เป็นไปตามความคาดหมายเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิด โรงละครแห่งความฝัน เผด็จศึก เชอริฟฟ์ ไปได้แบบหายห่วง 3-0 ในเกม ยูโรปาลีก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 ต.ค.
ขณะเดียวกัน มันยังเป็นเกมแรกในซีซั่นนี้ที่ ผีแดง ชนะคู่แข่งได้สามประตูโดยเก็บคลีนชีตได้สำเร็จ อีกทั้งพวกเขาไร้พ่ายมานานเจ็ดนัดติดต่อกันแล้วด้วย ขณะที่ 5 ประเด็นน่าสนใจของเกมมีดังนี้
1.ซานโช่ หลีกทางให้ การ์นาโช่
จากโผ 11 ตัวจริงของ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นที่สังเกตได้ว่า เอริค เทน ฮาก กุนซือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ยังพยายามให้โอกาส ไทเรลล์ มาลาเซีย แบ็คซ้ายที่เขาเซ็นสัญญามาร่วมทีม ผีแดง เป็นรายแรกในช่วงซัมเมอร์ แม้เท่าที่ผ่านมา ปราการหลังทีมชาติ ฮอลแลนด์ จะยังสร้างผลงานได้ไม่ดีพอ และถูก ลุค ชอว์ แย่งตำแหน่งกลับคืนไปได้ในระยะหลัง
นอกจากนี้ อีกตำแหน่งที่มีการปรับเปลี่ยนตามความคาดหมายได้แก่ เจดอน ซานโช่ สตาร์ทีมชาติ อังกฤษ ซึ่งจนป่านนี้แล้วยังเล่นได้ไม่น่าประทับใจเอาซะเลย และต้องหลีกทางให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ตัวรุก อาร์เจนไตน์ วัย 18 ปีออกสตาร์ตแทนในตำแหน่งปีกซ้ายเป็นตัวจริงนัดแรกของเขากับสโมสร แม้อันที่จริงกุนซือดัตช์น่าจะเหลียวมองมาที่ แอนโธนี่ อีแลงก้า มากกว่าก็ตาม
"เขาซ้อมได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยเหตุนี้เขาจึงสมควรได้รับโอกาส" เทน ฮาก เผยเหตุผลถึงการใส่ชื่อ การ์นาโช่ เป็นตัวจริงของทีมนัดแรก
"เขาวิ่งทะลุช่องได้ เขาลากบอลได้ เขายิงประตูได้ ผมหวังว่าเขาจะทำได้ดีในคืนนี้"
2.ใครคือ เปยิสตรี้?
ผิดไปจากที่สื่อพากันคาดหมายเมื่อเอาเข้าจริง ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ มีชื่อในเกมต้อนรับ นายอำเภอ เป็นเพียงตัวสำรองอีกตามเคยแม้จะเป็นที่เชื่อกันว่านัดนี้ เทน ฮาก ส่อแววส่งเขาออกสตาร์ตเป็น 11 ตัวแรก
ว่าถึงปีกทีมชาติ อุรุกวัย วัย 20 ปี หลังย้ายมาจาก เปนญารอล สโมสรในบ้านเกิดเมื่อปี 2020 ด้วยค่าตัว 9 ล้านยูโร เขายังไม่เคยลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ ผีแดง เลยโดยถูกปล่อยให้ อลาเบส ทีมในลีกกระทิงดุยืมไปใช้งานสองซีซั่นที่ผ่านมา กระทั่งมีการซุบซิบกันว่าผู้จัดการทีมสกินเฮดจะส่งเขาลงบู๊กับ เชอริฟฟ์ หลังใส่ชื่อดาวเตะละตินเป็นตัวสำรองในเกม พรีเมียร์ลีก ติดต่อกันห้านัดแล้ว
กระนั้นก็ดี หากยังจำกันได้ เปยิสตรี้ ถูก เทน ฮาก หนีบมาเล่นเกมปรีซีซั่นที่เมืองไทยด้วย และเขาได้ลงสนามเป็นตัวสำรองแทน ซานโช่ ช่วงออกสตาร์ตครึ่งหลังก่อนซัดลูกปิดท้ายในนาทีที่ 76 พาทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ขยี้ ลิเวอร์พูล 4-0 ที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน
3.เกมแจ้งเกิดนายทวาร (อีกแล้ว)
ทำไปทำมา แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมที่ปั้นนายทวารฝ่ายตรงข้ามไปซะแล้วยามที่ได้ต่อกรกับทีมอ่อนชั้นกว่า และมีโอกาสคลำเป้าถี่ยิบ
อย่างก่อนหน้านี้ในเกม ยูโรปาลีก นัดเฝ้าบ้านเฉือนชนะ โอโมเนีย 1-0 จากฝีเท้าของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ตัวสำรองในช่วงทดเวลา ผีแดง ก็ทำให้โลกลูกหนังได้รู้จัก ฟรานซิส อูโซโฮ ประตูมือสองของทีมเยือนซึ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเนื่องจากนายทวารมือหนึ่งของทีมบาดเจ็บ และปรากฏว่าขุนพลทีมชาติ ไนจีเรีย โชว์ฟอร์มเซฟเป็นพัลวันทั้งๆที่ ผีแดง มีโอกาสส่องยิงตลอดทั้งเกม 34 ครั้ง และเข้ากรอบ 13 ครั้ง แต่ได้มาแค่ประตูเดียวเท่านั้น
มาเกมนี้ก็อีกเช่นกันที่กว่าจะเบิกตาข่าย เชอริฟฟ์ เม็ดแรกได้จากลูกโขกของ ดีโอโก้ ดาโลต์ ซึ่งเป็นประตูที่สองของเขากับสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องรอนานจนถึงท้ายครึ่งแรกเนื่องจาก มักซิม โควาล นายทวารชาวยูเครนวัย 29 ปีงัดฟอร์มหนึบเซฟลูกอันตรายได้หลายหน
แม้นัดก่อนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปกำชัย 2-0 โควาล จะเสียสองเม็ดในครึ่งแรกนาทีที่ 17 และ 39 ให้กับ ซานโช่ และ โรนัลโด้ แต่เกมนี้เขาถูก ผีแดง ส่องยิงก่อนที่ตาข่ายจะขาดรวม 13 ครั้ง และเข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่ เชอริฟฟ์ ไม่มีโอกาสทักทายเจ้าบ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียวก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะจบลง
รวมแล้ว 90 นาที โควาล เซฟได้ 7 ครั้งจากจังหวะที่บอลเข้ากรอบ 10 ครั้งโดย แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ตะบันประตูทั้งสิ้น 24 ครั้ง ผิดกับนายอำเภอที่ไม่ได้ง้างไกให้ ดาบิด เด เคอา ได้ออกแรงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆที่นัดก่อนพวกเขาได้ยิงตลอดทั้งเกม 11 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้ง แม้จะไม่เป็นประตูก็ตาม
4.โรนัลโด้ คัมแบ็คพร้อมสกอร์
ในฐานะกองหน้า และดาวซัลโวของทีมซีซั่นก่อน มันแน่นอนอยู่แล้วว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กระหายที่จะยิงประตูมากแค่ไหน โดยเฉพาะในซีซั่นนี้ซึ่งเขาหล่นมาเป็นตัวสำรอง และมีโอกาสได้ลงเล่นน้อยลง
อย่างไรก็ดี ซีอาร์เซเว่น ได้ออกสตาร์ตทุกเกมของถ้วย ยูโรปาลีก และหลังพ้นโทษแบนจากเจ้านาย เขาก็มุ่งมั่นที่จะเพิ่มสกอร์ให้กับตัวเองให้ได้ แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เป็นใจในเกมต้อนรับ เชอริฟฟ์ เนื่องจากพระเอกของเรามีโอกาสหลายหน แต่พลาดเป้าไปหมด หรือไม่ก็โดนเซฟ
ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะทำประตูได้ก็เป็นจังหวะล้ำหน้าซะอีก แต่สุดท้ายแล้วก่อนหมดเวลาเก้านาที หัวหอกวัย 37 ปีก็คลายความอัดอั้นตันอกของตัวเองได้สำเร็จด้วยการพังประตูปิดท้ายให้ทีมได้เป็นเม็ดที่ 701 ของตัวเองซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทุกฝ่ายเพราะหาไม่แล้วหากเท้าบอดในเกมชนะทีมรองบ่อน บางทีสตาร์ดังอาจเดินหน้ามุ่ยออกจากสนามชนิดบอกบุญไม่รับก็เป็นได้
5.แรชฟอร์ด อีกเม็ดครบร้อย
ต้องยอมรับจริงๆว่าซีซั่นนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กลายเป็นจอมถล่มประตูที่เฉียบขาดมากขึ้นเยอะเนื่องจากใช้โอกาสไม่เปลืองเหมือนก่อนแล้ว และในเกมขยี้ เชอริฟฟ์ กองหน้าผิวสียังคลำเป้าได้อีกแม้จะลงเล่นเป็นตัวสำรองก็ตาม
ต่อประตูดังกล่าว มีการเปิดเผยว่าเป็นลูกที่ 99 ของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว มันจึงแน่นอนว่าไม่ช้าก็เร็วที่ แรชฟอร์ด จะได้ฉลองประตูที่ 100 ของเขากับต้นสังกัด
ขณะเดียวกัน หลังมีอาการบาดเจ็บรบกวน และหลุดโผทีมชาติ อังกฤษ ในระยะหลัง เชื่อได้เลยว่าด้วยฟอร์มที่ฉกาจฉกรรจ์ในปัจจุบัน สตาร์ดังของรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด จะต้องถูก แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกตัวไปติดธงชุดสู้ศึก ฟุตบอลโลก อย่างแน่นอน
แต่สำหรับ ซานโช่ ซึ่งถูกเจ้านาย ทรี ไลอ้อนส์ มองข้ามเช่นกันในระยะหลัง บางทีเขาอาจไม่มีชื่อบินไปที่ กาตาร์ ก็ได้ในเมื่อยังเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ไม่สมกับค่าตัว แถมเผลอๆอาจโดน เทน ฮาก ดร็อปเป็นตัวสำรองยาวด้วยซ้ำเนื่องจาก ปีศาจแดง มีผู้เล่นในตำแหน่งปีกหลายรายที่พร้อมถูกเรียกใช้งานทุกเมื่อ