แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีปัญหาในการยัดเยียดความปราชัยให้ทีมนายอำเภอจาก มอลโดว่า ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยคุณภาพผู้เล่นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ก่อนผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ (เพลย์ออฟ) ยูโรปา ลีก แน่นอนแล้ว
...ว่าแล้วมีเรื่องอยากจะบอก
1. ทีมเยือนมาในสูตร 10-0-0 ถอยลงไปรับลึกมากแบบโคตรรถบัสตั้งแต่นาทีแรก ถือเป็นบททดสอบเกมรุกของปีศาจแดงที่มักจะมีปัญหา เวลาครองบอลขึงเกมรุกบุกกระหน่ำใส่คู่แข่ง
ครึ่งแรกจึงค่อนข้างอึดอัด และกระสับกระส่าย โดยใช้โอกาสเปลืองไปหน่อย แต่ก็ยังพอเข้าใจได้
การได้ประตูนำก่อนหมดครึ่งแรกช่วยให้ผ่อนคลายความกดดันลงไปมากมายเลยทีเดียว
2. อเลฮานโดร การ์นาโช่ กองหน้ากึ่งปักซ้ายดาวรุ่งวัย 18 ขวบได้ลงตัวจริงเป็นครั้งแรกในทีมชุดใหญ่ ถือว่าโชว์ฟอร์มได้ไม่เลวเลยทีเดียว ด้วยกล้าเล่น กล้าลุย กล้าลาก และกล้าเลื้อย สร้างความระทมกบาลให้คู่แข่งพอสมควร
แม้จะมีผิดจังหวะบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจได้มากกว่า เจดอน ซานโช่ หากได้ลงเล่นบ่อยๆ บางที แมนฯ ยูไนเต็ด อาจไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อปีกซ้ายคนใหม่...ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าคู่แข่งคือ เชริฟฟ์ ที่มีอัตราความ 'อู๊ดดี้' สูงมากนะจ๊ะ
3. อันโตนี่ ถูกเปลี่ยนตัวออก หลังจบครึ่งแรก
อืมมมมมม...มองเผินๆ เหมือนถูกถอดออกไปพัก หลังลงเล่นต่อเนื่องมาหลายนัด
แต่บางที
ย้ำว่าบางทีอาจเพราะจังหวะควงบอลหมุนรอบตัวเอง 360 องศา ถึง 2 รอบ แบบไม่มีเหตุผลนั่นแหละที่อาจสร้างความไม่พอใจให้ เอริค เทน ฮาก
คือจังหวะนั้น มันไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่ต้อง 'โชว์ลูกเล่น' อันจัดอยู่ในประเภท 'ล่อตีน' แบบนั้น !!!
อดีตดาวเตะปีศาจแดง และนักวิจารณ์ฟุตบอลทางทีวีอย่าง พอล สโคลส์ ก็ให้ความเห็นถึงจังหวะนี้ประมาณว่า...ไม่เข้าท่า
4. สิ่งที่เด็กผีทางบ้านอย่างผมชอบในเกมนี้
5.เกมสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องบุกไปเอาชนะ เรอัล โซเซียดาด ให้ได้มากกว่า 1 ประตูนะครับ เพื่อเป็นแชมป์กลุ่ม ด้วย 'เฮด ทู เฮด' ที่เหนือกว่า
เพราะหากชนะแค่ประตูเดียว เฮด ทู เฮด จะเสมอกัน แต่ผลต่างประตูได้-เสียจะเป็นรอง เข้าเป็นที่ 2 ต้องไปเพลย์ออฟกับพวกที่ตกชั้นมาจาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
บอ.บู๋