ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คือปรากฏการณ์ของฤดูกาล 2023/24 โดยแท้
ผมเขียนถึงพวกเขาบ่อยอย่างเหลือเชื่อ เพราะทีมของ ชาบี อลอนโซ่ เดินหน้าสร้างความเหลือเชื่อไม่หยุดหย่อนจริง ๆ
จนถึงเวลานี้พวกเขาก็ยังไม่แพ้ใคร
49 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้วครับที่เลเวอร์คูเซ่นยังไม่แพ้ใคร..
เล่นอย่างไรก็ไม่แพ้ จวนเจียนจะแพ้แค่ไหนก็ยังไม่แพ้
ในเกมล่าสุดกับโรม่า เป็นอีกครั้งที่ เลเวอร์คูเซ่น ถูกนำ 2 ประตูและกลับมาได้ อันที่จริงสกอร์ 1-2 เมื่อเข้าสู่ช่วงทดเวลายังเพียงพอให้พวกเขาผ่านเข้าชิง ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ด้วยความที่เกมแรกบุกไปชนะมาก่อน 2-0
แต่ไม่ใช่สำหรับ เลเวอร์คูเซ่น ที่กำลังไล่ล่าสร้างประวัติศาสตร์ไม่แพ้ใครในทุกรายการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทีมห้างขายยาตีเสมอ 2-2 ได้ในนาทีที่ 90+7
อีกครั้ง และอีกครั้ง
ประตูตีเสมอนี้ฉิวเฉียดขนาดไหนน่ะหรือครับ.. ก็ขนาดที่ว่าเมื่อเอาบอลมาเขี่ยปุ๊บ ผู้ตัดสินก็เป่าหมดเวลาปั๊บ
ประตูของ โจซิป สตานิซิช ลูกนี้จึงเป็นการยิงตีเสมอในสัมผัสสุดท้ายของเกม ถ้าไม่นับการเขี่ยบอลเริ่มใหม่ของผู้เล่นโรม่า
ฉิวเฉียดขนาดนั้น
ฤดูกาลนี้ เลเวอร์คูเซ่น ทำเรื่องแบบนี้หลายครั้งครับ ไม่ใช่แค่ครั้งแรก ไม่ใช่ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง 4 ครั้ง
ถ้านับประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาก็ 6 ครั้ง
ถ้านับประตูตีเสมอในช่วง 2 นาทีสุดท้ายเข้าไปด้วยก็ 8 ครั้ง
ถ้านับประตูตีเสมอในช่วงราว 10 นาทีสุดท้ายเข้าไปอีกก็ 9 ครั้ง
ถ้านับประตูตีเสมอในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกมเข้าไปเสริมก็คือ 12 ครั้ง
ยังไม่รวมประตูตีตื้นจากที่ตามอยู่ 2 ประตูมาเหลือประตูเดียวอีกมากมายที่เป็นพื้นฐานให้ทีมกลับมาสร้างสถิติไร้พ่ายต่อไปได้ บางเกมไม่เพียงไล่ตีเสมอแต่พลิกกลับมาชนะได้เลย
ฤดูกาลนี้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทำประตูในนาที 90 และช่วงทดเวลาทั้งหมด 17 ลูก
ใน 17 ลูกนั้น บางประตูไม่ได้สำคัญอะไรเพราะเป็นการยิงฝังให้ทีมชนะขาด
แต่มีอยู่ 8 ประตูที่บ่งบอกถึงบุคลิกไม่ยอมแพ้ของพวกเขาอย่างชัดเจน
6 จาก 8 ประตูเป็นการยิงตีเสมอให้ทีมรอดพ้นจากความพ่ายแพ้ เป็นฐานต่อยอดให้มาถึงวันนี้ที่ยังไม่แพ้ใคร 49 เกมติดต่อกัน
-ยิงตีเสมอ บาเยิร์น มิวนิค 2-2 นาที 90+4 (บุนเดสลีกา)
-ยิงตีเสมอ คาราบัค 2-2 นาที 90+2 (ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก)
-ยิงตีเสมอ คาราบัค 2-2 นาที 90+3 (ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีม นัดสอง)
-ยิงตีเสมอ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 1-1 นาที 90+7 (บุนเดสลีกา)
-ยิงตีเสมอ สตุ๊ตการ์ท 2-2 นาที 90+6 (บุนเดสลีกา)
-ยิงตีเสมอ โรม่า 2-2 นาที 90+7 (ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง)
นั่นคือ 6 จาก 8 ประตูสำคัญในช่วงทดเวลา มันพาทีมรอดพ้นความพ่ายแพ้ ส่วนอีก 2 ประตูคือประตูชัยที่ได้มาจากการเดินหน้าต่อเนื่องหลังยิงตีเสมอคู่แข่งได้แล้ว
-ยิงประตูชัย 2-1 ใส่ ฮอฟเฟ่นไฮม์ นาที 90+1 หลังไล่ตีเสมอ 1-1 นาที 88 (บุนเดสลีกา)
-ยิงประตูชัย 3-2 ใส่ คาราบัค นาที 90+7 หลังไล่ตีเสมอ 2-2 นาที 90+3 (ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีม นัดสอง)
8 ประตูบีบหัวใจในช่วงทดเวลา.. 6 ลูกตีเสมอ อีก 2 ลูกแซงชนะ
ไม่เพียงเท่านั้น เลเวอร์คูเซ่น ยังเพิ่มเข้าไปอีก 2 เกมที่รอดพ้นความพ่ายแพ้ด้วยประตูในช่วง 2 นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน
-ยิงตีเสมอ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 1-1 นาที 88 (ชนะ 2-1 บุนเดสลีกา)
-ยิงตีเสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 นาที 89 (บุกเสมอ 1-1 ยูโรปา ลีก รอบ 8 ทีม นัดสอง)
และอีก 3 ครั้งที่ต้องบวกเพิ่มเข้าไปอยู่ในประวัติการแพ้ยากของพวกเขาในฤดูกาลนี้ด้วย คือการยิงตีเสมอในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม
-ยิงตีเสมอ แอร์เบ ไลป์ซิก 2-2 นาที 63 (บุกชนะ 3-2 บุนเดสลีกา)
-ยิงตีเสมอ สตุ๊ตการ์ท 2-2 นาที 66 (ชนะ 3-2 บุนเดสลีกา)
-ยิงตีเสมอ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 1-1 นาที 79 (เสมอ 1-1 บุนเดสลีกา)
49 เกมติดต่อกันที่ไม่แพ้ใครในทุกรายการ ทำลายสถิติ 48 เกมของ เบนฟิก้า ยุครุ่งเรืองที่ทำไว้ระหว่าง ธันวาคม 1963 ถึงกุมภาพันธ์ 1965 อย่างมีสไตล์ด้วยประตูตีเสมอ โรม่า นาที 90+7 เมื่อคืนวันพฤหัสฯ
เดินหน้าสู่ 4 เกมสุดท้ายของฤดูกาล เป็นเกมลีก 2 นัด เกมฟุตบอลถ้วยอีก 2 นัด
เยือน โบคุ่ม
เหย้า เอาก์สบวร์ก
ชิง ยูโรปา ลีก กับ อตาลันต้า ที่ดับลิน
ชิง เดเอฟเบ โพคาล กับ ไกเซอร์สเลาเทิร์น ที่เบอร์ลิน
49 เกมไม่แพ้ใคร
เดินหน้าสู่ทริปเปิลแชมป์
เดินหน้าสู่การทำ Invincible Treble ทีมแรกในประวัติศาสตร์
เดินหน้าต่อไป.. ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
ตังกุย