ทุลักทุเลดีแท้! แมนยู ชนะ พิลเซ่น วัดระดับทีมได้ชัดเจน

1. เมื่อเห็นรายชื่อผู้เล่นอย่าง ดิโอโก้ ดาโลต์, มาร์คัส แรชฟอร์ด และโจชัว เซิร์คซี่ ลงเป็นตัวจริงพร้อมกันก็พอคาดเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ???

แล้วนักเตะทั้ง 3 ตัวนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ

'แรช' เล่นเหมือนไม่มีอารมณ์ และไม่เอาอะไรเลย เหมือนประชดข่าวที่ออกมาว่า แมนยูไนเต็ด พร้อมขายในราคากันเอง

'อาจารย์ดู๋' มีบทบาทมากกว่า แต่จับบอลลั่น จ่ายบอลช้า แถมจ่ายไม่ตรง เลี้ยงก็ไม่ได้ ว่าแล้วก็ทำบอลเสียง่ายๆ แทบทุกจังหวะ

ส่วน 'คุณโล่ต์' ขนาดได้เล่นทางขวา ด้านถนัด มันก็ยังจ่ายผิดจ่ายถูกเหมือนเดิม !!!

2.รูปแบบการเล่นของ แมนยูไนเต็ด ในครึ่งแรก มันไม่มีห่าอะไรเลย

ไม่มีระบบ ไม่มีการประสานงาน ไม่มีทีมเวิร์ค ไม่มีรูปทรง ต่างคนต่างเล่น แบบค่อยๆ เล่นด้วยนะ เกมรุกไม่มีไอเดีย และเข้าทำกันแบบทื่อๆ 

ที่สำคัญคือไม่ค่อยวิ่ง ไม่ค่อยขยับ เกมที่เซ็ตขึ้นมาจากแดนหลังจึงขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า

เห็นแล้วน่าอนาถยิ่งนัก

3. แล้วก็มาเสียประตูง่ายๆ และโง่ๆ เหมือนเดิม

ขอบอกว่า แมนยูไนเต็ด เสียบอลมาตั้งแต่ ดิโอโก้ ดาโลต์ จ่ายชุ่ยๆ แล้ว

จังหวะที่ อองเดร โอนาน่า ครองบอล เขามีตัวเลือกที่ว่างกว่าทั้งด้านขวาและด้านซ้าย แต่กลับเลือกดึงจังหวะให้คู่ต่อสู้บีบเข้ามาก่อน แล้วจ่ายยัดให้เพื่อนที่ถูกคู่แข่งประกบอยู่ใกล้ๆ ซะอย่างนั้น

มึงคิดได้ไง อ้าย...ฟาย !!!

อย่างไรก็ตาม

การโดนนำ 1-0 กลายเป็นดี เพราะมันกระตุ้นให้พวกเขาอยู่เฉยไม่ได้ และกระตือรือร้นกันมากขึ้น เช่นเดียวกับพยายามเร่งเกมรุกมากขึ้น

4. ขอชื่นชม รูเบน อโมริม ที่แก้ปัญหาได้รวดเร็ว และถูกจุด

ไอ้แรช...มึงไม่อยากเล่นใช่ไหม งั้นก็ออกมา 

เอา ราสมุส ฮอยลุนด์ ลงไปแทนแล้วถอย 'ไอ้ดู๋' ลงมาเป็นตัวต่ำ ซึ่งมันก็เล่นไม่ได้เรื่องอยู่ดี

เมสัน เมาต์ จึงถูกส่งลงมาเป็นคนต่อไป รวมถึงปีกอย่าง อันโตนี่ ที่ถูกส่งลงมาแทน ไตเรลล์ มาลาเซีย แล้วไปเล่นเป็น วิง-แบ็คขวา

เกมเริ่มไฉไลขึ้นตามลำดับจนสามารถตีเสมอได้สำเร็จ

หลังจากนั้น แมนยูไนเต็ด ก็บุกขย่มอยู่ข้างเดียว ก่อนจะถอด 'พี่โล่ต์' ออกไปอีกตัว เพื่อส่งปีกที่มีความเร็วอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลงมาเล่นเป็น วิง-แบ็คซ้าย

วิง-แบ็ค 2 ข้าง จัดอยู่ในประเภท 'ปีก' แล้วเห็นไหมครับ เรียกว่าปรับทีม เพื่อเล่นเกมรุกแบบเต็มตัว

5. การเปลี่ยนตัวและแก้เกมของ รูเบน อโมริม ประสบความสำเร็จ เมื่อ แมนยูไนเต็ด แซงนำเป็น 2-1 ได้ก็จริง

ทว่าหลังจากขึ้นนำก็กลับมามั่วซั่วเหมือนเดิม เนื่องเพราะเป็นทีมที่ไม่มีมาตรฐานอะไร

มิเท่านั้นยังใช้โอกาสอย่างสิ้นเปลืองเหมือนเดิม

ราสมุส ฮอยลุนด์ ชาร์จจ่อๆ ไม่โดน จังหวะหลุดเข้าไปยิงก็ตัดสินใจช้าจนมุมเหลือน้อย

เมสัน เมาต์ มีโอกาสเหน่งๆ ถึง 2 ครั้ง ควรยิงได้สัก 1 ประตู แล้วไหนจะโอกาสตะบันของ อันโตนี่ ที่หวังพึ่งอะไรไม่ได้เลย

ขนาดเจอทีมเกรดต่ำของยุโรปนะครับยังต้องกระเสือกกระสนอย่างจงหนัก

ขอโทษ...ถ้าเป็นพวกพรี่ๆ ผู้อหังการเจอคู่แข่งเกรดนี้ รับรองได้เลยว่าไส้แตกไม่ต่ำกว่า 4 ดอก แน่นอน

มันวัดระดับของ แมนยูไนเต็ด และนาทีนี้ได้อย่างชัดเจน