พลพรรค "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล บุกเชือด อตาลันต้า ถึงถิ่นเลยนะครับ เพียงแต่มันไม่พอที่จะช่วยให้พวกเขาเข้ารอบต่อไปใน ยูโรปา ลีก ตกรอบไปอีกรายการ
...ว่าแล้วผมก็มีเรื่องอยากจะบอก
1. ลิเวอร์พูล เปิดหัวได้ไฉไลเป็นบ้า เมื่อทำประตูแรกได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ 7 นาทีเท่านั้นเอง
เรียนตามตรงว่าโคตรหลอน เพราะมันทำให้นึกถึงรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อ 2019 ที่เปิดบ้านถล่ม บาร์เซโลน่า 4-0
2.ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ครองบอลบุกเหนือกว่าชัดเจน และหลังขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วก็พยายามตามล่าประตูที่ 2
ภาพตัดกลับมาอีกครั้ง โม ซาล่าห์ ก็หลุดเดี่ยว ก่อนกระดกข้ามหัวนายทวารคู่แข่ง แต่ทว่ามันดันหลุดกรอบออกไปแบบน่าเกลียดน่ากลัวตัวละ 3 บาท
จังหวะนี้สำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะหากสกอร์ขยับเป็น 2-0 นอกจากกำลังใจจะมาเต็มๆ คู่แข่งของพวกเขาจะเกิดอาการสติแตกจนระส่ำอย่างแน่นอน
3.หลังผ่านไป 20 นาที อตาลันต้า เริ่มตั้งหลักได้จนสร้างความลำบากใจให้ ลิเวอร์พูล มากขึ้นเรื่อยๆ
เหลี่ยมเล่ห์และกลยุทธ์ในการเล่นเกมรับของทีมจาก อิตาลี ทีมนี้น่าศึกษามากนะครับ เพราะเป็นแท็คติกเดียวกับที่เห็นในกีฬาบาสเก็ตบอลบ่อยๆ
นั่นคือ "แมน ทู แมน" หรือการประกบติดทุกตำแหน่งแบบตัวต่อตัวเลยทีเดียว
ผู้เล่นหงส์แดงเหมือนถูกวิญญาณผีฮ่องกงเกาะติดแบบไปไหนไปด้วยจนต้องพยายามวิ่งสลับตำแหน่งกันตลอดเวลา กระนั้นก็ยังสลัดไม่ค่อยหลุด เพราะนักเตะเจ้าถิ่นเคร่งครัดในแผนการเล่นแบบไม่มีเสียสมาธิเลย
4.ผมเห็นพวกพรี่ๆ บ่นกันระงมในโลกโซเชี่ยลว่า ลิเวอร์พูล ห่วยแตก เอาแต่ต่อบอลกันอยู่ในแดนแล้วก็ส่งคืนหลัง
ส่วนเกมรุกอาศัยการสาดยาวไปข้างหน้าเหมือนทีมในระดับแชมเปี้ยนชิพของอังกฤษ
เหตุผลที่ต้องเล่นแบบนี้ก็อยู่ในข้อ 3 ที่ผมกล่าวไปแล้วนั่นยังไง
การถูกมาร์คตัวทุกตำแหน่งทำให้พวกพรี่ๆ เขาเซ็ตเกมรุกจากในแดนและพลิกบอลไปข้างหน้าไม่ถนัด เพราะคู่แข่งเข้าถึงตัวเร็วทุกจังหวะ
สุดท้ายจึงจำเป็นต้องวางบอลยาวไปหลังไลน์ เพราะการขยับขึ้นมาบีบสูงของคู่แข่งทำให้หลังลอยจนเกิดพื้นที่ว่างมากมาย
เพียงแต่บอลยาวของทีมเยือนก็ขาดความแม่นยำเสียอีก บอลส่วนใหญ่จึงลึกไปถึงมือของผู้รักษาประตู
5. ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ยิ่งเหนื่อยใจ และยิ่งเร่งเกมก็ยิ่งผิดพลาด
ลิเวอร์พูล จึงแทบไม่มีโอกาสทำลายตาข่ายเลยในครึ่งหลัง หากไม่ได้จุดโทษก็ทำประตูไม่ได้ แถมตอนนี้กลายเป็นทีมที่ใช้โอกาสเปลืองไปแล้ว
โบนัส แทร็ค: เด็กหงส์หลายท่านแสดงอาการหงุดหงิดทีมตัวเองที่เล่นไม่ได้ดั่งใจ โดยไม่ดูเลยว่าคู่แข่งเขาวางแผนมาอย่างไร
ขณะเด็กผีอย่างผมมองว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็พยายามแก้หมากของ อตาลันต้า ทุกวิถีทางแล้ว และผู้เล่นก็พยายามแล้ว
เพียงแต่การคาบ้าน 3-0 จากนัดแรก มันเป็นภารกิจที่โคตรยากระดับ "มิสชั่น อิมพอสซิเบิ้ล เด๊ด เรคค่อนนิ่ง" เลยทีเดียว ฮรี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ