 68 โอกาสทองก็ตกอยู่แทบเท้าของ อันโตนี่ อีกครั้ง และคราวนี้เขาทำได้สำเร็จในจังหวะซ้ำลูกยิงที่ชนเสาของ ชอว์ พาทีมเยือนนำ 3-2 เป็นการยกภูเขาออกจากอกเจ้านายชาวเมืองกังหันลมจนได้ แต่ไม่ว่าจะยังไงหากจะมองกันที่ฟอร์มการเล่น บอกได้เลยว่าสตาร์บราซิลเลี่ยนยังต้องปรับปรุงผลงานของตัวเองอีกมากหากหวังกระโดดขึ้นเป็นขวัญใจสาวก เร้ด อาร์มี่ อย่างเต็มตัว
4. ฝันร้ายของนายทวารเติร์ก
แม้จะได้ประเดิมสนามในเกมปะทะกับทีมรองบ่อนซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีของ บายินดีร์ นายทวารมือสองของ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่เอาเข้าจริงมันกลับไม่ใช่เกมที่น่าจดจำสำหรับเขาในเมื่อเสียประตูให้ทีมระดับ ลีกทู ถึงสองเม็ด แถมเป็นสองประตูที่ ผีแดง โดนไล่ตีเสมอ 2-2 ซะด้วย
อันที่จริง สถานการณ์สำหรับ บายินดีร์ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเนื่องจาก ผีแดง เริ่มเกมได้ดี และนำหน้าไปก่อนถึงสองประตู แถมกว่าที่เขาจะได้ออกแรงเซฟจังหวะแรกก็กินเวลานานถึงนาทีที่ 25 ซึ่งไม่ใช่งานยากอะไรจากจังหวะรับลูกยิงเข้าซองที่เสาแรก
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ทำไปทำมาเกมของ นิวพอร์ท เริ่มสร้างปัญหาให้กับแนวรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มากขึ้นเรื่อยๆกระทั่งทำให้ บายินดีร์ ตาข่ายขาดจนได้แม้จะไม่อาจตำหนิเขาได้แบบเต็มร้อยก็ตามเนื่องจากประตูแรกของเจ้าถิ่นเป็นลูกยิงที่แฉลบ มาร์ติเนซ
จากนั้นประตูตีเสมอของเจ้าบ้านก็เป็นการจิ้มบอลในระยะเผาขนของ วิลล์ อีแวนส์ ซึ่งเริ่มจาก อันโตนี่ เล่นอย่างหละหลวมจนไม่ได้ปิดกั้นการผ่านบอลจากริมเส้นของทีมจากเวลส์ ขณะที่ ราฟาแอล วาราน ก็ปรี่เข้าสกัดที่เสาแรกไม่ทันเลยทำให้ บายินดีร์ หมดโอกาสเซฟ
แม้จะเสียสองประตู แต่ในที่สุด แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เร่งเกมซิวชัยได้ 4-2 โดยที่ บายินดีร์ ได้ออกแรงปัดป้องลูกยิงของทีมเจ้าถิ่นบ้างเช่นกันซึ่งทำให้เขารอดพ้นจากความขายหน้าไปได้เพราะหาก ปีศาจแดง พลิกล็อคแพ้ร่วงตกรอบหรือว่าทำได้แค่เสมอจนต้องมีการเตะ รีเพลย์ แม็ตช์ มันคงเป็นเกมประเดิมสนามที่ดูไม่จืดสำหรับมือกาวสัญชาติเติร์ก
5. เทน ฮาก รอดยาก?
ถึงตอนนี้ ไม่ว่า เทน ฮาก จะพาทีมลงบู๊กับสโมสรไหน เขาเป็นต้องโดนแฟนบอลฝ่ายตรงข้ามตะโกนแซวด้วยประโยค "พรุ่งนี้เช้าคุณจะโดนไล่ออก" ทุกครั้งไป
นี่คือธรรมเนียมการเชียร์ฟุตบอลของสาวกชาวเมืองผู้ดีที่มักตะโกนร้องประโยคนี้ออกมาหากพวกเขาได้ต่อกรกับฝ่ายตรงข้ามที่ผู้จัดการทีมตกเป็นข่าวเก้าอี้ร้อน
และสำหรับ เทน ฮาก แม้จะพาทีมบุกมาชนะ นิวพอร์ท ทะลุเข้ารอบห้าถ้วย เอฟเอคัพ ได้ตามความคาดหมาย แต่สิ่งที่แฟนบอล ปีศาจแดง ทำใจยอมรับได้ยากคือฟอร์มในสนามของทีมโปรดไม่มีวี่แววว่าจะพัฒนาได้เลยแม้จะได้บู๊กับทีมสมันน้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำหน้าไปก่อนถึง 2-0 แต่โดนทวงคืน 2-2 ถือเป็นสกอร์ที่แฟนบอลทีมยักษ์จาก พรีเมียร์ลีก ยอมรับไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง แถมเป็น นิวพอร์ท ด้วยซ้ำที่มีโอกาสแซงนำ แต่ดีที่ว่าทีมเยือนมาได้ อันโตนี่ ยิงเม็ดแรกของตัวเองในซีซั่นนี้พาทีมนำหน้าอีกหนในช่วงเวลาที่สำคัญก่อนที่ ราสมุส ฮอยลุนด์ จะซัดปิดกล่องให้ทีมผ่านเข้ารอบห้าไปได้ในช่วงทดเวลา
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ลองจินตนาการดูเลยว่าขนาดได้ดวลกับ นิวพอร์ท แมนฯ ยูไนเต็ด ยังรากเลือดขนาดนี้ และถ้าพวกเขาต้องฟัดกับ นอริช ทีมจาก แชมเปี้ยนชิพ ที่แพ้ ลิเวอร์พูล ในเกมก่อนหน้านี้ ผีแดง จะมีสภาพเป็นยังไงในเมื่อพวกเขายังเล่นกันได้อย่างไม่เอาอ่าว และเสียประตูอีกตามเคยกระทั่งในเกมฉะกับทีมที่ต่ำชั้นกว่ามาก
หากไม่เชื่อก็ลองพิจารณาจากสถิติได้เลยโดยเกมในครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้เหนือกว่า 75:25% ก็จริง แต่เจ้าบ้านได้ยิง 5 ครั้งเข้ากรอบ 3 ครั้ง ขณะที่ทีมของ เทน ฮาก ได้ยิง 9 ครั้งเข้ากรอบ 4 ครั้ง
กระทั่งหลังจบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลตกลงไปเหลือ 70:30% และได้ยิง 22 ครั้งเข้ากรอบ 9 ครั้ง ขณะที่ นิวพอร์ท ได้ยิงมากมายเช่นกัน 17 ครั้งเข้ากรอบ 7 ครั้งซึ่งชัดเจนอย่างยิ่งว่าขนาดทีมในลีกต่ำสุดของประเทศยังได้คลำเป้า ผีแดง ตั้ง 17 หน มันจึงบ่งบอกอยู่ในทีมว่าซีซั่นนี้อาจเป็นซีซั่นสุดท้ายของกุนซือดัตช์ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็เป็นได้เพราะระดับ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ที่เข้ามาลงทุนกับสโมสรน่าจะมองออกว่า เทน ฮาก เหมาะที่จะพา แมนฯ ยูไนเต็ด กลับไปประสบความสำเร็จในระดับท็อปอย่างที่เขาต้องการหรือเปล่า