ปี๊บหวิดขายดีอีกรอบ,แรชฟอร์ด-มาร์กซิยาล กู้หน้าผี!5ข้อ แมนยู ชนะ โอโมเนีย สุดหืด

ปี๊บหวิดขายดีอีกรอบ,แรชฟอร์ด-มาร์กซิยาล กู้หน้าผี!5ข้อ แมนยู ชนะ โอโมเนีย สุดหืด
เกือบเป็นเกมที่ขายหน้าครั้งใหญ่สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งบุกไปเยือนทีมรองบ่อนทำศึก ยูโรปาลีก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และทำได้แค่ซิวชัยเหนือ โอโมเนีย นิโคเซีย แบบหวุดหวิดเป็นที่สุด 3-2

แม้จะเป็นเกมที่ไม่น่าประทับใจอย่างที่ควรจะเป็น แต่ยังไงซะการเก็บได้สามแต้มเต็มของ ผีแดง ก็ทำให้ เอริค เทน ฮาก สร้างผลงานได้ตามเป้า แต่แน่นอนว่ากุนซือดัตช์ยังมีงานหนักให้ต้องทำอีกบานตะไทเพื่อพาทีมประสบความสำเร็จให้จงได้

1.กาเซมีโร่ ตัวจริงตามคาด


ในที่สุด กาเซมีโร่ ก็ถูกส่งลงเล่นเป็นตัวจริงนัดที่สองของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวมหาศาล

ต่อการได้รับโอกาสที่น้อยนิดของกองกลางทีมชาติ บราซิล เอริค เทน ฮาก ให้เหตุผลว่าขึ้นอยู่กับผลงานของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เป็นสำคัญ แถม กาเซมีโร่ เองยังไม่ฟิตเต็มสูบด้วย แต่สุดท้ายแล้วดาวเตะทีมชาติ สกอตแลนด์ ก็ได้พักเพื่อเปิดทางให้สตาร์ละตินลงบู๊

นอกจาก กาเซมีโร่ แล้วอีกตำแหน่งที่ผู้จัดการทีมชาวดัตช์สลับสับเปลี่ยนหากจะยึดเอาเกมก่อนหน้านี้ในรายการเดียวกันที่ ผีแดง บุกไปอัด เชอริฟฟ์ 2-0 เป็นตัวตั้งก็คือ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติ สวีเดน ที่ได้เสียบแทน ราฟาแอล วาราน ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน

กระนั้นก็ดี หากจะนับจากเกมออกไปแพ้ แมนฯ ซิตี้ ก็ต้องถือว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ปรับทัพสามตำแหน่งโดยมี คริสเตียโน่  โรนัลโด้ ได้ออกสตาร์ตแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด เพิ่มเติมอีกราย

2.มาลาเซีย ไว้ใจไม่ได้แล้ว


 ในสองสามเกมที่ผ่านมา ไทเรลล์ มาลาเซีย ถูกวิจารณ์ว่าไม่ใช่แบ็คซ้ายที่แข็งแกร่งมากพอ และจากเกมโดน แมนฯ ซิตี้ ขยี้เละ ดาวเตะทีมชาติ ฮอลแลนด์ ก็ถูกเผยให้เห็นธาตุแท้จนโดนเปลี่ยนออกในช่วงครึ่งหลังให้ ลุค ชอว์ ลงสนามแทน

ฉะนั้นแล้ว จึงเป็นที่คาดกันว่าแบ็คซ้ายทีมชาติ อังกฤษ มีโอกาสทวงตำแหน่งตัวจริงกลับคืนมาในเกมบุกไปเยือน โอโมเนีย แต่ปรากฏว่า เทน ฮาก ยังมั่นใจในตัวนักเตะใหม่รายแรกที่เขาดึงมาเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ซึ่งในที่สุด มาลาเซีย ก็ก่อความผิดพลาดจนทำให้ทีมเสียประตูก่อน

เท่านั้นไม่พอ จะเห็นได้ว่าเจ้าบ้านคึกคักกันทันทีหลังคลำเป้าได้โดยเดินเกมรุกโจมตีใส่ ผีแดง อย่างไม่กลัวเกรงอีกแม้จบครึ่งแรกจะบวกสกอร์เพิ่มไม่สำเร็จก็ตาม

3. ครึ่งแรกที่น่าอับอาย

เทน ฮาก ให้สัมภาษณ์หลังเกมแพ้ แมนฯ ซิตี้ 6-3 ว่าเป็นผลลัพธ์ที่ไม่อาจยอมรับได้เนื่องจากนักเตะไม่มีความมั่นใจ และไม่กล้าเล่นมากพอ

ต่อฟอร์มที่เลวร้ายดังกล่าว คริสเตียน เอริคเซ่น กองกลางทีมชาติ เดนมาร์ค เผยกับสื่อหลังเกมว่าเจ้านายเรียกประชุมในวันจันทร์ทันทีเพื่อวิเคราะห์ถึงความผิดพลาด แต่ดูจากเกมในครึ่งแรกที่ ไซปรัส แล้วบอกได้เลยว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรแม้แต่น้อย

หากเกมแพ้ เรือใบสีฟ้า ถือว่าน่าอายแล้ว เกมใน 45 นาทีแรกที่ตกเป็นรอง โอโมเนีย 1-0 ยิ่งน่าอายกว่าซะอีกเนื่องจาก ปีศาจแดง เสียประตูให้ฝ่ายตรงข้ามที่ต่ำชั้นกว่าหลายขุม

และที่สำคัญ เจ้าบ้านมั่นใจกันขึ้นมาทันทีหลังเบิกสกอร์ได้สำเร็จตั้งแต่การได้ง้างยิงหนแรกของเกมเพราะนับจากนั้นพวกเขาทำเอา ผีแดง รวนเรหลายหน และได้ส่องยิงเพิ่มอีกสี่หนรวมเป็นห้าหน แม้จะเข้ากรอบที่เป็นสกอร์แค่หนเดียวก็ตามจากเปอร์เซนต์การครองบอลที่ด้อยกว่าถึง 24:76% ขณะที่ทีมจาก พรีเมียร์ลีก ได้ส่องยิง 12 หนในครึ่งแรก และเข้ากรอบสองหน แต่ไม่เป็นประตู

4.ครึ่งหลังดีขึ้นแต่ไม่สุด

จากสกอร์ที่ตกเป็นรองอย่างน่าช็อค 1-0 ในครึ่งแรก ต้องถือว่า เทน ฮาก แก้เกมได้สำเร็จกับการถอดสองขุนพลทางกราบซ้ายทั้ง มาลาเซีย และ เจดอน ซานโช่ ที่ยังเล่นได้เอาอ่าวออกไปโดยส่ง ชอว์ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงไปแทน

และในเวลาไม่นาน แรชฟอร์ด ก็ซัดตีเสมอได้ จากนั้น อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ถูกส่งลงสนามตามหลังก็สร้างชื่อยิงให้ทีมแซงนำ 2-1 คลายความกดดันลงไปได้เยอะก่อนที่ แรชฟอร์ด จะซัดเม็ดสองของตัวเองให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หนีห่าง 3-1

ด้วยเหตุนี้ แรชฟอร์ด จึงกลายเป็นนักเตะตัวสำรองรายแรกของ ปีศาจแดง ที่ทั้งยิงและแอสซิสต์ได้ในเกมเดียวกันสำหรับการลงเล่นถ้วย ยูโรปาลีก ซึ่งเป็นเกมที่ 47 ของสโมสรในรายการนี้

นอกจากนี้ ห้าประตูหลังที่ ผีแดง ทำได้ในทุกรายการยังเป็นผลงานของตัวสำรองเรียบวุธอีกด้วย ขณะที่ แรชฟอร์ด เองยิงได้ห้าเม็ดและสามแอสซิสต์แล้วจากแปดเกมในซีซั่นนี้

อย่างไรก็ดี ช่วงห้านาทีสุดท้าย โอโมเนีย ทำสกอร์ไล่ตามมาได้ 3-2 ซึ่งทำให้สถานการณ์ของ ผีแดง กลับคืนสู่ความอลหม่านอีกรอบแม้สุดท้ายแล้วทีมจากเมืองผู้ดีจะคว้าชัยกลับประเทศได้สำเร็จก็ตาม

จากผลลัพธ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าทีมจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ยังมีปัญหาให้ต้องแก้ไขอีกมากมายหลังโดนสมันน้อยกระซวกตาข่ายได้ถึงสองเม็ดจากโอกาสทั้งหมด 9 ครั้งของพวกเขาตลอด 90 นาทีซึ่งเป็นการส่งบอลเข้ากรอบได้สี่ครั้ง และเป็นสองประตู

สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้สับไกมากถึง 28 ครั้ง แต่ได้มาแค่สามเม็ดจากการส่งบอลเข้ากรอบ 8 ครั้ง และมีเปอร์เซนต์ครองบอลตลอดทั้งเกมเหนือกว่า 73:27%

5.โรนัลโด้ โนสกอร์


เป็นอีกรายที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงตามคาดสำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แถมกองหน้าวัย 37 ปีได้อยู่ในสังเวียนแข้งตลอด 90 นาทีด้วย

แต่ให้น่าเสียดายที่ ซีอาร์เซเว่น ไม่มีสกอร์ติดตัวเป็นประตูที่ 700 ในเกมระดับสโมสรของเขาแม้จะถูกคาดหมายว่าน่าจะเช็คบิลเพิ่มได้ในเกมนี้ แต่โชคร้ายซัดบอลไปชนเสาหลังจากอุตส่าห์แอสซิสต์ให้ แรชฟอร์ด กดเม็ดสองได้ซึ่งไม่ชัดเจนว่าจริงๆแล้วเจ้าตัวหวังสับไกเองหรือเปล่าสำหรับจังหวะนั้น

จากฟอร์มที่ปรากฏ มันตอกย้ำว่า โรนัลโด้ อยู่ในช่วงขาลงที่ไม่อาจเล่นได้ในระดับสุดยอดของตัวเองอีกต่อไปแล้วโดยเฉพาะความเชื่องช้าที่เพิ่มมากขึ้นตามสังขารซึ่งค่อยๆทำลายโอกาสทำประตูของเขาให้ลดน้อยลงไปทุกที

ด้วยเหตุนี้ จึงน่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับทุกฝ่ายหากเจ้าตัวได้ย้ายทีมในเดือนม.ค.เพราะมองดูแล้วขืนอยู่กับ ผีแดง ต่อไปเขาก็ต้องนั่งเป็นตัวสำรองโดยส่วนใหญ่ หากแต่คำถามสำคัญก็คือจะมีทีมไหนที่กล้าจ่ายค่าแรงอย่างแพงดึงสตาร์พ่อลูกดกไปร่วมทัพ


ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport