ยิ่งกว่าประหยัดไฟเบอร์ 5 ,ผีชนะสุดจุ๋มจิ๋ม! 5 ประเด็นเกม แมนยู บุกทุบ วีแกน

ยิ่งกว่าประหยัดไฟเบอร์ 5 ,ผีชนะสุดจุ๋มจิ๋ม! 5 ประเด็นเกม แมนยู บุกทุบ วีแกน
แมนฯ ยูไนเต็ด ตบเท้าผ่านเข้ารอบสี่ถ้วย เอฟเอคัพ ได้ตามความคาดหมาย แต่ไม่ใช่ฟอร์มที่น่าประทับใจเลยแม้แต่น้อยเมื่อรองแชมป์เก่าบุกมาขย้ำสมันน้อยอย่าง วีแกน ทีมในโซนล่างของ ลีกวัน ได้แค่ 2-0 เท่านั้นในการฟาดแข้งที่สนาม ดี ดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม เมื่อวันจันทร์ที่ 8 ม.ค. ทั้งๆที่พลพรรค ผีแดง มีโอกาสส่องยิงเป็นชุดตลอดทั้ง 90 นาที แต่พวกเขายังสลัดปัญหาการคลำเป้าที่ฝืดเคืองไม่ได้อยู่นั่นเอง

1. เดอะ ลาติกส์ ปรับทัพสองตำแหน่ง

วีแกน ทีมระดับ ลีกวัน ปรับโผสองรายจากเกมบุกไปเสมอ บาร์นสลีย์ 1-1 โดยได้ สตีเฟ่น ฮัมฟรียส์ ดาวซัลโวสูงสุดของทีมที่พลาดเกมลีกกลับมาเสียบแทน จอช มาเจนนิส

สำหรับอีกตำแหน่ง เจ้าบ้านเลือกใช้งาน เธโล อาสการ์ด กองกลางนอร์วีเจี้ยนก่อนหน้า คัลลั่ม แลง ส่วนในซุ้มม้านั่งข้างสนามยังมี เบน เอมอส อดีตนายทวาร แมนฯ ยูไนเต็ด และ เจมส์ คาร์ราเกอร์ ลูกชายของ เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล รอถูกเรียกตัวลงบู๊

2. ผีจัดเต็มชุดใหญ่ไฟกระพริบ

แมนฯ ยูไนเต็ด จัดทัพใหญ่บุกมาเยือน ดี ดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม โดยมีทั้ง อ็องเดร โอนาน่า ที่ยังไม่ลาสโมสรไปรับใช้ชาติในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ เฝ้าเสาตามเดิม รวมทั้งได้ ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าทีมชาติ เดนมาร์ค หายป่วยลงเล่นเป็นตัวจริง

เท่ากับว่า เอริค เทน ฮาก เปลี่ยนโผ 11 นักเตะ ผีแดง รวมสองรายจากเกมลีกที่ออกไปแพ้ ฟอเรสต์ 2-1 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. โดยนอกจากสตาร์เลือดโคมแล้ว สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็กลับมาเป็นตัวจริงแทน คริสเตียน เอริคเซ่น ที่มีอาการป่วย และ อันโตนี่ ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง

3. ฮอยลุนด์ ยังอับโชคไม่เลิก

ฮอยลุนด์ เพิ่งยิงประตูในเกมลีกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแค่เม็ดเดียวเท่านั้นแม้จะสอยตาข่ายในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ ผีแดง ได้ก่อนแล้ว

อันที่จริง หัวหอกร่างยักษ์สมควรมีสกอร์เป็นของตัวเองในถ้วยน็อกเอาต์นี้ด้วยเช่นกันแม้ในช่วงออกสตาร์ต แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะเสียประตูให้ วีแกน ก่อนตั้งแต่นาทีที่ 3 แต่ต้องยกเครดิตให้ โอนาน่า ที่โชว์ฟอร์มเซฟลูกยิงของ อาสการ์ด ได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ดี ด้วยศักยภาพที่เหนือกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสเจาะไข่แดงเจ้าบ้านหลายหน แต่ต้องรออยู่นานจนนาทีที่ 22 กว่าที่ ดีโอโก้ ดาโลต์ จะมีช่องยิงจากหน้าเขตโทษปั่นเสียบเสาไกลให้ ผีแดง บุกมานำ 1-0

ถัดจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็น่าจะทำสกอร์หนีห่าง เดอะ ลาติกส์ ออกไปอีกหลายต่อหลายครั้งโดยเฉพาะ ฮอยลุนด์ ที่อย่างน้อยมีจังหวะเหน่งๆสองหน แต่เหมือนโชคไม่เป็นใจที่สตาร์เดนส์โถมโขกบอลไปชนคาน ก่อนที่จังหวะถัดมาจะพยายามเข้าซ้ำลูกยิงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่โดนปัดออกมาในระยะเผาขน แต่บอลทะลักเฉี่ยวเสาออกไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด จึงนำหน้าแค่ 1-0 เท่านั้นจากการครองบอลที่เหนือกว่า 66:34% และมีโอกาสยิงทั้งหมด 17 ครั้งเข้ากรอบ 7 ครั้ง แต่ได้มาแค่ประตูเดียว ขณะที่ วีแกน ได้ลุ้น 6 ครั้งเข้ากรอบ 1 ครั้ง

ฉะนั้นแล้ว จึงชัดเจนว่าแม้ทีมของ เทน ฮาก จะได้บู๊กับทีมสมันน้อย แต่ปัญหาของ ผีแดง ยังไม่ได้รับการสะสางเพราะหากไม่ได้ประตูจาก ดาโลต์ มันคงเป็นผลลัพธ์ในครึ่งแรกที่น่าหดหู่มากกว่านี้โดยเฉพาะหากแฟน ผีแดง หลับตานึกภาพว่าถ้าเป็นทีมอื่นที่ได้ฟัดกับคู่แข่งระดับ ลีกวัน พวกเขาน่าจะมีสกอร์นำในครึ่งแรกสักกี่ประตูจากโอกาสส่อง 17 ครั้ง

4. บรูโน่ โชว์กึ๋น

ในเมื่อทีมมีปัญหายิงประตูได้อย่างฝืดเคือง และหวิดโดนตีเสมอด้วยซ้ำจากโอกาสโต้กลับของ วีแกน เนื่องจากสกอร์นำแค่ 1-0 ถือว่าอันตราย และไม่มากพอสำหรับเกมลูกหนังยุคนี้โดยเฉพาะทีมที่มีปัญหายิงประตูอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด

ในที่สุด บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก็งัดเอาลูกเก๋าออกมาเรียกลูกโทษจากจังหวะกระชากบอลเข้ากรอบ 18 หลา แล้วเลือกล็อกหลบรอให้คู่แข่งเกี่ยวเท้าล้มแทนที่จะโยกไปหาจังหวะสับไกซึ่งปรากฏว่ากลเม็ดนี้ได้ผลเนื่องจากเขาโดน เลียม ชอว์ ทำฟาวล์จนได้ลูกโทษ แถมเจ้าตัวสังหารไม่พลาดพา แมนฯ ยูไนเต็ด คลายความกดดันนำหน้าเป็น 2-0 จนได้ในนาทีที่ 74

สำหรับประตูที่ว่านี้ถือเป็นการยิงลูกโทษให้ ผีแดง เป็นลูกที่ 28 แล้วจาก 32 ครั้งในทุกรายการของสตาร์ทีมชาติ โปรตุเกส ซึ่งถือเป็นสถิติที่ไว้วางใจได้ พร้อมทั้งนำเป็นดาวซัลโวลูกโทษในหมู่นักเตะของ พรีเมียร์ลีก ต่อไปนับตั้งแต่ดาวเตะเลือดฝอยทองประเดิมสนามกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากอันดับสองอย่าง โม ซาลาห์ ยิงลูกโทษไม่พลาด 22 ลูก ตามหลังอยู่หกลูก

อย่างไรก็ดี ประตูนี้เป็นประตูแรกที่ แฟร์นันด์ส สอยตาข่ายได้นับตั้งแต่เดือนพ.ย.ซึ่งชี้ให้เห็นว่าซีซั่นนี้เขามีผลงานที่ตกลงไป และไม่ใช่ "เดอะ แบก" ของทีมเหมือนอย่างที่เคยเป็นซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ ผีแดง มีผลลัพธ์ที่เลวร้ายอย่างต่อเนื่องในซีซั่นนี้

หลังกำชัย 2-0 ต้องบอกว่า ผีแดง ไม่ได้โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจเลยจากการครองบอลที่เหนือกว่า 67:33% และได้ยิงมากถึง 33 ครั้งเข้ากรอบ 14 ครั้ง แต่ได้มาแค่สองประตู ขณะที่เจ้าบ้านได้ยิง 9 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้งจึงแน่นอนว่ามันเป็นการบ้านที่กุนซือดัตช์จำเป็นจะต้องแก้ไขให้ได้ไม่ว่าจะเป็นการพยายามล่าตัวหัวหอกรายใหม่ในเดือนม.ค.หรือจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการเข้าทำประตูของทีมก็ตามแต่เนื่องจากโอกาสยิง 33 ครั้ง แต่ได้มาแค่สองประตู แถมไม่ใช่ฝีเท้าของหัวหอกซะด้วย มันถือเป็นเรื่องน่าช็อกอย่างแรง

5. แรชฟอร์ด ต้องดีกว่านี้

ซีซั่นนี้ แรชฟอร์ด เป็นนักเตะ ผีแดง อีกรายที่ถูกตำหนิไม่น้อยในหลายๆเกมจากฟอร์มการเล่นที่ตกลงไป ไม่อาจพังประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเหมือนซีซั่นที่ผ่านมา

และแน่นอนว่ามันรวมถึงเกมล่าสุดนี้ด้วยที่ศูนย์หน้าทีมชาติ อังกฤษ มีโอกาสคลำเป้าชนิดนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่อาจส่งบอลเข้าประตูได้แม้ทั้งนี้และทั้งนั้นต้องยกย่องฟอร์มของ แซม ทิคเคิ่ล มากเป็นพิเศษด้วยเช่นกันที่เซฟเป็นพัลวันในเกมนี้กระทั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ส่งบอลเข้าปะทะตาข่ายได้แค่สองหนเท่านั้น

อันที่จริง ฟอร์มในสนามเกมนี้ของ แรชฟอร์ด ไม่ได้ถึงกับเลวร้าย หากแต่มันจะดีกว่านี้หากเขาประสานงานกับพรรคพวกอย่างลงล็อกซึ่งเชื่อได้เลยว่าจะทำให้เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดังจะเห็นว่าหลายต่อหลายหนที่ แรชฟอร์ด ตัดสินใจดึงบอลเอาไว้กับตัวเองนานเกินทั้งๆที่เพื่อนวิ่งทำทางไปแล้ว และส่งผลให้เกมรุกในพื้นที่สุดท้ายไม่ไหลรื่น อีกทั้งบางจังหวะที่ควรจ่ายบอล แรชฟอร์ด กลับเลือกกระทุ้งเองซึ่งการตัดสินใจอย่างผิดที่ผิดทางแบบนี้เกิดขึ้นกับเขาบ่อยครั้ง

พูดง่ายๆได้เลยว่า แรชฟอร์ด ทำให้เพื่อนร่วมทีมเดาใจเขาได้ลำบากว่าจะเลือกยิงเอง หรือว่าจะผ่านบอลมาให้ซึ่งหลายครั้งมันทำให้จังหวะเกมของทีมผิดเพี้ยน และไม่เกิดผลดีต่อทั้งตัวเขาเอง และ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งซีซั่นนี้ ปีศาจแดง จำเป็นต้องเน้นถ้วยใบนี้อย่างเต็มตัวแล้ว หลังตกรอบทั้งศึก คาราบาวคัพ และ แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport